“สธ.”เปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจแนะวิธีเล่นกับลูกลดปัญหาสมาธิสั้น-โรคซึมเศร้า
กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับสติปัญญาเด็กไทย ดึงพ่อแม่ร่วมพลังปั้นอนาคตของชาติ เปิดเคล็ดลับพ่อแม่เล่นกับลูกลดปัญหา“เด็กสมาธิสั้น-ซึมเศร้ารุนแรง”ในอนาคต
กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับสติปัญญาเด็กไทย ดึงพ่อแม่ร่วมพลังปั้นอนาคตของชาติ เปิดเคล็ดลับพ่อแม่เล่นกับลูกลดปัญหา“เด็กสมาธิสั้น-ซึมเศร้ารุนแรง”ในอนาคต
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล ร่วมเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ที่สถาบันราชานุกูล พร้อมชมการแสดงความสามารถของเด็กกลุ่มที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครอง และเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญากว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรม การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เพี่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ความสำคัญในเลี้ยงดูบุตรหลานด้วยตนเอง
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ การพัฒนาประชากรไทยทุกช่วงวัย เพื่อเป็นพลังต่อการเจริญเติบโตของประเทศ
ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินการด้านพัฒนาเด็กปฐมวัยที่เป็นช่วงแรกของชีวิตเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการมีนโยบายอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดให้การดำเนินการในด้านนี้ เป็นความรับผิดชอบในระดับเขตสุขภาพและจังหวัด ผ่านคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็ก (MCh Board) โดยไม่ได้กำหนดกิจกรรม แต่กำหนดเป็นเป้าหมายไว้ 2 ประการ คือ การลดอัตราการตายของมารดา ซึ่งเป็นไปตาม MDG (millennium development goal) และเด็กมีพัฒนาการสมวัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 85.8 และในปี 2563 นี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังคงดำเนินการต่อเนื่องในการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการเด็ก โดยการจัดระบบบริการอนามัยแม่และเด็กที่ได้มาตรฐานสากล และสร้างการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมคลอบคลุม ทั้งเด็กปกติ เด็กปวย และเด็กด้อยโอกาส
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ กล่าวต่อว่า เมื่อเด็กมีความพร้อมทางพัฒนาการและสติปัญญา กับการได้รับการศึกษาที่ดี ก็จะมีโอกาสได้งานที่มีรายได้สูง มีโอกาสก้าวข้ามความยากจนได้สำเร็จ ซึ่งจะนำประเทศไทย บรรลุเป้าหมายสำคัญของแผนพัฒนาแห่งสหัสวรรษขององค์การสหประชาชาติด้วย
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมสุขภาพจิต เร่งยกระดับสติปัญญาเด็กไทย ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวกแก่ศูนย์เด็กเล็ก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.และครูโรงเรียนอนุบาล เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย แก่พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุน และผลักดันการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ครบ คลุมทั้ง 77 จังหวัด
นายแพทย์เกียรตภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวด้วยว่า กรมสุขภาพจิตได้มีการสำรวจระดับความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) และระดับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ของเด็กไทยทุก 5 ปี โดยระดับสติปัญญาของเด็กไทยเพิ่มขึ้นจาก 95.82 จุดในปี 2554 เป็น 98.23 จุด ในปี 2559
“สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งเป้าหมายพัฒนาระดับ IQ เด็กไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ในปี 2564”
ขณะที่ระดับความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กไทย (EQ) ที่เป็นจุดต้องพัฒนา ได้แก่ ความมุ่งมั่นพยายาม การควบคุมอารมณ์ และการปรับตัวต่อปัญหา โดยในปี 2559 มีเด็กรอยละ 16.7 มีระดับอีคิวที่ต่ำกว่าปกติ
นอกจากนี้ นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า กรมสุขภาพจิตมีเจตนารมณ์ในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นคนไทย 4.0 เพื่อเป็นพลังพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นคนมีลักษณะสติปัญญาดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดแง่บวก และคิดทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม (Creation, Positive, Response to Society : CPR) คือ คิดเป็น คิดดี คิดให้ และเป็นสุข มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กไทยให้มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง
ขณเดียวกัน พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง แม้จะพบกับความล้มเหลว ก็ยังสามารถเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ อย่างมีความสุข สนุกกับชีวิต มีแนวทาง ใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหา สร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และแบ่งปันให้ผู้อื่นในสังคม
ด้าน แพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่าสถาบันราชานุกูล ได้พัฒนาคู่มือจัดกิจกรรมการพัฒนาเด็กไทยคิดเป็น คิดดี คิดให้ ด้วยสายใยพันผูก ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้พัฒนาการการเรียนรู้ของลูกผ่านการเล่นกับลูก โดยไม่จำเป็นต้องจัดหาของเล่น หรืออุปกรณ์การเล่นที่ราคาแพงหายาก
ดังนั้น ในวันนี้ เป็นการเปิดเฟชบุ๊คแฟนเพจ ในชื่อ “ลูกเล่น by ราชานุกูล” (Facebook : ลูกเล่น by ราชานุกูล) เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารแบบออนไลน์ของประชาชนกับทีมสหวิชาชีพผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก โดยนำเสนอแนวทางการเล่น และการเลี้ยงดูลูกให้เป็นเด็กไทย“คิดเป็น คิดดี คิดให้” (CPR) ในรูปแบบคลิปวิดีโอที่สนุกสนาน ได้ความรู้ พร้อมเคล็ดลับจากกูรูพ่อแม่ที่น่าสนใจ มาแลกเปลี่ยนกัน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rajanukul.go.th Facebook : ลูกเล่น by ราชานุกูล