posttoday

สาวๆ ใจสลาย วิกฤตอากาศทำให้ “ดอกกุหลาบอังกฤษ” ในตำนานไม่บานอีกต่อไป

17 พฤศจิกายน 2565

กุหลาบอังกฤษชื่อดังในคอลเล็กชั่นของเดวิด ออสตินบางสายพันธุ์ที่ได้รับรางวัลชั้นสูงกำลังจะถูกถอนทิ้งออกจากรายการซื้อขายเนื่องจากภาวะโลกร้อน สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงและศัตรูพืชที่ร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ

สาวๆ ใจสลาย วิกฤตอากาศทำให้ “ดอกกุหลาบอังกฤษ” ในตำนานไม่บานอีกต่อไป

"มีเพียงดอกกุหลาบเท่านั้นที่สมบูรณ์แบบในทุกช่วงเวลาของการดำรงอยู่ของมัน" ราล์ฟ วัลโด เอเมอร์สัน กวีชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้เช่นนั้น 

แม้กระทั่งความงามของผู้หญิงตามแบบฉบับอังกฤษก็ยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับดอกกุหลาบอังกฤษ หรือ English Rose

แต่เมื่อต้องเจอกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกทุกวันนี้ ความสมบูรณ์แบบที่กวีกล่าวไว้นั้นก็มีอันต้องจบสิ้นไป

ชร็อฟเชียร์ แลด (Shropshire Lad) แปลว่า เด็กหนุ่มจากชร็อฟเชียร์ ชื่อของกลุ่มบทกวี 63 บทของกวีชาวอังกฤษอัลเฟรด เอ็ดเวิร์ด เฮาส์แมน ไม่เกี่ยวข้องกับดอกกุหลาบแต่อย่างใด แต่ชื่อนี้ก็ได้กลายเป็นตำนานอีกหนึ่งบทของอังกฤษ เมื่อมันถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของสายพันธุ์ “กุหลาบอังกฤษ” ชื่อดังก้องโลกอย่าง “A Shropshire Lad” หนึ่งกุหลาบในคอลเลกชั่นของ David Austin ในสายพันธุ์ Leander ที่กำลังจะหายไปจากอังกฤษ

เวลาที่เราจินตนาการถึงสวนแบบอังกฤษ ก็จะมีดอกกุหลาบผุดขึ้นมาในภาพด้วยเสมอ กลิ่นอันหอมหวานและกลีบดอกอันหรูหราอลังการของกุหลาบอังกฤษ หรือ English Roses ได้รับการยกย่องจากชาวสวน (และกวี) มาช้านาน แต่ตอนนี้ สายพันธุ์อันเป็นที่รักที่สุดบางสายพันธุ์กำลังถูกรื้อถอนออกไปโดยชาวสวนผู้ปลูกที่รักพวกมันราวกับลูกน้อย จากสภาพอากาศที่แปรปรวนและศัตรูพืชที่ทวีความร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ

หากสืบที่มาที่ไปอันยาวนานจะพบว่า กุหลาบอังกฤษนั้นมีต้นกำเนิดมาจากจีนและอิรัก แต่เป็นระยะเวลาหลายร้อยปีมาแล้วที่มีการปลูกและพัฒนาสายพันธุ์จนบานสะพรั่งไปทั่วอังกฤษ และราชาแห่งการปลูกกุหลาบที่ไม่เคยพบกับปัญหาในช่วงหกทศวรรษที่ผ่านมาคือ เดวิด ออสติน ผู้เพาะพันธุ์ชาวอังกฤษผู้โด่งดัง ซึ่งเสียชีวิตไปในปี 2561 แต่กุหลาบอังกฤษที่ปลูกกันในสวนทั่วประเทศด้วยสีสันและกลิ่นหอมอันเย้ายวนจากบริษัทของเขายังคงดำเนินการอยู่ 

แต่ไม่นานนี้ก็ได้มีการออกมาประกาศว่า จะต้องเลิกใช้งานลูกสุดที่รักอย่าง A Shropshire Lad หรือ ชร็อฟเชียร์ แลด ด้วยเหตุผลสุดเศร้า จากสภาพแวดล้อมที่ไม่อาจควบคุมได้ ทำให้ไม่สามารถปลูกกุหลาบสายพันธุ์นี้ได้อีกต่อไป 

สาวๆ ใจสลาย วิกฤตอากาศทำให้ “ดอกกุหลาบอังกฤษ” ในตำนานไม่บานอีกต่อไป

เอกลักษณ์อันโดดเด่นของดอกรูปทรงรองเท้าบัลเล่ต์ สีชมพูอมพีชที่บานสะพรั่งและกลิ่นหอมชาผลไม้ของ A Shropshire Lad ซึ่งเป็นสายพันธุ์กุหลาบเลื้อยอันงดงามในตำนานของกุหลาบอังกฤษ จนได้รับรางวัลจากสมาคมชั้นสูงอย่าง Royal Horticultural Society (RHS) นับตั้งแต่เริ่มออกวางจำหน่ายในปี 2539 ด้วยลำต้นที่เกือบจะไม่มีหนามและกลีบดอกที่ได้สัดส่วนสมมาตรอย่างไร้ที่ติ ได้กลายเป็นหนึ่งในสายพันธุ์กุหลาบเลื้อยในคอลเลกชั่นของ David Austin สำหรับผู้ที่ต้องการดอกไม้ที่มีสีชมพูไข่มุก

แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีการนำสายพันธุ์สุดสวยนี้ออกจากการขายแล้ว

ทิม สมิธ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ David Austin Roses กล่าวว่า "เราไม่สามารถอดทนและนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เมื่อพบว่า โรคและแมลงศัตรูพืชมีวิวัฒนาการไปตามสภาวะแวดล้อมและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งคุกคามต่อสุขภาพและความสำเร็จของพันธุ์ยอดนิยมบางสายพันธุ์ของเรา

สาวๆ ใจสลาย วิกฤตอากาศทำให้ “ดอกกุหลาบอังกฤษ” ในตำนานไม่บานอีกต่อไป

“นี่หมายถึงการทดลองครั้งใหม่ทั้งหมดของเรา และในบางครั้ง การเลิกใช้พันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น A Shropshire Lad แม้ว่าพืชเหล่านี้อาจยังเติบโตและใช้งานได้ในบางสภาวะ แต่ในระยะยาว สภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป (และมีผลต่อการปลูกกุหลาบ) ทำให้เราต้องแนะนำสายพันธุ์ทางเลือกที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่า

“แม้จะไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายดาว และจะส่งผลให้รายได้ในระยะสั้นลดลง แต่เราต้องตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะลบมันออกไป”

สาวๆ ใจสลาย วิกฤตอากาศทำให้ “ดอกกุหลาบอังกฤษ” ในตำนานไม่บานอีกต่อไป

กุหลาบสุดรักและน่าทึ่งในความงามที่ได้รับความนิยมอีกสายพันธุ์ที่จะถูกโละออกจากตลาดในปีนี้คือ Munstead Wood ซึ่งเป็นที่จดจำจากกลีบดอกสีแดงเข้มนุ่มลึก และกลิ่นดอกอันสุดแสนคลาสสิกของแบล็กเบอร์รี่และผลแดมสัน แม้ว่าจะได้เริ่มปลูกในปี 2550 เท่านั้น และยังนับเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างใหม่ แต่ก็มีศัตรูพืชที่จ้องทำลายล้างจนทำให้ต้องเลิกจำหน่าย

ในขณะที่หลักการดูกุหลาบสำหรับดอกกุหลาบที่สมบูรณ์แบบนั้นก็คือ ต้องมีดอกที่บานสะพรั่งและกลิ่นหอมที่งดงาม ถึงตอนนี้ชาวสวนผู้เพาะพันธุ์กำลังทำการบ้านกันอย่างหนักในการเลือกเฟ้นสายพันธุ์เพื่อให้ทนต่อสภาพอากาศ เพราะเวลานี้ผู้ปลูกกุหลาบในอังกฤษกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งมากขึ้น และเพื่อแก้ปัญหานี้ ผู้ปลูกบางรายกำลังทดลองปลูกกุหลาบในพื้นที่ร้อนชื้น ทั้งที่ฟลอริดาในสหรัฐอเมริกาและที่เสินเจิ้นในจีน เพราะไม่ต้องการให้สภาพอากาศที่แปรปรวนในอังกฤษส่งผลต่อคุณภาพของกุหลาบ 

ด้านไซมอน ทูเมอร์ ภัณฑารักษ์ของคอลเลกชั่นพืชพันธุ์ (living collections) ที่ Kew Gardens กล่าวว่า “กุหลาบที่เราเห็นในสวนเป็นผลผลิตจากพันธุ์ไม้ป่าอายุหลายร้อยปี การผสมพันธุ์ส่วนใหญ่ล้วนมุ่งไปที่การคัดสรรดอกที่มีสีสันและกลิ่นอันโดดเด่นและน่าเชื่อถือ

“นอกจากคุณภาพของดอกไม้แล้ว การคัดเลือกสายพันธุ์คุณภาพยังเป็นผลมาจากความต้านทานต่อโรคต่างๆ เช่น จุดดำและโรคราแป้ง เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งน้ำที่เปียกชื้นและฤดูร้อนที่แห้งแล้ง โรคเหล่านี้จึงสร้างความเสียหายมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ต้นกุหลาบไม่เหมาะกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงอ่อนแอต่อโรคได้มากขึ้น”

ถึงตอนนี้ศัตรูพืชยังเจริญเติบโตในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่า ซึ่งส่งผลมาสู่ชาวสวนกุหลาบในอังกฤษจากสภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ

ทูเมอร์อธิบายว่า “ความชื้นในฤดูใบไม้ผลิยังเหมาะกับชีววิทยาของศัตรูพืชพวกเชื้อราด้วยหมายความว่า ผู้เพาะพันธุ์พืชต้องให้ความสำคัญกับการต้านทานโรคมากขึ้นโดยการแนะนำยีน (ผ่านการผสมพันธุ์) จากพืชที่ต้านทานโรคมากขึ้น ซึ่งมักเป็นดอกกุหลาบป่าที่มีความต้านทานโรคตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังหมายความว่า บางสายพันธุ์ (รวมถึงกุหลาบยอดนิยมอันเก่าแก่บางส่วน) ตอนนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคมากเกินไป”

เป็นความจริงว่า พื้นที่บางส่วนของอังกฤษไม่เหมาะกับกุหลาบหลายชนิดจากข้อมูลของสมาคม RHS ดังนั้นผู้ปลูกบางรายจึงต้องผสมพันธุ์กุหลาบกับพืชที่ทนต่อสภาพอากาศรวมถึงชาด้วย


อ้างอิง

https://www.theguardian.com/environment/2022/nov/11/why-climate-change-means-some-english-roses-will-bloom-no-longer