เปิดตัว Oculus Quest Pro แว่น VR ตัวท็อปของ Meta

Metaverse คือศัพท์ใหม่ที่แพร่หลายและได้รับความนิยมภายหลังการรีแบรนด์ของ Facebook สู่ Meta กับการก้าวเท้าเข้าสู่โลกแห่ง Virtual reality เต็มตัว ผลักดันให้บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ทั่วโลกให้ความสนใจจนถึงพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

          หลายฝ่ายยังรอดูแนวทางว่าการเดิมพันครั้งใหญ่ของ Meta จะประสบความสำเร็จเพียงไรในเทคโนโลยีนี้ กระนั้นการผลักดันของทางบริษัทยังคงไม่หยุดยั้ง จากระบบและผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ถูกพัฒนาให้เอื้อไปในทางเดียวกัน เพื่อตอบสนองจุดมุ่งหมายสูงสุดในการสร้างโลกเสมือนจริง

 

          นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของทางบริษัทกับ Oculus Quest Pro แว่น VR รุ่นล่าสุดที่จะนำเราเข้าสู่ Metaverse

Oculus Quest Pro แว่น VR รุ่นใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพกว่าเดิม

 

          สินค้าประเภทแว่น VR ถูกวางจำหน่ายออกมามากมาย ทั้งจากบริษัทเทคโนโลยีอื่นหรือแม้แต่ทาง Meta เองก็มี Oculus Rift และ Oculus Quest 2 ออกมาให้ใช้งาน ถือเป็นหนึ่งในแว่น VR ชั้นนำที่ได้รับความนิยม จากคุณสมบัติที่ได้รับการพัฒนาก้าวกระโดดอย่างยิ่งในรุ่น Oculus Quest 2 ต่อยอดมาเป็น Oculus Quest Pro

 

          โดยพื้นฐาน Oculus Quest Pro ที่ได้รับการพัฒนายังคงรองรับเนื้อหาที่มาจาก Quest 2 แต่ส่วนที่ได้รับการต่อยอดขึ้นคือฮาร์ดแวร์ ด้วยการออกแบบให้ใกล้เคียงหูฟังที่มีน้ำหนักเบา แม้ตัวแว่นจะมีน้ำหนัก 722 กรัม มากกว่ารุ่น Quest 2 ที่หนัก 503 กรัมไปบ้าง แต่ได้รับการออกแบบรูปทรงให้สวมใส่กระชับ สบาย และมีความคล่องตัวจากการขยับทำให้ใช้งานง่ายกว่า

 

          ระบบที่ได้รับการพัฒนาใน Oculus Quest Pro คือ Eye-tracking ซึ่งจะช่วยให้การแสดงผลจอภาพ สามารถไล่ตามสายตาของเราเพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น รวมถึง Facial expression ระบบตรวจจับการแสดงออกทางสีหน้าความละเอียดสูง ช่วยให้อวาตาร์ของเราในโลกเสมือนแสดงสีหน้าเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

การควบคุมและเลนส์เองก็เป็นหนึ่งในระยบที่ได้รับการปรับปรุง ด้วยการเพิ่มกล้องเข้าไปจากรุ่นเก่าทำให้ Oculus Quest Pro มีกล้องเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวถึง 10 ตัว ช่วยให้ตัวเครื่องแสดงผลโลกเสมือนในรูปแบบ 3 มิติได้สมจริงและมีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น

 

          อีกหนึ่งจุดเด่นของ Oculus Quest Pro คือ หน้าจอความละเอียด 1800 x 1920 Pixels ต่อข้าง พร้อมอัตราการรีเฟรซสูงถึง 90Hz ทำให้รายละเอียดภาพที่แสดงบนหน้าจอยิ่งเฉียบคม ลดความสับสนและอาการเวียนหัวในการใช้งาน อีกทั้งสามารถเข้าถึงอินเตอร์เฟสการควบคุมได้สะดวกขึ้นด้วย

 

          เมื่อรวมกับพลังในการประมวลผลจากชิป Qualcomm Snapdragon XR2+ มาพร้อม RAM 12 GB และ พื้นที่เก็บข้อมูล 256 GB จึงถือได้ว่า Oculus Quest Pro มีประสิทธิภาพการแสดงผลสูงกว่าเดิมถึง 50% โดยระดับความร้อนของตัวเครื่องและการใช้พลังงานที่น้อยลง ช่วยให้การใช้งานของแว่น VR รุ่นนี้ง่ายและยาวนานกว่าเดิม

 

 

          ประสิทธิภาพล้ำหน้าแต่ชวนให้ตั้งคำถามความคุ้มค่าโดยรวม

 

          คุณสมบัติจัดเต็มประสิทธิภาพยกระดับจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ก็ออกมายืนยันว่า ฮาร์ดแวร์หรือแว่น VR ที่ทางบริษัทวางขาย เกือบทุกรุ่นจะขายในราคาทุน เพื่อเป็นการดึงคนเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่พวกเขากำลังสร้างก่อน แล้วจึงค่อยคิดถึงเรื่องทำกำไรจากซอฟต์แวร์และบริการต่างๆ

 

          แต่ถ้าถามว่า Oculus Quest Pro คือ แว่น VR ที่เหมาะสมในการใช้งานทั่วไปหรือไม่ เกรงว่าคำตอบจะเป็น ไม่

 

          ประเด็นแรกและอาจสำคัญที่สุดสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปคือราคา Oculus Quest Pro มีราคาวางจำหน่ายสูงถึง 1,499 ดอลลาร์(57,000 บาท) ถือเป็นราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับแว่น VR รุ่นอื่นซึ่งเคยผลิตออกมา หรือแม้แต่สินค้าไอทีชนิดอื่นก็นับว่ามีราคาสูงจนน่าตกใจ ด้วยราคาใกล้เคียง Iphone 14 Pro Max เลยทีเดียว

 

          จริงอยู่แว่น VR ถือเป็นสื่อเพื่อความบันเทิงชนิดหนึ่ง การใช้งานหรือการตีคุณค่าจึงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แต่เมื่อเทียบกับสินค้าประเภทอื่น ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือเกมคอนโซลรุ่นต่างๆ ล้วนมีราคาเปิดตัวถูกกว่า แม้แต่ Oculus Quest 2 ที่เป็นรุ่นก่อนหน้านี้ที่ราคาปัจจุบันก็อยู่ที่ 399 ดอลลาร์(15,000 บาท) เท่านั้น นี่จึงเป็นราคาที่สูงมาก

 

          ทางบริษัทเองแม้มีการออกมายืนยันว่าราคาของเครื่องนี้ไม่สูง แต่แผนการถัดไปของพวกเขาคือการออกแว่น VR รุ่น Oculus Quest 3 สนนราคาอยู่ราว 300 – 500 ดอลลาร์ตามมาในภายหลัง จึงอาจเรียกได้ว่า Oculus Quest Pro เป็นแว่น VR ที่มีราคาสูงเกินคนทั่วไปจับต้องได้ไปเสียหน่อย

 

          อีกทั้งสำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนอาจไม่ทราบ แต่แว่น VR ของทาง Meta แม้มีข้อดีในการไม่ต้องเสียบเชื่อมสายกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พ่วงช่วยเพิ่มความคล่องตัว แต่ความจุแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ราว 1 – 2 ชั่วโมง มีระยะเวลาการใช้งานสั้น ถือเป็นส่วนที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องรับทราบด้วยเช่นกัน

 

          อีกหนึ่งประเด็นสำคัญของแว่น VR คือ การใช้งานในระยะยาวสามารถสร้างภาระให้แก่ร่างกายได้ จากกรณีชายในเยอรมนีที่มีอาการกระดูกสันหลังส่วนคอข้อ C7 แตกหลังเล่นเกมบน VR เป็นระยะเวลา 1 - 4 ชั่วโมงติดต่อกันหลายวัน รวมถึงปัญหาด้านอุบัติเหตุจากการใช้งาน เพราะการตัดขาดกับโลกความจริงสามารถนำไปสู่อุบัติเหตุภายในบ้านได้โดยง่าย

 

          นี่จึงถือเป็นปัญหาที่ผู้ใช้งานแว่น VR ทุกคนควรรู้และหาทางรับมือไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันกรณีแบบนี้ในอนาคต

 

 

          แน่นอนในเชิงเทคโนโลยีแว่น VR ถือเป็นเทคโนโลยีน่าสนใจ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับราคาในปัจจุบันอาจถูกพิจารณาเป็นตัวเลือกรอง สำหรับท่านที่มีความสนใจแว่น VR อยากลองใช้งาน อาจมองหาแว่นรุ่นอื่นที่มีประสิทธิภาพรองลงมา, สินค้าจากบริษัทอื่น หรือรอแว่น VR รุ่นใหม่กว่านี้ ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า Oculus Quest Pro อยู่พอสมควร

 

 

 

 

 

 

          ที่มา

 

          https://www.nationtv.tv/original/378863836

 

          https://www.oculus.com/blog/meta-quest-pro-price-release-date/

 

          https://www.theverge.com/23393115/meta-quest-pro-vr-headset-hands-on-specs-price

 

          https://techsauce.co/news/meta-quest-pro-cutting-edge-headset-vr