ตู้ ATM คริปโตกับการรับมือการก่ออาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น
หากย้อนกลับไปดูในช่วงที่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ จะเห็นได้ว่าตลาดแห่งนี้ถูกมองข้ามไปจนกระทั่งมาถึงยุคที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามา ทำให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่กลับมาคึกคักอย่างก้าวกระโดด
กระแสตู้เอทีเอ็มคริปโต
โดยเฉพาะการเกิดใหม่ของตู้เอทีเอ็มของเหรียญบิทคอยน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของผู้ใช้เหรียญบิทคอยน์มากขึ้น ย้อนกลับไปในช่วงปี 2013 เป็นช่วงที่คนส่วนน้อยเริ่มเข้าใจความเป็นมาของเหรียญบิทคอยน์มากขึ้น จนกระทั่งกระแสเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้หลายบริษัททางด้านการชำระเงินเริ่มผุดไอเดียติดตั้งตู้เอทีเอ็มบิทคอยน์ขึ้นมา จนถึงตอนนี้ตู้เอทีเอ็มบิทคอยน์มีการติดตั้งหลายประเทศทั่วโลก
เหล่าอาชญากรที่ไม่มีแนวโน้มหดลง
นอกจากนั้นแล้วยังมีเรื่องของการฉ้อโกงและการก่ออาชญากรรมทางด้านคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ยังคงเป็นเรื่องท้าทายสำคัญที่ทำให้ความเชื่อมั่นในการซื้อขายคริปโตหดหายลงไป แม้ว่าบิทคอยน์จะยังคงเป็นเหรียญเบอร์หนึ่งที่คนส่วนใหญ่ยังคงให้ความนิยมเป็นอย่างสูง แต่ก็กลายเป็นเหรียญที่เหล่าอาชญากรพุ่งเป้าให้ความสำคัญในการดำเนินการฉ้อโกงมากที่สุดด้วยเช่นกัน
ตัวแปรที่สำคัญยังคงเป็นเรื่องของการควบคุมกำกับสินทรัพย์ประเภทคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ยังคงเป็นเรื่องที่หลายประเทศยังคงมีการถกเถียงกันอยู่ รวมไปถึงการที่รัฐบาลหลายประเทศเริ่มผุดแนวคิดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางในการรับมือไม่ให้คริปโตเคอร์เรนซี่เข้ามามีอิทธิพลเหนือกว่าระบบการเงินในแต่ละประเทศ
ข้อมูลจาก : https://cointelegraph.com/news/9-years-after-the-first-bitcoin-atm-there-are-now-38-804-globally