นวัตกรรมแห่งถุงยางอนามัย ผลิตจากวัสดุทำเกราะกันกระสุน
ถุงยางอนามัย ถือเป็นหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้ชงัด แต่ยังมีบางส่วนไม่นิยมใช้งานทั้งปัญหาจากความชื่นชอบหรือความทนทาน ปัจจุบันนวัตกรรมใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดมีการใช้วัสดุเกราะกันกระสุนในการผลิตถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัยถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์คุมกำเนิดที่ถูกใช้งานแพร่หลาย อีกทั้งยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ นั่นทำให้เกิดการรณรงค์แจกจ่ายถุงยางอนามัยเพื่อให้ผู้คนจำนวนมากเข้าถึงในหลายประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ไทยที่ล่าสุดมีนโยบายแจกให้มากถึงสัปดาห์ละ 10 ชิ้น/คน โดยสามารถเข้าไปจองในแอปเป๋าตังและขอรับได้ที่หน่วยบริการ
แน่อนว่าบางมีบางท่านตั้งคำถามอยู่บ้าง ทั้งจำนวนถุงยางอนามัยที่ทำการแจกถือเป็นจำนวนมากเกินไปหรือไม่ รวมถึงบางท่านอาจมีประสบการณ์ใช้งานไม่ดีนัก แต่ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาคุณภาพของถุงยางอนามัยให้บาง ทนทาน และใช้งานสะดวกขึ้นหลายรูปแบบ ถึงขั้นมีการนำวัสดุใช้ทำเกราะกันกระสุนมาผลิตเป็นถุงยางอนามัย
ถึงจุดนี้หลายท่านอาจตั้งคำถามเรื่องถุงยางอนามัยกันอยู่บ้าง เราจึงขอย้อนความกันสักนิดว่าถุงยางอนามัยมีมูลค่าเพียงไร
ถุงยางอนามัย กับมูลค่าทางการตลาดยักษ์ใหญ่
หลายท่านอาจไม่ทราบว่าแท้จริงมูลค่าทางการตลาดของถุงยางอนามัยไม่ได้เล็ก นับจากทั่วโลกตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึง 324,000 ล้านบาท มูลค่าของตลาดภายในประเทศไทยเองก็มีมากถึง 1,400 ล้านบาท ในปี 2019 และขยายตัวไปถึง 1,800 ล้านบาทในช่วงปี 2022 เลยทีเดียว
ธุรกิจถุงยางอนามันอาจสะดุดจากสถานการณ์ระบาดโควิดไปบ้าง ทำให้ยอดขายลดลงจากเดิมลงไปกว่า 40% แต่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ยอดขายทยอยฟื้นตัวจากการที่ผู้คนเริ่มกลับออกมาใช้ชีวิต จนหลายประเทศมีการรณรงค์แจกถุงยางอนามัยให้ใช้งานฟรีแล้วเช่นกัน
นอกจากประเทศไทยที่ทาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ได้ทำการแจกถุงยางในโควตา 10 ชิ้น/สัปดาห์/คน รวมเป็นจำนวนถึง 520 ชิ้น/ปี/คน ประเทศฝรั่งเศสเองก็เริ่มมีการแจกถุงยางอนามัยแก่วัยรุ่น เพื่อลดปัญหาการท้องไม่พร้อม ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ไปจนป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ช่วยเพิ่มยอดขายถุงยางอนามันมากขึ้น
ประเทศที่มีอัตราบริโภคถุงยางอนามัยเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, เยอรมนี และจีน โดยรวมเป็นประเทศที่มีอัตราการผลิตและส่งออกถุงยางอนามัยอยู่ในระดับสูง หลายประเทศในนี้มีการคิดค้นพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ถุงยางอนามัยเป็นวงกว้าง นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบ
กระนั้นปัจจุบันการใช้งานถุงยางอนามัยยังไม่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้นี่เป็นวิธีคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศที่เรียบง่ายที่สุด ทั้งจากปัญหาด้านสภาพสังคม เช่น เหตุผลด้านศาสนา, ขาดการสอนเพศศึกษาอย่างเหมาะสม, ไม่สามารถหาซื้อมาใช้งาน ไปจนเหตุผลส่วนตัวอย่างการไม่ถูกใจจึงไม่ชอบใช้งาน
นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์เริ่มพัฒนาถุงยางชนิดใหม่เพื่อรองรับกลุ่มคนให้หลากหลายยิ่งขึ้น
ถุงยางอนามัยชนิดใหม่ที่ใช้วัสดุในการผลิตเดียวกับเกราะกันกระสุน
ผลงานถุงยางอนามัยรุ่นใหม่นี้เป็นของนักวิทยาศาสตร์จาก University of Manchester ที่ริเริ่มนำเอาวัสดุอย่าง กราฟีน วัสดุสังเคราะห์ซึ่งทีคุณสมบัติยอดเยี่ยมทั้งในแง่การนำความร้อน แข็งแรง บาง และเบาที่สุด ได้รับความนิยมทางการทหารในการใช้สร้างเสื้อเกราะกันกระสุน มาเป็นวัสดุในการผลิตถุงยางอนามัย
ด้วยคุณสมบัติของกราฟีนเอง การผลิตวัสดุชนิดนี้ขึ้นมาใช้งานเป็นถุงยางอนามัยโดยตรงเป็นเรื่องยาก ทำให้ทางทีมวิจัยต้องนำวัสดุนี้ไปผสมเข้ากับ ยาง หรือ โพลียูรีเทน เพื่อนำวัสดุนาโนชนิดนี้เข้ามาผสมผสานกับความยืดหยุ่นของถุงยางอนามัย เพื่อให้ยังสามารถคงความทนทานของกราฟีนในถุงยางอนามัยได้เช่นดิม
จากการทดสอบผลิตตัวต้นแบบขึ้นมาพบว่า ถุงยางอนามัยที่มีส่วนผสมของกราฟีน มีความทนทานเหนือกว่าถุงยางอนามัยทั่วไปถึง 60% หรือสามารถทำให้ถุงยางอนามัยบางลงอีก 20% โดยยังสามารถคงความทนทานไว้ในระดับเดิมได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อีกมาก
นอกจากนี้เมื่อใช้กราฟีนเข้ามาเป็นส่วนผสมจะช่วยลดอัตราการใช้งานยาง เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้มีอาการแพ้ยางที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงการป้องกันและคุมกำเนิดได้ง่ายขึ้น ด้วยปัจจุบันถุงยางอนามันจากวัสดุทดแทนอย่างโพลียูรีเทนมีความทนทานไม่เพียงพอ ส่วนถุงยางจากวัสดุธรรมชาติก็ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดได้
เทคโนโลยีนี้ไม่ได้จำกัดการใช้งานแค่เพียงถุงยางอนามัย ทางทีมวิจัยยังวางแผนต่อยอดไว้ใช้สำหรับงานในด้านอื่นที่ต้องการความทนทานมากขึ้น เช่น อุปกรณ์การแพทย์อย่างถุงมือยางสำหรับศัลยแพทย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการทำงานแก่การผ่าตัดหรืองานการแพทย์ทุกชนิดในอนาคต
น่าเสียดายที่ในปัจจุบันถุงยางอนามัยจากกราฟีนยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาไม่มีการวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์
แน่นอนการนำกราฟีนมาใช้เป็นวัสดุไม่ใช่ตัวเลือกเดียวในการพัฒนาถุงยางอนามัย ปัจจุบันมีการทดลองนำวัสดุหลายชนิดมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มทั้งความทนทาน ความบาง ผิวสัมผัส หรือแม้แต่การใช้สารเคลือบลงบนผิวถุงยางโดยตรง เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมทางเพศได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย
คงต้องรอชมกันต่อไปว่าในอนาคตจะมีถุงยางอนามัยแบบใดออกมาให้ใช้งานกันอีก
ที่มา
https://www.bbc.com/future/article/20210423-how-grass-and-gel-could-make-condoms-better
https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/condom-market?
https://newspatrolling.com/which-countries-have-highest-condom-use/
https://brandinside.asia/tnr-q3-2022/
https://www.reuters.com/world/europe/condoms-be-free-young-people-france-macron-says-2022-12-08/