นายกฯอิ๊งค์เผยเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เคาะสถานที่ตั้ง

30 มกราคม 2568

นายกฯแพทองธาร ชินวัตร เผยยังไม่มีการระบุ สถานที่ตั้ง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเพียงการระดมสมองจะให้ออกมาในรูปแบบใด ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทยต้องใช้เวลา

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวความคืบหน้าการจัดทำร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ว่า ยังไม่มีการระบุเรื่องสถานที่ตั้ง เป็นเพียงการระดมสมองว่า อยากให้ออกมาในรูปแบบใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทยจึงต้องใช้เวลา ส่วนประเด็นเรื่องการตรวจสอบนั้นยังอยู่ในกระบวนการ ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้แจ้งมาว่าจะต้องดำเนินการภายในกี่วัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13ม.ค.68  นางสาวแพทองธาร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ชี้แจงถึงร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า กฤษฎีกาไม่ได้เห็นแย้งหรือไม่เห็นด้วย เป็นเพียงข้อสังเกตที่ต้องนำเรียน ครม. และจะสามารถนำไปปรับแก้เพิ่มเติมในกฤษฎีกาเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างแมนเมดเดสติเนชั่น (Man-made Destination) หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา 
 

ต่อมานายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ตั้งกฤษฎีกาคณะพิเศษที่มีนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมกฤษฎีกาคณะพิเศษชุดดังกล่าว รวมไปถึงคณะกรรมการประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิหลายคน อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ, นายธงทอง จันทรางศุ, นายไพโรจน์ วายุภาพ เป็นต้น เพื่อปรับแก้ร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … (Entertainment Complex)

“เราเป็นเหมือนพ่อครัวที่คอยปรุงและใส่วัตถุดิบตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ถ้ามีบางอย่างที่เขาไม่ต้องการและเราทักท้วง แต่เขายืนยันจะเป็นแบบนั้นก็ต้องตามใจลูกค้า” นายปกรณ์ กล่าว

ในส่วนของเสียงเรียกร้องให้มีการทำประชามติ นายปกรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบาย กฤษฎีกาไม่เกี่ยวข้อง โดยเราพยายามทำให้กฎหมายครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยหลักคือกระทรวงมหาดไทยและท้องถิ่น กระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องเรื่องภาษี และกระทรวงคมนาคม ในเรื่องของเส้นทาง

ส่วนจะใช้กรอบเวลาดำเนินการนานแค่ไหน นายปกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลบรรจุไว้ในแผนกฎหมายเร่งด่วน ที่ต้องดำเนินการภายใน 50 วัน และกฤษฎีกาพยายามทำให้ทัน ขณะนี้ประชุมสัปดาห์ละสองครั้ง คือวันอังคารและพฤหัสบดี และพยายามหาวันว่างเพิ่มขึ้น เพราะต้องรีบทำ
 

Thailand Web Stat