โฆษกปชป.โต้ปชน.ยันเฉลิมชัยทำงานจริงไม่จำเป็นต้องโฆษณา
เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกประชาธิปัตย์ ยันเฉลิมชัย ศรีอ่อน ทำงานจริงไม่ต้องโฆษณา ชี้สส.ปชน.ทำการเมืองไม่สร้างสรรค์ปมวิจารณ์เพราะไม่รู้จริง
ผศ.ดร.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้กรณีที่นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวพาดพิงการทำงานของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ปราศจากข้อเท็จจริง และสะท้อนพฤติกรรมทางการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์
ผศ.ดร.เจนจิรา กล่าวเน้นย้ำว่า คำกล่าวหา "รัฐมนตรีที่โลกลืม" เป็นคำพูดจากบุคคลเดียวกับที่เคยนำภาพลิงเก็บมะพร้าวจากต่างประเทศมาโจมตีประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นคำพูดที่ไม่มีน้ำหนักและความน่าเชื่อถือ สะท้อนได้จากผลสำรวจของนิด้าโพลที่ระบุว่า ดร.เฉลิมชัย เป็นรัฐมนตรีที่ไม่ควรถูกปรับออกจากตำแหน่ง หรือมีคะแนนที่เสนอให้ปรับน้อยมาก
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า รัฐมนตรีเฉลิมชัยปฏิบัติหน้าที่ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในเชิงนโยบายอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะการเข้าร่วมตอบกระทู้ถามทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเต็มที่ โดยไม่มีการละเลยตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมตั้งคำถามว่า นายนิติพลได้ติดตามการทำงานในสภาหรือไม่
"การที่ไม่มีข่าวปรากฏออกมา ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ทำงาน และการทำงานอย่างแท้จริงไม่จำเป็นต้องโฆษณาตนเองทุกวัน สิ่งที่ควรพิจารณาคือ 'ผลลัพธ์' ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การโพสต์ข้อความหรือวาทกรรม" ผศ.ดร.เจนจิรา กล่าว
ผศ.ดร.เจนจิรา กล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา รัฐมนตรีเฉลิมชัยได้ร่วมเดินทางไปกับคณะนายกรัฐมนตรีเยือนประเทศกัมพูชา เพื่อลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ผ่านยุทธศาสตร์ฟ้าใสกับกลุ่มประเทศในอาเซียน และประสบความสำเร็จในการเจรจาในการประชุม COP29 ที่ประเทศอาเซอร์ไบจาน
ในประเด็นการแก้ไขปัญหาช้างป่า โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ย้ำว่า สถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการขับเคลื่อนนโยบายที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน และการทำงานร่วมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญอย่างใกล้ชิด พร้อมแนะนำให้นายนิติพลสอบถามสมาชิกพรรคประชาชนที่อยู่ในคณะกรรมาธิการดังกล่าว เพื่อให้ทราบถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาช้างป่า
สำหรับกรณีการจัดเก็บรายได้อุทยานแห่งชาติด้วยระบบ E-Ticket นั้น ได้มีการร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และกำลังเร่งรัดให้แล้วเสร็จ โดยอุทยานแห่งชาติที่มีรายได้สูงสุด 10 อันดับแรกจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในฤดูการท่องเที่ยวหน้า หรือประมาณ 5-6 เดือน ส่วนอุทยานฯ ที่เหลืออีกเกือบ 150 แห่ง จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี
"พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยหวาดหวั่นต่อการตรวจสอบใดๆ แต่ขอให้เป็นการตรวจสอบบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่ใช่การสร้างเรื่องหรือกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย เพียงเพื่อหวังเกาะกระแส ซึ่งไม่สมควรกับสถานะและคุณวุฒิของการเป็นผู้แทนราษฎร ทำให้ระลึกถึงคำสอนของผู้ใหญ่ที่ว่า 'สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล' น่าเห็นใจพรรคต้นสังกัดของสส. ที่แสดงพฤติกรรมที่ไม่สร้างสรรค์เช่นนี้" ผศ.ดร.เจนจิรา กล่าวทิ้งท้าย