Did you know? โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ต้นตอหมูแพงที่รัฐบาลไม่ยอมรับ
ราคาหมูที่พุ่งสูงกระทบชีวิตความเป็นอยู่ย่อมทำให้ผู้คนพากันตั้งคำถาม เหตุใดราคาเนื้อหมูจึงปรับตัวสูงขึ้นก้าวกระโดดนับแต่ปีใหม่ที่ผ่านมา สาเหตุของเรื่องนี้นอกจากโรคระบาดในบรรดาหมูด้วยกัน ยังมาจากภาครัฐที่ปกปิดความจริงเรื่องนี้มายาวนานอีกด้วย
ช่วงเวลานี้นอกจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนทำผู้คนหวาดผวาทุกหย่อมหญ้า อีกสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวไม่แพ้กันคือราคาเนื้อหมูปรับตัวสูง ราคาพุ่งขึ้นจากเดิมด้วยปัจจัยด้านสุกรเลี้ยงในปัจจุบันเริ่มขาดตลาด สวนทางกับความต้องการบริโภคเพิ่มมากขึ้น ยิ่งสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างแก่บรรดาผู้บริโภค
เลวร้ายกว่าคือสถานการณ์ไม่มีทีท่าจะดีขึ้นแม้มีคำสั่งระงับการส่งออกหมูไปแล้วก็ไม่ช่วยนัก อีกทั้งจากช่วงเวลาใกล้เทศกาลตรุษจีนที่เนื้อหมูเป็นที่ต้องการ นอกจากราคาจะไม่ลดเรายังอาจได้เห็นเนื้อหมูพุ่งไปแตะกิโลกรัมละ 300 บาทเลยทีเดียว อีกทั้งนี่ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ได้ในเวลาอันสั้นเมื่อต้นตอของปัญหานี้เกิดจากโรคระบาดภายในฟาร์ม
โรคอหิวาต์แอฟริกา หรือ African Swine Fever(ASF) เป็นโรคที่มีต้นตอมาจากทวีปแอฟริกา เกิดจากเชื้อไวรัสแพร่ระบาดทั้งในหมู่หมูเลี้ยงและหมูตามธรรมชาติ ไม่สามารถติดต่อไปสู่มนุษย์รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นได้ แต่ยังมากพอสร้างความเสียหายต่อฟาร์มเลี้ยงหมูเป็นวงกว้าง
อาการของหมูติดเชื้อได้แก่
- มีไข้สูง อาจมากถึง 40.5-42 องศาเซลเซียส
- ผิวหนังแดง มีจุดเลือดออกและรอยช้ำ โดยเฉพาะตำแหน่งใบหู ท้อง ขาหลัง
- มีเลือดออกตามอวัยวะภายใน โดยเฉพาะต่อมน้ำเหลือง
- เบื่ออาหารกะทันหัน
- ท้องเสีย อาเจียน
- มีอาการซึม
- เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
- มีอาการแท้งลูกในทุกช่วงการตั้งครรภ์
- เสียชีวิตกะทันหันและมีอัตราการตายสูงมาก
โดยพื้นฐานอาการของโรคแทบไม่ต่างจากอหิวาต์สุกรธรรมดา แต่ที่มากกว่าคือความรุนแรงของอาการรวมถึงอัตราการตายสูง สามารถพบอาการได้ในทุกกลุ่มและช่วงมีอัตราการตายตั้งแต่ 30-100% สามารถคร่าชีวิตลูกสุกรเกือบทุกตัวที่เกิดการติดเชื้อในระยะเวลาเพียง 14 วัน
โรคนี้สามารถแพร่ระบาดได้หลายทางตั้งแต่สารคัดหลั่ง อาหารที่กิน หรือแม้แต่ทางอากาศ รวมถึงสามารถเกิดพาหะนำเชื้อทั้งจากเห็บ สุกรป่า แม้แต่เชื้อที่ติดตามเสื้อผ้าอุปกรณ์ของคนเรา นั่นทำให้เชื้อมีอัตราการแพร่ระบาดสูงมาก เมื่อเกิดการติดเชื้อเริ่มขึ้นภายในฟาร์มและชุมชน จึงแทบจะแน่นอนว่ามันจะลุกลามไปทั่วทั้งฟาร์มรวมถึงภายในพื้นที่อย่างรวดเร็ว
โรคอหิวาต์แอฟริกาเกิดการระบาดเป็นวงกว้างในทวีปเอเชียและยุโรปขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 2018 เป็นค้นมา เกิดการระบาดวงกว้างภายในปี 2021 ในแถบประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงอีกหลายประเทศในเอเชียตั้งแต่ จีน, เกาหลีใต้, มองโกเลีย ไปจนถึงเกาหลีเหนือ
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เคยถูกตรวจพบเชื้อมาแล้วในหลายประเทศ เช่น ในเกาหลีใต้ที่เคยตรวจพบเชื้อนี้ใน เกี๊ยวหมู และ กุนเชียง ที่นำเข้ามาจากปะเทศจีน เช่นเดียวกับประเทศไทยเองก็เคยตรวจพบเชื้อจากผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเช่นกัน
ส่วนการระบาดเป็นวงกว้างเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2019 โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่เคยเกิดการระบาดอย่างรุนแรงจนผลผลิตเนื้อหมูลดลงเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังระบาดกระจายตัวไปเป็นวงกว้างทั้งในกลุ่มประเทศอาเซียนรวมถึงในเอเชีย ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตเนื้อหมูลดลงกว่า 20% จากการสั่งทำลายสุกรในฟาร์มและจัดตั้งเขตกักกันเพื่อทำการฆ่าเชื้อ
ในประเทศไทย กรมปศุสัตว์ยังคงยืนยันว่าไม่พบการแพร่ระบาดของโรคนี้ภายในประเทศ ขัดแย้งกับปากคำของเจ้าของฟาร์มที่ต้องเสียหมูจำนวนมากจากโรคระบาด รวมถึงอัตราการตายของฟาร์มหมูที่เพิ่มสูงขึ้นมากอย่างน่าสังเกตในระยะหลัง ชวนให้เกิดการตั้งคำถามว่าไม่มีการแพร่ระบาดเข้ามาของเชื้อตัวนี้ในประเทศจริงหรือไม่?
แนวทางรับมือการแพร่ระบาดและการตั้งคำถามต่อวิธีรับมือของภาครัฐ
ปัจจุบันโรคอหิวาต์แอฟริกายังเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาหรือวัคซีนป้องกันโดยเฉพาะ ด้วยที่ผ่านมาการระบาดมักจำกัดอยู่ในกลุ่มประเทศแอฟริกา ไม่ค่อยแพร่ระบาดวงกว้างนอกพื้นที่ จึงมักยุติปัญหาด้วยการกำจัดสัตว์ที่ติดเชื้อและใช้มาตรการกักกันมากกว่า
แนวทางการรับมือเมื่อเกิดการระบาดจำเป็นต้องสั่งกักปศุสัตว์ทั้งหมดในพื้นที่ ทำลายสุกรและซากทั้งหมดเพื่อยุติการแพร่ระบาด ทำความสะอาดฟาร์มจนถึงข้าวของเครื่องใช้ จัดตั้งเขตกักกันอย่างเร่งด่วนเพื่อควบคุมการขนส่งเนื้อและซากหมู พักคอกอย่างน้อย 3 เดือนเพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อจะไม่กลับมาเกิดการระบาดอีก เป็นแนวทางรับมือจากการระบาดในเวียดนาม
แน่นอนว่าขั้นตอนเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย ด้วยล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 ทางกรมปศุสัตว์ยืนยันว่าไม่พบการแพร่ระบาดโรคอหิวาต์แอฟริกาในไทยและยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำแถลง ทำให้มาตรการกักกันควบคุมโรคทั้งหลายยังคงไม่เกิดขึ้น
ส่วนนี้ขัดแย้งกับข้อมูลจากนาย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส. จังหวัดพะเยา ที่ประกาศว่าโรคระบาดเข้ามาสู่ประเทศไทยตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่เกิดการระบาดเป็นวงกว้างในหลายประเทศ แต่หน่วยงานรัฐขาดการตื่นตัวอีกทั้งไม่ยอมรับว่ามีการแพร่ระบาด จนทำให้เชื้อกระจายเป็นวงกว้างลุกลามไปทั่วทั้งประเทศ
การแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมาทำให้จำนวนสุกรกว่า 22 ล้านตัวในจังหวัดราชบุรีลดเหลือเพียง 12 ล้านตัว หายไปกว่า 10 ล้าน อีกทั้งมีการตรวจพบเชื้ออหิวาต์แอฟริกานี้จากผลิตภัณฑ์จากสุกรอย่างกุนเชียงที่ส่งออกไปจากประเทศไทย แต่ยังไม่มีแนวทางรับมือใดเป็นรูปธรรม จึงไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดและล้มตายที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นปัญหาในปัจจุบัน
นอกจากนี้เมื่อไม่มีการประกาศเขตกักกันหรือโรคระบาดเป็นทางการ โอกาสที่เกษตรกรจะหาทางรับมือจึงเป็นเรื่องยาก เช่นเดียวกับการได้รับค่าชดเชยจากการเสียปศุสัตว์และการช่วยเหลือทางการเงินจากภาครัฐ นั่นทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูจำนวนมากต้องผันตัวไปทำอาชีพอื่น เป็นเหตุให้เนื้อหมูขาดตลาดมาถึงปัจจุบันเพราะจำนวนผู้เลี้ยงสุกรเริ่มลดลง
ยากจะคาดเดาได้ว่าสุดท้ายปัญหาเนื้อหมูแพงจะจบลงเมื่อใดหรือจะอยู่กับเราไปตลอด แน่ใจแค่ตอนนี้ความเดือดร้อนในตอนนี้จะยังไม่จบลงในเวลาอันสั้น อย่างน้อยตราบที่รัฐบาลไทยยังไม่เริ่มยอมรับว่ามีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในประเทศ แนวทางแก้ปัญหายังคงคลุมเครือไม่ชัดเจนและมีแต่ประชาชนที่ต้องรับกรรมต่อไป
--------------------
ที่มา
- https://www.alltech.com/th-th/features-blog/khxethccringthiisakhayekiiywkaborkhxhiwataexfrikainsukr-asf
- https://pvlo-sno.dld.go.th/webnew/images/stories/procurement/pnnnin/2561_02/070362_01.pdf
- https://www.prachachat.net/economy/news-818409
- https://news.thaipbs.or.th/content/311356
- https://www.prachachat.net/economy/news-834908
- https://www.sanook.com/news/8498026/
- https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6817505
- https://www.bbc.com/thai/international-50870347
- https://www.thaigov.go.th/infographic/contents/details/4349?fbclid=IwAR120jz6yhHYERDRHv6YYNj2S-ngiOksyt7_GUcen1YAZnN5gh1bvqVEIy8
- https://www.bangkokbiznews.com/business/979173