คาเมนไรเดอร์รีไวซ์ จากหน้ากากนักบิดสู่ความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด กับการฉลองครบ 50 ปีและภาพสะท้อนโควิด
จากวันที่ “ไอ้มดแดง” ไม่ได้เป็นแค่ฮีโร่ยามเช้าสำหรับเด็ก แต่กลายเป็นตัวตนเคียงคู่สะท้อนสังคมญี่ปุ่นออกมาในแต่ละยุคสมัย โดยเฉพาะกับภาคล่าสุด “Kamen Rider Revice” ที่บอกเล่าชีวิตความเป็นอยู่ภายใต้การระบาดโควิดในญี่ปุ่นอย่างชัดเจน
Highlights
- ผลตอบรับหลังการฉายตอนแรกของ Kamen Rider Revice กระแสตอบรับไรเดอร์คนใหม่เป็นไปในทางบวกหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19มายาวนาน ที่สุดวงการบันเทิงญี่ปุ่นจึงเริ่มกลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง
- คาเมนไรเดอร์ออกฉายครั้งแรกปี 1971 นี่จึงถือเป็นปีแห่งการฉลองครบรอบห้าสิบปี ถือเป็นซีรีย์ที่ก้าวผ่านยุคสมัยและความเปลี่ยนแปลงมามากมายเมื่อลองมองย้อนไปจากวันนี้
- ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งจากบริบททางสังคมถูกถ่ายทอดลงในตัวหนัง ไม่เว้นแม้แต่สถานการณ์โควิด-19เองก็ถูกถ่ายทอด บอกเล่าลงไปภายในเนื้อหาทางอ้อมด้วยเช่นกัน
--------------------
ภายหลังการออกฉายของ Kamen Rider Revice ภาพยนตร์ชุดในซีรีย์ คาเมนไรเดอร์ แฟรนไชส์ชื่อดังของภาพยนตร์แนว โทคุซัทสึ เรื่องใหม่ประจำปีกระแสตอบรับล้วนเป็นไปในทางบวก ภายหลังการจบลงของเรื่องก่อน คาเมนไรเดอร์เซเบอร์ ค่อนข้างสร้างความรู้สึกให้ผู้รับชมแตกเป็นสองฝั่ง
ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19ในญี่ปุ่น ทำให้การถ่ายทำภาพยนตร์และสื่อบันเทิงหลายแขนงติดขัดจนถึงความสูญเสีย ตั้งแต่การเสียชีวิตของ ชิมูระ เคน ดาวตลกญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นหน้าในรายการ ขำกลิ้งลิงกับหมา, โคมิยะ ริโอะ นักแสดงนำใน ขบวนการจักรกลคิราเมเจอร์ ติดเชื้อโควิด-19ระหว่างถ่ายทำจนต้องยุติกองถ่ายของเกือบทั้งบริษัท แม้แต่ซีรีย์เรื่องดังลงเน็ตฟลิกอย่าง BG Personal Bodyguard ss2 ยังต้องยุติการถ่ายทำลงในตอนที่ 7
นั่นเป็นผลให้เกิดการพักกองยุติการถ่ายทำตอนใหม่ของ คาเมนไรเดอร์ซีโร่วัน นานนับเดือน ไม่ต่างจากเนื้อหาในช่วงท้ายจำเป็นต้องรีบเร่งรวบรัด ดัดแปลงบทให้เข้ากับจำนวนสล็อตเวลาที่เหลือเพื่อหลีกทางให้เรื่องใหม่ หรือในซีรีย์ต่อมาอย่าง คาเมนไรเดอร์เซเบอร์ ต้องเพิ่มฉากแปลงร่างยาวนานและเพลงปิดมาเพื่อลดเวลาถ่ายทำโดยรวมลง
ปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดญี่ปุ่นเริ่มซาลง จากจำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบโดสกว่าครึ่งประเทศ เป็นผลให้อัตราผู้ติดเชื้อลดลงตามลำดับ ประเทศเริ่มกลับมาเดินหน้า วงการบันเทิงหลังผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาจึงเริ่มขยับกลับมาเข้าฟอร์มพร้อมซีรีย์โทคุซัทสึมากมายให้รับชม ทั้งการฉลอง 25 ปี อุลตร้าแมนทีก้าด้วยการเอามาตีความใหม่ใน อุลตร้าแมนทริกเกอร์ หรือ คาเมนไรเดอร์รีไวซ์ ที่กำลังจะพูดถึงก็ตาม
พัฒนาการของคาเมนไรเดอร์ ฮีโร่ในดวงใจผู้คนมาตลอดห้าสิบปี
ก่อนถึงยุคซูเปอร์ฮีโร่อเมริกาครองเมืองในสื่อกระแสหลัก เหล่าเด็กผู้ชายทั้งหลายย่อมรู้จักคาเมนไรเดอร์หรือที่บ้านเราเรียกว่ากันว่า ไอ้มดแดง จากการออกฉายครั้งแรกในช่อง 7(ปัจจุบันคือททบ.5) ในชื่อ ไอ้มดแดงอาละวาดและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย(แม้ความจริงจะไม่มีไรเดอร์คนไหนมีต้นแบบจากมดเลยก็ตาม)
คาเมนไรเดอร์ เป็นภาพยนตร์แนวโทคุซัทสึ ผลงานการออกแบบโดย อ.อิชิโมริ โชทาโร่ ออกฉายครั้งแรกในปี 1971 มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับองค์กรร้าย ช็อกเกอร์ ที่คิดครองโลกจึงลักพาตัว ฮอนโก ทาเคชิ นักแข่งมอเตอร์ไซค์อัจฉริยะมาผ่าตัดให้กลายเป็นมนุษย์ดัดแปลง แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก ดร.มิโดริคาว่า ฮิโรชิ จึงรอดพ้นจากการถูกล้างสมอง เขาเลยนำพลังที่ได้มาต่อต้านช็อกเกอร์ผู้ชั่วร้ายในที่สุด
ในยุคแรกคาเมนไรเดอร์คือฮีโร่ผู้ผดุงคุณธรรมต่อสู้กับความชั่วร้ายอย่างกล้าหาญ อีกทั้งนักแสดงนำในยุคนั้นล้วนเป็นสตั๊นท์แมนที่สวมชุดเล่นฉากแอคชั่นเอง ทำให้บุคลิกของพวกเขาเต็มไปด้วยความขึงขัง เข้มแข็ง และกล้าหาญ เป็นดังฮีโร่ผู้คอยช่วยเหลือผู้คนโดยไม่หวังผลตอบแทน คือภาพลักษณ์แทนลูกผู้ชายสุดเท่ในสมัยนั้น ทำให้เด็กหลายคนรู้สึกอยากลองบิดมอเตอร์ไซต์ตามดูสักครั้ง
ภายหลังปี 2000 เป็นต้นมาหลังร้างลาไปนานจากวงการมานาน คาเมนไรเดอร์ก็ถูกหยิบมาปัดฝุ่น ภายใต้ซีรีย์ใหม่อย่าง คาเมนไรเดอร์คูกะ ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความร่วมสมัยเข้ากับลูกเล่นที่มากขึ้น ทั้งในด้านเทคนิคการถ่ายทำ ฉากแอ็คชั่น รวมถึงเนื้อเรื่องเน้นไปในเชิงสอบสวน ถือเป็นการย้อนคืนตำนานและเปิดศักราชหน้าใหม่แห่งคาเมนไรเดอร์อย่างแท้จริง
พัฒนาการมากมายเกิดขึ้นในช่วงนี้ มีตั้งแต่การเพิ่มความเข้มข้นจริงจังในเนื้อหาและการดำเนินเรื่องใน คาเมนไรเดอร์อากิโตะ และการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของคาเมนไรเดอร์ให้ไม่ต้องเป็นคนดีเสมอไปใน คาเมนไรเดอร์ริวคิ การเพิ่มบทบาทเนื้อเรื่องกับมิติของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกหรือปีศาจในคาเมนไรเดอร์แต่ละภาคให้มีความเป็นมนุษย์ยิ่งขึ้น
นั่นทำให้คาเมนไรเดอร์ยุคหลังปี 2000 เป็นต้นมาไรเดอร์เริ่มมีภาพลักษณ์เปลี่ยนไป จากฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมสู่มนุษย์เดินดิน มีผิดพลาด อ่อนแอ ตกลงสู่ด้านชั่วร้าย เช่นเดียวกับปีศาจในเรื่องถูกเพิ่มน้ำหนักให้จนมีชีวิตจิตใจ บอกเล่าในฐานะของเหยื่อจากสิ่งอื่นหรือถูกบังคับให้ทำเรื่องร้าย สร้างมิติการนำเสนอรูปแบบใหม่แก่ซีรีย์คาเมนไรเดอร์อย่างแท้จริง
แต่สิ่งเหล่านี้แลกมากับความคลาสสิกในยุคเก่าบางส่วนเริ่มจางหาย เช่น ฉากสตั๊นแอ็คชั่นเริ่มลดบทบาทจากการเข้ามาแทนที่ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิก, เนื้อเรื่องถูกปรับเปลี่ยนจากความตั้งใจเดิมด้วยอิทธิพลของสปอนเซอร์, จำนวนของเล่นวางขายมากมายเพื่อเป็นช่องทางการทำกำไร และมอเตอร์ไซค์ที่เคยเป็นสัญลักษณ์คู่กายคาเมนไรเดอร์ถูกลดความสำคัญลง
ถือเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เมื่อครั้งแรกที่ซีรีย์คาเมนไรเดอร์ออกอากาศคือ 7 กันยายน 1971 นับจากวันนี้เป็นเวลากว่า 50 ปี ช่วงเวลาครึ่งศตวรรษมากพอเปลี่ยนผ่านค่านิยม สังคม และผู้คนโดยสิ้นเชิง นั่นทำให้การขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่เรื่องดูดีหรือเท่ในสายตาคนส่วนมากอีกต่อไป บรรดาผู้รับบทตัวเอกเปลี่ยนจากสตั๊นแมนมาดเท่ดูเก่งกาจมาเน้นหน้าตากับการแสดงมากขึ้น รวมถึงบทบาทในเรื่องจากอัจฉริยะยอดนักสู้มาเป็นคนทั่วไป ไม่ว่าเด็กวัด ดาราตลก หรือล่าสุดเจ้าของโรงอาบน้ำสาธารณะ
นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับซีรีย์คาเมนไรเดอร์ จากที่ออกฉายครั้งในแรกในยุคโชวะ นำกลับมาถ่ายทอดอีกครั้งในยุคเฮเซย์หลายสิ่งจึงเปลี่ยนไป และภายหลังสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะสละราชสมบัติให้แก่สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ในวันที่ 1พฤษภาคม 2019 เป็นต้นมาก็เข้าสู่ยุคเรวะ ถือเป็นการผลัดเปลี่ยนสู่ฟ้าใหม่ที่จะนำญี่ปุ่นสู่ก้าวต่อไป
น่าเสียดายสิ่งแรกที่รอต้อนรับยุคสมัยใหม่ครั้งนี้คือโรคระบาดร้ายแรงโควิด-19 ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น แต่นั่นก็ถือเป็นความท้าทายจากยุคสมัยใหม่ต่อซีรีย์คาเมนไรเดอร์ ว่าจะสามารถปรับตัวอยู่รอดในยุคนี้ และนำเสนอความเปลี่ยนแปลงหรือเรื่องราวแบบใด
ดังที่กำลังเกิดขึ้นภายในคาเมนไรเดอร์รีไวซ์ที่เรากำลังจะพูดถึงกันนับจากนี้
คาเมนไรเดอร์รีไวซ์ ฉลองครบรอบห้าสิบปีภายใต้โควิด-19
คาเมนไรเดอร์รีไวซ์ตอนแรกเริ่มต้นด้วยการขุดค้นโบราณสถาน จนไปเจอวัตถุโบราณอย่างแสตมป์ประหลาด เมื่อทำการประทับมันใส่ร่างกายจะเกิดเป็นต้นกำเนิดของปีศาจในเรื่อง พร้อมองค์กรต่อกรปีศาจสร้างอุปกรณ์ต่อต้านปีศาจขึ้นมาจากสแตมป์โดยอาศัยหลักการ “ใช้ปีศาจสู้กับปีศาจ” โดยมีอุปกรณ์แปลงร่างและสร้างปีศาจฝั่งตัวเองขึ้นมาตอบโต้ นำไปสู่การแปลงร่างแบบจับผลัดจับผลูของตัวเอกที่ต้องการปกป้องครอบครัวโดยอาศัยปีศาจในตัว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในตอนแรก
สำหรับแฟนคาเมนไรเดอร์ด้วยกันถือเป็นภาคที่ชวนให้นึกย้อนถึงความหลังมากมาย แต่เมื่อลองมองเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแท้จริงคาเมนไรเดอร์รีไวซ์ ถือเป็นภาคที่หยิบยกบริบทสังคมออกมาถ่ายทอดได้อย่างแนบเนียนรวมถึงสถานการณ์โควิด-19ในปัจจุบัน
หนึ่งในฉากเซ็ทติ้งสำคัญในเรื่องหรือบ้านของตัวเอกคือโรงอาบน้ำสาธารณะ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19มากที่สุด เพราะเป็นสถานที่รวมตัวใกล้ชิดและเกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย ทำให้ภายในญี่ปุ่นธุรกิจโรงอาบน้ำสาธารณะได้รับผลกระทบสาหัส หลายแห่งที่สภาพการเงินไม่ดีอยู่ก่อนจึงล้มหายต้องปิดตัวลงอย่างช่วยไม่ได้
ธุรกิจโรงอาบน้ำสาธารณะคือวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เห็นได้บ่อยครั้งในสังคมญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันหลายแห่งประสับปัญหามีคนรุ่นใหม่เข้าไปใช้บริการน้อยลง จากการที่บ้านสมัยใหม่มีห้องอาบน้ำมากขึ้นจนกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้สูงอายุ การนำโรงอาบน้ำมาถ่ายทอดผ่านสื่อสำหรับเด็กอย่างคาเมนไรเดอร์ เพื่อให้คนรุ่นใหม่เกิดความสนใจวัฒนธรรมดั้งเดิม ถือเป็นการรักษาและอนุรักษ์สิ่งเหล่าน้ไว้ในทางหนึ่ง รวมถึงช่วยธุรกิจที่กำลังจะตายจากโควิด-19ให้ได้รับความสนใจมากขึ้นอีกด้วย
ต่อมาคือการใช้แสตมป์เป็นกิมมิคอุปกรณ์หลักสำหรับแปลงร่าง แม้จะบอกว่าเป็นแสตมป์แต่มีหน้าตาคล้ายตราประทับมากกว่า แต่เมื่อลองดูฉากระหว่างการแปลงร่างให้ดีจะเห็นว่า มีหน้าจอคล้ายการแชทส่งข้อความพูดคุยระหว่างตัวเอกและปีศาจโผล่มา จึงเริ่มเข้าใจว่าแสตมป์ที่ว่านอกจากตราประทับยังหมายถึง สติ๊กเกอร์ที่ใช้กันในแอปพลิเคชั่น LINE
ถือเป็นการแสดงค่านิยมด้านโซเชี่ยลมีเดียของคนญี่ปุ่น ไลน์คือแอปพลิเคชั่นได้รับความนิยมสูงสุด มีผู้ใช้งานเดือนละกว่า 50 ล้านคนคิดเป็นจำนวน 40% ของประชากรทั้งประเทศ ด้วยคุณสมบัติการสนทนาค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากกว่าโซเชี่ยลมีเดียประเภทอื่น ประกอบกับความหลากหลายของสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนจึงครองใจชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก
สุดท้ายการใช้ปีศาจสู้ปีศาจในเรื่อง เมื่อย้อนคิดมันคือสิ่งที่ทั้งโลกกำลังทำอยู่ตอนนี้นั่นคือ การใช้วัคซีนที่ต้องอาศัยการศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจไวรัสแล้วจึงนำมาใช้งานเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้นจะกล่าวว่านี่คือภาพแทนอีกส่วนภายใต้การระบาดของโควิด-19ภายในซีรีย์คาเมนไรเดอร์ เป็นการถ่ายทอดบริบททางสังคมทำให้เด็กๆ ไม่กลัวการต้องวัคซีนคงไม่ผิด สังเกตจากตัวปีศาจของพระเอกอย่างไวซ์ ที่ถึงบอกตัวเองเป็นปีศาจแต่ค่อนข้างเป็นมิตรและพูดคุยกับคนดูอยู่ตลอด
นั่นคือสิ่งที่เราได้รับการถ่ายทอดบอกเล่าหลังคาเมนไรเดอร์รีไวซ์ออกฉายตอนแรก แน่นอนเนื้อหาที่ต้องการถ่ายทอดบอกเล่าสะท้อนออกมาสู่ผู้คนอาจมีมากกว่านี้ นั่นคือเรื่องที่รอให้ผู้ชมเข้ามารับชม ร่วมค้นหาว่าเบื้องหลังฮีโร่ในดวงใจซุกซ่อนประเด็นและบริบททางสังคมไว้แค่ไหน
แต่ที่เราคาดหวังมากที่สุดคือการที่ซีรีย์คาเมนไรเดอร์เรื่องนี้จะสร้างสีสันและความสนุกสนานให้เราเพียงใด
เกรียงไกร เรืองทรัพย์เดช
--------------------
ที่มา:
- https://www.bangkokbiznews.com/news/873461
- https://matcha-jp.com/th/7254
- https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/55935
- https://www.sanook.com/campus/1401815/
- https://www.mangozero.com/which-social-network-japanese-use/