Everything Everywhere All At Once หนังอินดี้ท้าชนมาร์เวลสู่ผู้ชนะปี 2023

15 มีนาคม 2566

Everything Everywhere All At Once ถือเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับชัยชนะถล่มทลายจากการประกวด Oscar 2023 ภายใต้ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ตัวหนังแท้จริงได้รับการร้อยเรียงเรื่องราวไว้มากมาย วันนี้เราจะมาดูกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ผ่านเรื่องราวอะไรกว่าจะมาถึงจุดนี้

สิ้นสุดกันไปแล้วกับการประกาศรางวัล Oscar 2023 ด้วยตำแหน่งผู้ชนะอย่างยิ่งใหญ่จากภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All At Once(2022) ด้วยการกวาดรางวัลในเวทีสูงสุดของภาพยนตร์โลกไปทั้งสิ้น 7 รางวัล ตั้งแต่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และทีมตัดต่อยอดเยี่ยม

 

          แน่นอนในสายตาของคอภาพยนตร์รางวัลนี่ถือเป็นเรื่องไม่พลิกโผ ด้วยในช่วงที่ผ่านมาภาพยนตร์ที่เรารู้จักกันในชื่อ ซือเจ๊ทะลุมิติ กวาดโกยรางวัลมาหลายร้อยรายการจากแทบทุกเวที เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่จากทีมสร้าง แต่แน่นอนว่ากว่าจะมาถึงวันนี้เองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

          วันนี้เราจึงมาพูดข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้กันเสียหน่อยว่าพวกเขาผ่านอะไรกันมาบ้าง

 

Everything Everywhere All At Once หนังอินดี้ท้าชนมาร์เวลสู่ผู้ชนะปี 2023

A24 ค่ายหนังอินดี้ที่เสี่ยงท้าชนมาร์เวล

 

          ภาพจำของภาพยนตร์เรื่องนี้ในสายตาแฟนหนังในประเทศไทยที่มีต่อ Everything Everywhere All At Once คือ หนังอินดี้ที่หาญกล้าท้าชนยักษ์ใหญ่ของวงการอย่าง Marvel studio เมื่อภาพยนตร์ที่เข้าฉายปีเดียวกันของค่ายฮีโร่ฟอร์มยักษ์คือ Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022) ซึ่งมีเนื้อหาหลักในการท่องไปตาม มัลติเวิร์ส หรือ โลกคู่ขนานต่างๆ เช่นกัน

 

          จริงอยู่ในขั้นตอนอนุมัติการสร้างพวกเขาย่อมไม่รู้ว่า ทาง Marvel จะหยิบเอาประเด็นนี้มาใส่ในภาพยนตร์เช่นกัน นั่นเองคือความเสี่ยงที่ทางค่ายต้องเผชิญ หากพวกเขาฉายในเวลาไล่เลี่ยใกล้เคียงกัน ผู้ชมย่อมต้องเกิดการนำไปเปรียบเทียบ ซึ่งอาจทำให้ภาพยนตร์ทุนสร้างน้อยอย่างพวกเขาดูด้อยจนถูกกลืนหายไปเหมือนภาพยนตร์มากมายในท้องตลาด

 

          แต่ภายหลังการแข็งใจท้าชนแบบไม่กลัวตายของพวกเขา ด้วยเชื่อมั่นในคุณภาพงานและภาพยนตร์ที่สร้างขึ้น ในที่สุดมันก็ออกผลมาเป็นอย่างดี เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จครั้งมโหฬารในทุกด้าน จากการผลักดันภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย

 

Everything Everywhere All At Once ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวนในเว็บไซต์ Rotten tomato ด้วยการกวาดคะแนนความชื่นชอบจากนักวิจารณ์ไปกว่า 95% เช่นเดียวกับคะแนนบนเว็บไซต์ IMDB ที่ได้ไป 8 เต็ม 10 คะแนน ในขณะที่ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ได้รับความชื่นชอบจากนักวิจารณ์ไปเพียง 74% และคะแนนเพียง 6.9 เท่านั้น

 

          ด้านรายได้ก็ถือเป็นการประสบความสำเร็จครั้งใหญ่เช่นกัน จริงอยู่หากเทียบตัวเลขโดยตรง ตัวเลข 955 ล้านดอลลาร์นับว่าทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น แต่ถ้านับในแง่ทุนสร้างแล้ว คาดว่า Doctor Strange น่าจะใช้ทุนสร้างไม่ต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์

 

          เปรียบเทียบกับ Everything Everywhere All At Once ที่ทำรายได้ไปราว 106 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง 25 ล้านดอลลาร์แล้ว ถือว่าเป็นอัตราส่วนการทำกำไรที่น่าพอใจ และทำให้เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ให้กับทาง A24 สูงสุดนับแต่ก่อตั้งบริษัทมาเลยทีเดียว

 

Everything Everywhere All At Once หนังอินดี้ท้าชนมาร์เวลสู่ผู้ชนะปี 2023

 

 

          ศักยภาพในการกวาดรางวัลสุดอลังการ

 

          สำหรับคอหนังสายรางวัลชื่อ A24 ไม่ถือเป็นน้องใหม่แต่เป็นผู้ท้าชิงที่มีศักยภาพเต็มตัว ตั้งแต่เมื่อครั้งการได้รับรางวัล Oscar 2016 ของ Moonlight(2016) และผลักดันดารามากฝีมือเข้าสู่เวทีนี้อีกมากมาย มาในงาน Oscar 2023 จึงเป็นการจุดปะทุครั้งใหญ่ จากการส่งประกวดและกวาดรางวัลครั้งมโหฬาร

 

          Everything Everywhere All At Once กวาดโกยรางวัลจากการประกวดทั่วโลกมาแล้วมากกว่า 349 รางวัล ถือเป็นภาพยนตร์ที่สามารถกวาดรางวัลได้มากที่สุดตลอดกาลนับแต่มีการเก็บสถิติมา เช่นเดียวกับการได้รับเสนอชื่อเข้าชิง Oscar กว่า 11 สาขา ก่อนประสบความสำเร็จชนะเลิศไปได้ถึง 7 สาขาในที่สุด

 

          อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้แม้มีการนำเสนองานศิลป์สุดอลังการ, แอคชั่นสุดมันส์, บทภาพยนตร์อันกินใจ, การตัดต่อแหวกแนว รวมถึงสอดแทรกประเด็นทางสังคมได้ลงตัว อีกหนึ่งสถิติที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำสำเร็จคือ การเป็นภาพยนตร์ไซไฟเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีอีกด้วย

 

          นอกจากเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของภาพยนตร์ Everything Everywhere All At Once แล้ว สำหรับค่าย A24 ถือเป็นตัวเอกใน Oscar ครั้งนี้อย่างแท้จริง เพราะภาพยนตร์จากทางค่ายได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมากถึง 18 สาขา อีกทั้งรางวัลหลักอีกหนึ่งสาขาที่เหลืออย่าง ดารานำชายยอดเยี่ยม เอง ก็เป็น Brendan Fraser จาก The Whale(2022) คว้าไปครอง

 

          นี่จึงถือเป็นค่ายภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและกวาดรางวัลไปมากที่สุดอีกด้วย

 

Everything Everywhere All At Once หนังอินดี้ท้าชนมาร์เวลสู่ผู้ชนะปี 2023

 

 

          Michelle Yeoh ตัวเอกที่แท้จริงของภาพยนตร์

 

          สำหรับคอภาพยนตร์แอคชั่นทั้งหลายชื่อ มิเชล โหยว ย่อมเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตา เพราะเธอเคยผ่านงานแสดงมากมาย ตั้งแต่ภาพยนตร์ฮ่องกงยุคเก่าจากการร่วมแสดงกับ เฉินหลง  ก่อนมาแจ้งเกิดในฮอลลีวู้ดด้วย Tomorrow Never Dies(1997) ในแฟรนไชส์สายลับชื่อดัง James bond จากนั้นก็รับงานแสดงต่อเนื่องเรื่อยมา

 

          ที่ผ่านมาเธอแสดงบทบาทมานับไม่ถ้วน ตั้งแต่แฟรนไชส์ใหญ่อย่าง The Witcher, Star Trek, The mummy ให้เสียงอนิเมชั่น Kung fu Panda และ Minion หรือแม้แต่ภาพยนตร์ในจักรวาล Marvel อย่าง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings(2021) แต่เรื่องเดียวที่ทำให้เธอคว้ารางวัลติดมือคือ Crazy Rich Asians(2018) ในงาน National Board of Review เท่านั้น

 

          จนล่าสุดนี้เองที่ Everything Everywhere All At Once กวาดโกยรางวัลอย่างบ้าคลั่ง ช่วยให้เธอเข้าชิงและชนะรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์น้อยใหญ่มากมาย ก่อนสุดท้ายจะช่วยส่งให้ดาราแอคชั่นรุ่นเก๋ารายนี้ไปสู่รางวัลสูงสุดในโลกการแสดงอย่าง รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในงาน Oscar 2023 ในที่สุด

 

Everything Everywhere All At Once หนังอินดี้ท้าชนมาร์เวลสู่ผู้ชนะปี 2023

 

 

          Ke Huy Quan จากเด็กน้อยในวันนั้นที่จากไป สู่การหวนกลับมาอย่างยิ่งใหญ่

 

          หลายท่านอาจไม่คุ้นหน้าคุ้นตากับดาราชายที่ชื่อ คี ฮุย ควน คนนี้เท่าไหร่ ถือเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เนื่องจากเขาไม่ได้รับงานแสดงมายาวนานและหายหน้าหายตาจากวงการไปตั้งแต่ปี 2002 จึงอาจต้องใช้เวลาในการย้อนนึกกันอยู่บ้างว่าที่ผ่านมาเขาเคยรับบทบาทไหนบ้าง

 

          แต่อันที่จริงเราเคยเห็นเขามาตั้งแต่เด็กจากการร่วมแสดงใน Indiana Jones and the Temple of Doom(1984) จากบทบาทเด็กน้อยผู้ช่วยของตัวเอกภายในภาพยนตร์ จากนั้นก็รับงานแสดงได้พักหนึ่ง ก่อนหายหน้าหายตาไปจากวงการ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเขานัก จนกระทั่งความสำเร็จของ Crazy Rich Asians นี่เองที่ทำให้เขากลับมาสนใจงานแสดงอีกครั้ง

 

          แม้จะห่างหายจากงานแสดงไปบ้างแต่เมื่อต้องกลับมารับบทบาทใน Everything Everywhere All At Once เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ ฉากแอคชั่นมากมายภายในเรื่องล้วนเป็นการแสดงจากตัวเขาเกือบทั้งหมด เพราะอยากแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของตัวละครในแต่ละโลกให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่ทำได้

 

          และจากความยอดเยี่ยมในการถ่ายทอดบทบาทนี้เอง เขาจึงได้รับ รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ไปในที่สุด

 

Everything Everywhere All At Once หนังอินดี้ท้าชนมาร์เวลสู่ผู้ชนะปี 2023

 

 

          เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ผู้กำกับและทีมงาน

 

          ปฏิเสธไม่ได้ว่าการผลักดัน Everything Everywhere All At Once ให้มาถึงจุดนี้ ทีมงานเบื้องหลังเองก็ถือเป็นหัวใจสำคัญ และสาขาที่พวกเขาได้รับรางวัลด้วยคือ การกำกับยอดเยี่ยม และ บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม ซึ่งส่วนนี้ต้องชื่นชมชายสองคนผู้รับบทบาททั้งผู้กำกับและคนเขียนบทพร้อมกันอย่าง Daniel Kwan และ Daniel Scheinert

 

          แน่นอนพวกเขาเองก็ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการและผ่านงานมามาก เริ่มจากการเป็นผู้กำกับมิวสิกวีดีโอและขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้รับโอกาสในการทำหนังตลก-ดราม่าจากค่าย A24 อย่าง Swiss Army Man ที่อาจไม่ได้ประสบความสำเร็จด้านรายได้นัก แต่คำวิจารณ์ในแง่บวกและการเข้าเสนอชื่อรางวัลก็ทำให้พวกเขามีโอกาสทำหนังอย่างที่ตั้งใจในที่สุด

 

          สำหรับ Everything Everywhere All At Once เดิมทีพวกเขาวางบทนี้ให้แก่ดาราแอคชั่นรุ่นเก๋าอย่าง เฉินหลง และเคยบินไปเมืองจีนเพื่อนำเสนอไอเดียนี้มาก่อน แต่หลังได้รับคำปฏิเสธพวกเขาเลยปรับเปลี่ยนบทให้ตัวละครภรรยาเป็นตัวเอก นำไปสู่การทาบทาม มิเชล โหยว เป็นตัวหลักเพียงหนึ่งเดียว ชนิดที่ว่าถ้าเธอไม่รับเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้น

 

          ตัวบทในการท่องมัลติเวิร์สแฝงประเด็นทางสังคมผ่านการนำเสนอหลากหลายรูปแบบ แฝงทั้งความบ้าคลั่ง, ตลกขบขัน, ตื่นเต้นเร้าใจ, ไปจนคารวะภาพยนตร์รุ่นเก่า แต่ก็มีประเด็นทางสังคมมากมายในภาพยนตร์ ทั้งความเป็นคนเอเชียและความเป็นผู้หญิง จึงไม่แปลกเลยที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะโดนใจคนเกือบทุกกลุ่ม ได้รับการยกย่องให้เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอ มัลติเวิร์ส หรือ โลกคู่ขนาน ออกมาได้ยอดเยี่ยมเด่นชัด นำไปสู่รางวัลอันท่วมท้นในที่สุด

 

Everything Everywhere All At Once หนังอินดี้ท้าชนมาร์เวลสู่ผู้ชนะปี 2023

 

 

          อีกหนึ่งสิ่งที่สมควรได้รับการพูดถึงคือ ตัดต่อยอดเยี่ยม แต่ทราบหรือไม่ว่าทีมตัดต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งสิ้น 9 คน แตกต่างจากภาพยนตร์ไซไฟสุดอลังการเรื่องอื่นที่ใช้การตัดต่อกันหลักร้อย อีกทั้งเมื่อนับรวมงานตัดต่อส่วนใหญ่ในเรื่อง ผู้ที่รับหน้าที่ตัดต่อหลักมีเพียง 5 คน ที่ต้องรับหน้าที่ทำสเปเชียลเอฟเฟคกว่า 80% ของเรื่อง และต้องทำในห้องนอนของตัวเอง

 

          แน่นอนนี่เป็นงานที่หนักมากแต่มีเหตุผลหลายด้านคือ นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ทุนสูงที่จะสามารถจ้างทีมตัดต่อจำนวนมาก ทีมงานจึงถูกจัดจ้างภายในวงจำกัด อีกทั้งภายในทีมตัดต่อเองก็ไม่ได้ชำนาญการใช้งาน CG มากนัก ชนิดที่ระหว่างการทำพวกเขายังต้องเรียนวิธีการจากคลิปใน Youtube และข้อจำกัดจากการระบาดของโควิด ทำให้สถานการณ์ยิ่งน่าอึดอัด จนต้องระวังทั้งงบประมาณและระยะเวลาการทำงานขึ้นไปอีก

 

          แต่ข้อดีของการทำงานของพวกเขาคือ ทีมตัดต่อเข้าใจรูปแบบการทำงานและสไตล์ของภาพยนตร์ค่อนข้างละเอียด จึงสามารถตัดต่อภาพยนตร์ออกมาได้ตรงตามความต้องการ นอกจากนี้ทางผู้กำกับยังให้อิสระทีมตัดต่อมาก และถ่ายทุกฉากด้วยระดับเฟรมเรทสูง ทำให้ทีมตัดต่อมีโอกาสในการปรับเปลี่ยน ดัดแปลง และใส่ลูกเล่นให้แก่ภาพยนตร์ได้ดังใจ

 

          และความทุ่มเทของพวกเขานี้เองที่นำไปสู่การคว้ารางวัลเกรียติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮอลลีวู้ด

 

 

          แน่นอนชัยชนะในงานประกวด Oscar ที่ผ่านมาล้วนเป็นสัญญาณต่อสังคมจากแวดวงภาพยนตร์ ตั้งแต่ชัยชนะของ Moolight ที่ทำให้คนผิวสีมีโอกาสและบทบาทในภาพยนตร์มากขึ้น, การได้รับรางวัลของ Parasite(2019) นำไปสู่การครองตลาดของภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลี ดังนั้นการมอบรางวัลในปีนี้ อาจช่วยเพิ่มบทบาทของชาวเอเชียในวงการภาพยนตร์ให้มากขึ้นก็เป็นได้

 

 

 

 

          ที่มา

 

          https://www.rottentomatoes.com/m/everything_everywhere_all_at_once

 

          https://www.rottentomatoes.com/m/doctor_strange_in_the_multiverse_of_madness

 

          https://www.imdb.com/title/tt9419884/

 

          https://www.imdb.com/title/tt6710474/

 

          https://web.facebook.com/wmwatchman/posts/pfbid02x5cuz2S9CcJnCi1YSbXfm3sz6iqeoVM7ZjuCnQvUFLjWPFYUiyYTcqbUVJFjDdFkl

 

          https://www.biography.com/actors/a43236892/how-crazy-rich-asians-inspired-ken-huy-quan-return-to-acting

 

          https://www.indiewire.com/2022/04/everything-everywhere-all-at-once-visual-effects-1234716610/?fbclid=IwAR3yr3--_cTAqQ7ep6bBnY3H7o8VIVxqZFDQIjKfXgQAPENqbwE-cYMnbXk

 

 

Thailand Web Stat