'เอกนัฏ'สั่งทีมสุดซอยขยายผลจับโรงงานลอบขนย้ายขยะอิเล็กฯ1,200ตัน
'เอกนัฏ พร้อมพันธุ์' รมว.อุตสาหกรรม สั่งทีม "สุดซอย" ขยายผลจับโรงงานลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ สมุทรสาคร อีกกว่า 1,200 ตัน พบเป็นเครือข่ายเดียวกัน กับ2โรงงานที่ปราจีนบุรี โดนคำสั่งปิดกิจการไปก่อนหน้านี้
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งทีมตรวจการสุดซอยนำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม และนายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด จ.สมุทรสาคร โดยมี พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย พบมีการลักลอบประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ครอบครองวัตถุอันตรายขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 1,200 ตัน พบเครื่องจ่ายไฟฟ้าสำหรับเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (มอก.) และพบของกลางบางส่วนที่คาดว่านำมาจาก บริษัท ทีแอนด์ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด จ.ปราจีนบุรี ที่ถูกกระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดไปตั้งแต่เดือน ก.ย.67 เนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535
นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร จึงบังคับใช้มาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.โรงงานฯ สั่งให้ บริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด หยุดประกอบกิจการ และยึดอายัดของกลางทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อหาและดำเนินคดีฐานกระทำผิด พ.ร.บ.โรงงานฯ ดังนี้
1. ตั้งโรงงานและประกอบกิจการจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. เปลี่ยนแปลงเครื่องจักรโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ เป็นความผิดตามมาตรา 19 อันมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
3.ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และ 4.เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ยังได้แจ้งข้อหาในส่วนของเครื่องจ่ายไฟฟ้าไม่มีเครื่องหมาย มอก. มีโทษตามมาตรา 55 จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาร่วมกันลักลอบเคลื่อนย้ายทำลายของกลาง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปและปรับตั้งแต่ 40,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 68 รถบรรทุกของ บริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด ทำของหล่นบนท้องถนน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบว่า ขนของออกมาจากบริษัท หัวไท้ เชิงเหอ จำกัด ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงงานถูกดำเนินคดีประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีสิ่งของที่อยู่ระหว่างคำสั่งยึดอายัด จากอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี
จากการสอบปากคำผู้รับจ้างที่เป็นเจ้าของรถบรรทุก ได้รับการติดต่อประสานงานทางไลน์กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุก จึงมารับจ้างขนจากโรงงาน โดยขนมาจำนวน 2 คัน เป็นรถหัวลากพื้นเรียบ โดยมีปลายทางคือ บริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด นายเอกนัฏ จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิติการสุดซอยขยายผลเข้าตรวจสอบ บริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด ก่อนพบการกระทำผิดดังกล่าว.