Soccer P. Academy สานฝันสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ
อ.สุพจน์ตั้งใจมุ่งมั่นที่จะให้"แข้งจิ๋ว"ลูกศิษย์ตัวน้อยได้มี"ทักษะ"การเล่นฟุตบอลชั้นเลิศ
Soccer P. Academy
ต้นธาร สานฝัน...สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ !
เสียงตะโกนสอนลูกศิษย์ตัวน้อย ดังกึกก้องกลางสนามฟุตบอลพระยาสุเรนทร์ฟุตบอลคลับ ของอาจารย์สุพจน์ เขียวเจริญ อดีตผู้ฝึกสอนฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยรุ่นอายุ 12 -14 ปี ผู้อำนวยการ Soccer P. Academy เป็นเสียงที่คุ้นหู เป็นภาพที่ชินตา ของผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาฝึกทักษะฟุตบอลที่อคาเดมีแห่งนี้
เสียงตะโกนของ อ.สุพจน์ สื่อถึงความตั้งใจ และมุ่งมั่นที่จะให้ "แข้งจิ๋ว" ลูกศิษย์ตัวน้อยของอาจารย์ได้มี"ทักษะ"การเล่นฟุตบอลชั้นเลิศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ผู้ปกครองที่ไปเฝ้าดูบุตรหลาน รับรู้และสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ และความมุ่งมั่นดังกล่าวของอาจารย์
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฟุตบอล "ทีมชาติไทย" และ ฟุตบอลไทยลีก ส่งผลให้กระแส ความอยากเป็นนักฟุตบอล มีอยู่ทุกอณูขุมขนของทั้งบรรดาผู้ปกครอง และตัวเด็กๆเอง "อคาเดมีฟุตบอล" จึงเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดแทบทุกมุมเมือง ส่วนใหญ่ และหลายแห่ง มุ่งเน้นไปทาง"ธุรกิจ" มากกว่าที่จะมุ่งมั่นสานฝันทางเชิงลูกหนังให้กับเด็กๆ อย่างแท้จริง ผู้ปกครองหลายราย จึงตกเป็นเหยื่อของอคาเดมีไปโดยไม่รู้ตัว!.
อ.สุพจน์ เขียวเจริญ บอกถึงความตั้งใจ ที่มาเปิดอคาเดมีฟุตบอลเป็นของตัวเองในนาม Soccer p. Academy ว่า อยากให้เด็กๆได้เรียนรู้ทักษะการเล่นฟุตบอลอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะเด็กที่ไม่มีพรสวรรค์ ที่สามารถฝึกให้เป็นเลิศทางด้านนี้ได้ อีกทั้งเพื่อให้เด็กๆได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และห่างไกลจากยาเสพติด
ส่วนเป้าหมายของเรา ต้องการเสริมสร้าง พัฒนานักฟุตบอลให้เป็นกำลังหลักของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และทีมชาติในอนาคต เพราะถ้าอคาเดมีฟุตบอลมีจำนวนมาก ตัวเลือกนักฟุตบอลก็จะมีมากขึ้นตาม เด็กๆที่เริ่มเรียนรู้ตั้งแต่เล็กๆ จะทำให้ทักษะการเล่นฟุตบอลแน่น ฟุตบอลก็จะสนุกขึ้น
"ผมฝากถึงผู้ปกครองที่จะมาเรียนกับเรา ที่Soccer P. Academy นอกเหนือจากที่เราเน้นการสอนทักษะ และเบสิกฟุตบอล เพื่อให้เด็กได้ต่อยอดไปสู่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงในเชิงฟุตบอลแล้ว เรายังเน้นการพัฒนามากกว่าการแข่งขัน ที่นี่ จะมีการสร้างเด็กให้มีระเบียบวินัย ทั้งในและนอกสนาม เน้นให้เด็กได้อยู่ร่วมกัน ที่นี่ เราเป็นอคาเดมี่ เป็นครอบครัว ผู้ปกครองรวมตัวกันทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเรามีสนามที่เป็นธรรมชาติ มีอากาศที่บริสุทธิ์ ไม่ได้สอนฟุตบอลเพียงอย่างเดียว" อดีตผู้ฝึกสอนฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยกล่าว
เจษฎา สีหะเนิน พ่อด.ช.ทีฆโชติ สีหะเนิน หรือน้องซันเดย์ วัย 9 ขวบบอกว่า ตั้งแต่มาเรียนที่ Soccer P. น้องซันเดย์ มีความเข้าใจในเกมมากขึ้น มีการพัฒนาไปในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัด สามารถร่วมเล่นกับเพื่อนๆเป็นระบบทีมได้ดีมากขึ้น มีความเข้าใจในกติกา และรู้จักว่า ฟุตบอลจริงๆคืออะไร ก่อนหน้านี้ น้องซันเดย์ค่อนข้างเป็นเด็กเจ้าเนื้อ แต่ปัจจุบันแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่เล่นฟุตบอลมา 1 ปีเต็ม เข้าโรงพยาบาลเพียงแค่ครั้งเดียว จากที่เมื่อก่อน ที่ต้องเข้าเป็นประจำ รวมทั้งน้องยังมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น สามารถเข้ากับเพื่อนทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันได้ดีขึ้น
"อคาเดมีฟุตบอลเดี๋ยวนี้ มีจำนวนมาก แต่สิ่งที่ทำให้ลูกผมเข้าใจจริงๆ คือการรู้จักแพ้ รู้จักชนะ อาจารย์เน้นให้เด็กเล่นอย่างไรให้เป็น ไม่ใช่มุ่งเน้นเอาชนะเป็นหลัก เราเห็นการพัฒนาของลูกเราจริงๆ ที่นี่ ไม่ใช่เป็นเหมือนโรงเรียนที่มาแล้วกลับ แต่เป็นเหมือนสังคม เป็นครอบครัว พ่อแม่ มีกิจกรรมร่วมกับลูกๆและครอบครัวอื่นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผู้ปกครอง ยังสามารถเสนอข้อคิดเห็นให้อาจารย์ได้ด้วย"
เช่นเดียวกับแม่น้องกฤต ธนิดา ศรีภูมิเดชา มารดาด.ช.ธนกฤต ศรีภูมิเดชา วัย 11 ปี บอกว่า รู้สึกดีและชอบอคาเดมีแห่งนี้ ทั้งสภาพสนาม ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ ที่สำคัญ ชื่นชมการสอนของอาจารย์ ที่ทำให้พัฒนาการของลูกดีขึ้นเรื่อยๆ มีความรับผิดชอบเยอะขึ้น เช่น เมื่อถึงเวลาจะไปซ้อม ลูกจะเตรียมตัวเอง โดยที่ไม่ต้องบอก ในทางกลับกัน ยังมาเร่งพ่อแม่ให้รีบไปสนามอีก
เพชรน้ำค้าง พิมเสดาะ แม่น้องนัท-น้องบอส ด.ช.นภัส และด.ช.ศุกล บุญเลิศทวีสุข วัย 12 และ 7 ขวบ ซึ่งพาลูกทั้ง 2 คนมาเรียน บอกเพียงสั้นๆว่า สนามกว้าง หญ้านุ่ม บรรยากาศดี ที่สำคัญ ผู้ฝึกสอนดี ทำให้เด็กมีพัฒนาการการเล่นฟุตบอลที่ดีขึ้น ลูกทั้ง 2 คนมีสุขภาพดี ส่วนหนึ่งเชื่อว่า เป็นเพราะสภาพสนาม
ช่อทิพย์ บัวทิพย์ แม่น้องไปร์ท ด.ช.กิตติ์ธนัตถ์ บัวทิพย์ วัย 9 ขวบ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ น้องไปร์ทเป็นภูมิแพ้ ต้องเข้าโรงพยาบาลทุกเดือน และตั้งแต่มาเรียนฟุตบอลที่ Soccer P.ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลอีกเลย ส่วนการเล่นฟุตบอล จากที่เมื่อก่อนแล้วแต่จะเตะ แต่ทุกวันนี้ ทักษะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สุพร แซ่ตั้ง แม่ของ ด.ช.วิริทธิ์พล นาฏกระสูตร "น้องต้นน้ำ" เล่าว่า ต้นน้ำเริ่มเรียนฟุตบอลจริงจังตอน 8 ขวบ และเข้ามาอยู่ใน Soccer.P Academy กับ อ.สุพจน์ เขียวเจริญ นอกจากความรู้และเทคนิคในเกมฟุตบอล อ.สุพจน์ย้ำเสมอถึงแนวคิดเรื่องการเล่นฟุตบอลในแง่มุมต่างๆ ความตั้งใจ การกล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องการพลิกความรู้เบสิคธรรมดาสู่การตอบโต้เกม"เหนือความคาดหมาย" และการสอนให้เป็นนักกีฬาที่ดี เน้นมิตรภาพเหนือ"ชัยชนะ"
จรัญ แก้วดีเลิศ พ่อน้องภู ด.ช.ภูมิธร แก้วดีเลิศ บอกว่า เมื่อพาลูกมาเรียนที่นี่ รู้สึกได้ถึงความรักในฟุตบอลของคนทำบอล และความเป็นมิตรของผู้ปกครอง รวมทั้งเห็นพัฒนาการการเล่นฟุตบอลของลูกได้ชัดเจนและดีขึ้น อันเนื่องมาจากการสอนที่ดี แต่อยากให้ปรับปรุง ระบบการจัดการ และกฏระเบียบให้เข้มขึ้น
ขณะที่วิชัย คุณธรรมศิริ พ่อน้องปุญญ์ ด.ช.พงศ์วิชญ์ คุณธรรมศิริ บอกว่า ผลที่เห็นจากการเรียนฟุตบอลที่ Soccer P. คือ เด็กได้เรียน ได้ปฏิบัติทันที ต่างจากที่โรงเรียน กว่าจะได้ทดสอบ ต้องรอ เด็กที่เรียนที่นี่ ทำให้ได้รู้จักทีมเวิร์ค ร่วมกันทำงานเป็นทีม ซึ่งจะเป็นผลดีในอนาคตแน่นอน ส่วนผลพลอยได้ ทำให้เด็กๆมีเพื่อนนอกเหนือจากที่โรงเรียน ห่างไกลจากการเล่นเกม ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งจะส่งผลให้ร่างการแข็งแรง
ภานุมาศ ทิพย์สุข พ่อน้องโอมส์ ด.ช.ภัทรพล ทิพย์สุข วัย 8 ขวบ บอกว่า มาเรียนที่ Socer P. รู้สึกอบอุ่น เห็นพัฒนาการของลูก จากที่เคยเตะฟุตบอลไม่เป็น ปัจจุบันผ่านมา 1 ปี มีทักษะดีขึ้น สนามก็ดีมาก ลูกได้เล่นกับหญ้าจริง ซึ่งจะเซฟสุขภาพเท้าของเด็กๆไปในตัว ส่วนอาจารย์ผู้ฝึกสอน เห็นแล้ว อดที่จะชื่นชมไม่ได้ อาจารย์ทุ่มเทมาก ในขณะที่น้องโอห์มบอกว่า อาจารย์ไม่ดุเลย
สุเทพ คำแก้ว พ่อน้องเก้น ด.ช.ภคินธร คำแก้ว อายุ 10 ขวบ บอกสั้นๆว่า รู้สึกดีที่มาเรียนอคาเดมีแห่งนี้ เห็นการพัฒนาของลูกในทิศทางที่ดีขึ้นมาก สามารถพูดได้เต็มปากว่า ลูกเราเรียนฟุตบอลที่ Soccer P. ในขณะที่การฝึกสอนของอาจารย์ เห็นว่า เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งต้องค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากยังเป็นอคาเดมีที่เปิดใหม่
สรรเสริญ คำทอง พ่อน้องนาย ด.ช.พงศกรณ์ คำทอง วัยเพียง 7 ขวบ บอกว่า ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกให้น้องนายมาเรียนฟุตบอลที่ Soccer P . แห่งนี้ สิ่งแรกคือ ประทับใจสนามหญ้าจริง ที่มีขนาดกว้างใหญ่ อากาศถ่ายเทได้ดี เด็กจึงมีพื้นที่การเล่นฟุตบอลได้อย่างเต็มที่ ไม่แออัดเหมือนสนามหญ้าเทียมในร่มบางแห่ง ในขณะที่จำนวนเด็กที่มาเรียนกับอาจารย์ผู้ฝึกสอน มีสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างทั่วถึง และมีคุณภาพ เช่นเดียวกับความสามารถของอาจารย์ผู้ฝึกสอน ภายใต้การนำของอาจารย์สุพจน์ เขียวเจริญ ที่ถือเป็นผู้มีประสบการณ์ในการสอนทีมฟุตบอลระดับเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเคยควบคุมทีมฟุตบอลระดับเยาวชนไปแข่งขันในระดับนานาชาติ จึงมีความเชื่อมั่นว่า จะทำการฝึกสอนเด็กๆใน Soccer P . ให้มีความสามารถในการเล่นฟุตบอลได้เป็นอย่างดี
พ่อน้องนายบอกอีกว่า นอกเหนือจากการเรียนการสอนดังกล่าวแล้ว ยังมีการนำเด็กๆที่เรียนในSoccer P. เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลตามรายการต่างๆที่จัดขึ้น รวมถึงมีการเชิญทีมจากภายนอกมาร่วมแข่งขัน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆ นำสิ่งที่เรียนรู้จากการฝึกซ้อมมาใช้ในการแข่งขันจริง เป็นการสร้างประสบการณ์ให้เด็กๆมีทักษะเพิ่มมากขึ้น
"ผมประทับใจเรื่องความเป็นกันเอง ความพร้อมเพรียงของผู้ปกครองในการให้การช่วยเหลือ สนับสนุน และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ โดยตลอกระยะเวลา 4 เดือนที่ให้น้องนายมาเรียนฟุตบอลที่ Soccer P . ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ในเรื่องความสามารถและทักษาะฟุตบอล ได้เห็นถึงพัฒนาการด้านอารมณ์ ความกล้าในการแสดงออก และเห็นถึงภาวะการเป็นผู้นำของน้องนาย ที่เกิดจากการฝึกสอนของอาจารย์ การแนะนำของผู้ปกครอง และปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของเด็กๆระหว่างอยู่ในสนาม จึงทำให้เห็นว่า Soccer P. แห่งนี้ มิได้เป็นเพียงแค่สถาบันการฝึกสอนฟุตบอลเท่านั้น แต่ที่นี่ คือสังคมเล็กๆอีกสังคมหนึ่ง ที่มีบุคคลหลากอายุ หลายอาชีพ มาอยู่รวมกัน แลชื่นชอบหลงไหลในสิ่งเดียวกัน นั่นคือกีฬาฟุตบอล" พ่อน้องนายกล่าวย้ำ
ชัยธัช เทพอิน พ่อน้องเบกัส ด.ช.สุษิระ เทพอิน วัน 8 ขวบ บอกถึงสิ่งสำคัญที่สุดคือ สภาพสนามฝึกซ้อมของ Soccer P. ที่เป็นหญ้าจริง จะช่วยเซฟข้อเท้า ข้อเข่า ให้สุขภาพเท้าของเด็กๆ ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการเป็นนักฟุตบอล
แม้ว่า อคาเดมีสอนฟุตบอล จะผุดขึ้นทั่วทุกมุมเมือง แต่การเลือกอคาเดมีให้บุตรหลานได้ฝึกทักษะ ได้เล่นฟุตบอลอย่างเป็นระบบนั้น เปรียบเสมือน พ่อแม่ผู้ปกครอง ได้เลือก"โรงเรียน" ที่ดีที่สุดให้บุตรหลาน เพื่อต่อยอดไปสู่โรงเรียนมัธยม และมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง การเลือกอคาเดมีให้บุตรหลานได้เรียนฟุตบอลก็เช่นกัน หากเลือกอคาเดมีที่ดี เลือกผู้ฝึกสอน ที่มีประสบการณ์ จึงถือเป็นการต่อยอดให้บุตรหลาน ได้ก้าวเดินไปสู่อนาคตในนาม"นักเตะอาชีพ" หรือนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ถือเป็นเกียรติยศของวงศ์ตระกูล
Soccer P. Academy โดยอาจารย์ สุพจน์ เขียวเจริญ อดีตผู้ฝึกสอนฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุ 12-14 ปี เปิดรับสมัครเด็กๆที่สนใจการเรียนฟุตบอลอย่างถูกวิธี ตลอดจนทักษะฟุตบอลชั้นสูง โดยเปิดรับสมัครเด็กๆตั้งแต่อายุ 5-15 ปี เรียนตั้งแต่ วันอังคาร - วันศุกร์ เวลา 17.30 - 20.00 น. และ วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 16.00- 18.30 น. ที่สนามพระยาสุเรนทร์ฟุตบอลคลับ ใกล้วัดพระยาสุเรนทร์ โทรศัพท์ 08-0922-5058