posttoday

นวัตกรรมแห่งถุงยางอนามัย ผลิตจากวัสดุทำเกราะกันกระสุน

02 กุมภาพันธ์ 2566

ถุงยางอนามัย ถือเป็นหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้ชงัด แต่ยังมีบางส่วนไม่นิยมใช้งานทั้งปัญหาจากความชื่นชอบหรือความทนทาน ปัจจุบันนวัตกรรมใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดมีการใช้วัสดุเกราะกันกระสุนในการผลิตถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัยถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์คุมกำเนิดที่ถูกใช้งานแพร่หลาย  อีกทั้งยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ นั่นทำให้เกิดการรณรงค์แจกจ่ายถุงยางอนามัยเพื่อให้ผู้คนจำนวนมากเข้าถึงในหลายประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ไทยที่ล่าสุดมีนโยบายแจกให้มากถึงสัปดาห์ละ 10 ชิ้น/คน โดยสามารถเข้าไปจองในแอปเป๋าตังและขอรับได้ที่หน่วยบริการ

 

          แน่อนว่าบางมีบางท่านตั้งคำถามอยู่บ้าง ทั้งจำนวนถุงยางอนามัยที่ทำการแจกถือเป็นจำนวนมากเกินไปหรือไม่ รวมถึงบางท่านอาจมีประสบการณ์ใช้งานไม่ดีนัก แต่ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาคุณภาพของถุงยางอนามัยให้บาง ทนทาน และใช้งานสะดวกขึ้นหลายรูปแบบ ถึงขั้นมีการนำวัสดุใช้ทำเกราะกันกระสุนมาผลิตเป็นถุงยางอนามัย

 

          ถึงจุดนี้หลายท่านอาจตั้งคำถามเรื่องถุงยางอนามัยกันอยู่บ้าง เราจึงขอย้อนความกันสักนิดว่าถุงยางอนามัยมีมูลค่าเพียงไร

นวัตกรรมแห่งถุงยางอนามัย ผลิตจากวัสดุทำเกราะกันกระสุน

ถุงยางอนามัย กับมูลค่าทางการตลาดยักษ์ใหญ่

 

          หลายท่านอาจไม่ทราบว่าแท้จริงมูลค่าทางการตลาดของถุงยางอนามัยไม่ได้เล็ก นับจากทั่วโลกตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึง 324,000 ล้านบาท มูลค่าของตลาดภายในประเทศไทยเองก็มีมากถึง 1,400 ล้านบาท ในปี 2019 และขยายตัวไปถึง 1,800 ล้านบาทในช่วงปี 2022 เลยทีเดียว

 

          ธุรกิจถุงยางอนามันอาจสะดุดจากสถานการณ์ระบาดโควิดไปบ้าง ทำให้ยอดขายลดลงจากเดิมลงไปกว่า 40% แต่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ยอดขายทยอยฟื้นตัวจากการที่ผู้คนเริ่มกลับออกมาใช้ชีวิต จนหลายประเทศมีการรณรงค์แจกถุงยางอนามัยให้ใช้งานฟรีแล้วเช่นกัน

 

          นอกจากประเทศไทยที่ทาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ได้ทำการแจกถุงยางในโควตา 10 ชิ้น/สัปดาห์/คน รวมเป็นจำนวนถึง 520 ชิ้น/ปี/คน ประเทศฝรั่งเศสเองก็เริ่มมีการแจกถุงยางอนามัยแก่วัยรุ่น เพื่อลดปัญหาการท้องไม่พร้อม ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ไปจนป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ช่วยเพิ่มยอดขายถุงยางอนามันมากขึ้น

 

          ประเทศที่มีอัตราบริโภคถุงยางอนามัยเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, เยอรมนี และจีน โดยรวมเป็นประเทศที่มีอัตราการผลิตและส่งออกถุงยางอนามัยอยู่ในระดับสูง หลายประเทศในนี้มีการคิดค้นพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ถุงยางอนามัยเป็นวงกว้าง นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบ

 

          กระนั้นปัจจุบันการใช้งานถุงยางอนามัยยังไม่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้นี่เป็นวิธีคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศที่เรียบง่ายที่สุด ทั้งจากปัญหาด้านสภาพสังคม เช่น เหตุผลด้านศาสนา, ขาดการสอนเพศศึกษาอย่างเหมาะสม, ไม่สามารถหาซื้อมาใช้งาน ไปจนเหตุผลส่วนตัวอย่างการไม่ถูกใจจึงไม่ชอบใช้งาน

 

          นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์เริ่มพัฒนาถุงยางชนิดใหม่เพื่อรองรับกลุ่มคนให้หลากหลายยิ่งขึ้น

นวัตกรรมแห่งถุงยางอนามัย ผลิตจากวัสดุทำเกราะกันกระสุน

ถุงยางอนามัยชนิดใหม่ที่ใช้วัสดุในการผลิตเดียวกับเกราะกันกระสุน

 

          ผลงานถุงยางอนามัยรุ่นใหม่นี้เป็นของนักวิทยาศาสตร์จาก University of Manchester ที่ริเริ่มนำเอาวัสดุอย่าง กราฟีน วัสดุสังเคราะห์ซึ่งทีคุณสมบัติยอดเยี่ยมทั้งในแง่การนำความร้อน แข็งแรง บาง และเบาที่สุด ได้รับความนิยมทางการทหารในการใช้สร้างเสื้อเกราะกันกระสุน มาเป็นวัสดุในการผลิตถุงยางอนามัย

 

          ด้วยคุณสมบัติของกราฟีนเอง การผลิตวัสดุชนิดนี้ขึ้นมาใช้งานเป็นถุงยางอนามัยโดยตรงเป็นเรื่องยาก ทำให้ทางทีมวิจัยต้องนำวัสดุนี้ไปผสมเข้ากับ ยาง หรือ โพลียูรีเทน เพื่อนำวัสดุนาโนชนิดนี้เข้ามาผสมผสานกับความยืดหยุ่นของถุงยางอนามัย เพื่อให้ยังสามารถคงความทนทานของกราฟีนในถุงยางอนามัยได้เช่นดิม

 

          จากการทดสอบผลิตตัวต้นแบบขึ้นมาพบว่า ถุงยางอนามัยที่มีส่วนผสมของกราฟีน มีความทนทานเหนือกว่าถุงยางอนามัยทั่วไปถึง 60% หรือสามารถทำให้ถุงยางอนามัยบางลงอีก 20% โดยยังสามารถคงความทนทานไว้ในระดับเดิมได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อีกมาก

 

          นอกจากนี้เมื่อใช้กราฟีนเข้ามาเป็นส่วนผสมจะช่วยลดอัตราการใช้งานยาง เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้มีอาการแพ้ยางที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงการป้องกันและคุมกำเนิดได้ง่ายขึ้น ด้วยปัจจุบันถุงยางอนามันจากวัสดุทดแทนอย่างโพลียูรีเทนมีความทนทานไม่เพียงพอ ส่วนถุงยางจากวัสดุธรรมชาติก็ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดได้

 

          เทคโนโลยีนี้ไม่ได้จำกัดการใช้งานแค่เพียงถุงยางอนามัย ทางทีมวิจัยยังวางแผนต่อยอดไว้ใช้สำหรับงานในด้านอื่นที่ต้องการความทนทานมากขึ้น เช่น อุปกรณ์การแพทย์อย่างถุงมือยางสำหรับศัลยแพทย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการทำงานแก่การผ่าตัดหรืองานการแพทย์ทุกชนิดในอนาคต

 

          น่าเสียดายที่ในปัจจุบันถุงยางอนามัยจากกราฟีนยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาไม่มีการวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์

 

 

 

          แน่นอนการนำกราฟีนมาใช้เป็นวัสดุไม่ใช่ตัวเลือกเดียวในการพัฒนาถุงยางอนามัย ปัจจุบันมีการทดลองนำวัสดุหลายชนิดมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มทั้งความทนทาน ความบาง ผิวสัมผัส หรือแม้แต่การใช้สารเคลือบลงบนผิวถุงยางโดยตรง เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมทางเพศได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

          คงต้องรอชมกันต่อไปว่าในอนาคตจะมีถุงยางอนามัยแบบใดออกมาให้ใช้งานกันอีก

 

 

 

          ที่มา

 

          https://www.bbc.com/future/article/20210423-how-grass-and-gel-could-make-condoms-better

 

          https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/condom-market?

 

          https://www.globenewswire.com/news-release/2022/12/21/2578166/0/en/Condom-Market-is-expected-to-grow-from-USD-9-9-billion-in-2021-to-USD-19-15-billion-by-2029-GreyViews.html

 

          https://newspatrolling.com/which-countries-have-highest-condom-use/

 

          https://brandinside.asia/tnr-q3-2022/

 

          https://www.reuters.com/world/europe/condoms-be-free-young-people-france-macron-says-2022-12-08/