OCEANIX CITY เมืองลอยน้ำ ชุมชนอนาคตแห่งใหม่ของโลก
ทำไม Oceanix City เมืองลอยน้ำแห่งแรกของโลก ถึงเป็นทางเลือกที่ช่วยเหลือมนุษย์ที่อยู่บริเวณชายฝั่งได้ Oceanix City มีความสำคัญอย่างไร? แก้ไขได้จริงไหม? มนุษย์จะอยู่ยังไง? มาร่วมหาคำตอบกัน
จากปัญหาโลกร้อน จึงส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เครือข่ายรณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเมินว่า “ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้น และภายในปี 2050 ประชากรมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกที่อาศัยอยู่ในเมือง 570 แห่ง จะมีความเสี่ยงด้านที่อยู่อาศัย” นอกจากนี้ปัญหาน้ำท่วมจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลต่อการอาศัยบนแผ่นดินที่ยังเหลืออยู่ด้วย
ด้วยเหตุนี้ “เมืองลอยน้ำ” รูปแบบโปรโตไทป์แห่งแรกที่จะสร้างใน “เกาหลีใต้” จึงเป็นความหวังในการแก้ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย และน้ำท่วมในเขตชายฝั่ง หากโลกมนุษย์ยังไม่สามารถลดการปล่อยมลพิษได้ในทันที
นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก หากสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ หลายคนคงเคยได้ยินโรงแรมลอยน้ำ หรือบ้านลอยน้ำ มาบ้างแล้ว แต่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นโครงการใหญ่ระดับโลกเลยทีเดียว ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาทางสถาปนิก และวิศวกรจำนวนมาก ได้มีการพูดคุย หรือถกเถียงเกี่ยวกับการสร้างเมืองลอยน้ำแห่งแรกของโลก และล่าสุดนั้นเมืองลอยน้ำแห่งแรกของโลก กำลังถูกเตรียมการสร้างขึ้น
เมืองลอยน้ำแห่งนี้ จัดตั้งขึ้นที่เมืองปูซานของประเทศเกาหลีใต้ ด้วยความเป็นท่าเรือที่ 5 ของโลก และเมืองท่าสำคัญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งของศตวรรษที่ 21
เกาหลีใต้ได้ออกมาประกาศตัดสินใจทำโครงการนี้ขึ้น โดยได้ความร่วมมือจากผู้ออกแบบโครงการอย่าง Oceanix และโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ หรือUN ในการสร้างเมืองลอยน้ำแห่งนี้ขึ้นมา
จากการรายงานระบุว่าเมืองลอยน้ำแห่งนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 469 ไร่ ซึ่งสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ประมาณ 10,000 คน และเมืองลอยน้ำแห่งนี้จะประกอบไปด้วยเกาะรูปทรง 6 เหลี่ยมจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละเกาะนั้นกินพื้นที่ต่อเกาะราวๆ 12.5 ไร่ และมีชุมชนอาศัยอยู่โดยรอบราวๆ 300 คน โดยบริเวณรอบจะเป็นท่าเรือ ที่จะเกิดเป็นหมู่บ้านที่จะมีประชากรโดยรวมมากถึง 1,600 คน ทั้งนี้เกาะโดยรอบจะถูกจับรวมให้เป็นกลุ่ม เพื่อให้มีพื้นที่ที่เชื่อมถึงกัน อีกทั้งยังมีสะพานที่ยังคอยเชื่อมเมืองลอยน้ำกับแผ่นดินหลักได้อีกด้วย
เมืองลอยน้ำแห่งนี้จะได้รับการออกแบบคิดค้นให้มีการพัฒนา และเปลี่ยนแปลง รวมถึงปรับตัวได้ตามกาลเวลา ซึ่งจะเริ่มจากการพัฒนาจากย่านชุมชนสู่หมู่บ้าน และค่อยๆ ขยับขยายกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ขึ้น แต่ในการออกแบบขยับขยายแผนเมืองลอยน้ำนั้น อาจจะยังไม่ได้มีการเปิดเผยเป็นที่แน่ชัด โดยผู้ร่วมก่อตั้ง Oceanix นั้น ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าว Insider ว่า
“โปรเจกต์นี้พึ่งเกิดขึ้นที่ปูซาน และเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับเราในการสร้างผลงานชิ้นต้นแบบนี้”
แต่สิ่งที่คิดนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากชุมชนชายฝั่งทั้งหมดกำลังเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวง จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลโดยรอบ เนื่องจากเมืองพื้นฐานนั้นเป็นเมืองลอยน้ำ ดังนั้นมันจะลอยสูงขึ้นไปพร้อมๆ กับระดับของน้ำทะเล ซึ่งนั้นก็จะสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้ และในขณะเดียวกันก็ยังสามารถผลิตพลังงานน้ำจืด และอาหารได้อีกด้วย ด้วยระบบภายในเมืองเองทั้งหมด โดยจะมีกรงใต้เกาะเป็นที่เพาะเลี้ยงสัตว์ทะเล นั่นทำให้เห็นว่าโปรเจกต์นี้จะเป็นประโยชน์กับชายฝั่งโดยรอบทั้งหมดทั่วโลก
นักออกแบบของบริษัท BIG ที่ร่วมในโครงการนี้อธิบายเอาไว้ว่า เมืองนี้จะไม่ลอยไปไหน เพราะยึดเกาะกับพื้นทะเลด้วย Biorock (ไบโอร็อก) ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้สร้างแนวปะการังเทียมอยู่แล้ว และไม่สร้างผลกระทบกับสัตว์ทะเลใต้น้ำ
ที่สำคัญ โครงการนี้ออกแบบมาให้ทนทานต่อระดับน้ำทะเลขึ้นสูง พายุเฮอริเคน และภัยธรรมชาติด้วย โดยใช้วัสดุจากท้องถิ่นสำหรับการก่อสร้างอาคาร รวมถึงไม้ไผ่ที่ต้านทานแรงดึงมากกว่าเหล็กถึง 6 เท่า ซึ่งช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์และลดต้นทุนไปได้มาก
ซึ่งในตอนนี้ทาง Oceanix กำลังทำงานร่วมกับนักออกแบบท้องถิ่น เพื่อปรับแบ่งเมืองลอยน้ำให้เข้ากับสภาพแวดล้อมท้องถิ่น โดยจะมีการนำเสนอผลลัพธ์ทาง UN ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยเมืองลอยน้ำแห่งนี้ ทางผู้ร่วมก่อตั้ง Oceanix นั้นกล่าวไว้ว่าจะใช้เวลาในการสร้างที่แห่งนี้ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี (นับตั้งแต่ปี 2023) ดังนั้นจึงคาดว่าจะเสร็จในปี 2025 นี้
ขอบคุณรูปภาพจาก : Oceanixcity
ที่มา :
https://hypebeast.com/2022/4/bjarke-ingels-group-oceanix-busan-design-revealed
https://positioningmag.com/1383794
https://www.un.org/press/en/2019/dsgsm1269.doc.htm