'ทวี'ชี้บริษัทจีนสร้างตึกสตง.ถล่มส่อฮั้วเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กรณีอาคารสตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว มี3 ประเด็นที่ต้องดำเนินการสอบสวนว่า บริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 คู่สัญญาการก่อสร้าง ซึ่งประกอบธุรกิจบุคคลต่างด้าวมีการกระทำที่เข้าข่ายลักษณะเป็นความผิดที่ใช้นอมินีเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่ เท่าที่ดูจากงบการเงินที่เผยแพร่กันอยู่ ขาดทุนมาตลอด และไม่มีการเสียภาษี อีกทั้งมีการนำเงินของบริษัทไปให้กรรมการกู้จำนวน 2 พันล้านบาท 

"แม้อำนาจที่แท้จริงจะให้ต่างชาติ 49% ไทย 51% แต่หากมองในลักษณะมีอำนาจครอบงำ จะเห็นในเรื่องของการบริหาร ดังนั้นจึงต้องเข้าไปดู ประกอบกับการตรวจสอบสถานที่เดียวกัน กลุ่มคนเดียวกัน มีบริษัทในลักษณะนี้ 10 บริษัท  และเข้าข่ายที่จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปดำเนินการหรือไม่"

ประเด็นต่อมา หากสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ดีเอสไอมีอำนาจในการสอบสวน และในประเด็นสุดท้ายการจัดซื้อจัดจ้าง ที่เรียกว่าฮั้วประมูล หากเกินกว่า 30 ล้านบาทขึ้นไป กรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบ เพราะเบื้องต้นเห็นว่าต่ำกว่าราคากลางเพียง 1% ปกติการประมูลที่ไม่มีการแข่งขัน ควรต่ำกว่า 10-15%

พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า ทราบจากการรายงานของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือการตรวจสอบว่า เพราะเหตุใดถึงเกิดเหตุแค่ตึกเดียว ก็จะดูว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งมีข้อมูลทางทะเบียนไปตรวจสอบ เรื่องการเสียภาษี ที่เกี่ยวกับกรมสรรพากร รวมถึงการตรวจสอบในเชิงลึก คือการนำบุคคลที่เกี่ยวข้องมาซักถาม ก็จะได้ข้อมูล ก็ได้กำชับให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งดำเนินการ

"เศรษฐกิจของไทย เหมือนจีดีพีจะโต แต่คนไทยไม่ได้ประโยชน์ จึงจะไปดูว่าหากเราบังคับใช้กฏหมายธุรกิจของคนต่างด้าวให้เป็นไปตามกฏหมาย เงินที่จะไปสู่คนต่างด้าวเพียงอย่างเดียว ต้องกลับมาหาคนไทย 51% โดยให้สำนักความมั่นคงไปดูเรื่องนอมินีทั้งหมด" พันตำรวจเอกทวี ระบุ