posttoday

ประกาศ! จากกรมสรรพากร ยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับนิติบุคคล ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น

19 มีนาคม 2568

กรมสรรพากร แจ้ง การยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบออนไลน์ ขั้นตอนการใช้งาน ช่องทางที่รองรับ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ได้อย่างถูกต้อง

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ทางกรมสรรพากรกำหนดให้นิติบุคคลทุกแห่งต้องยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาดในการดำเนินการ และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นภาษีได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายดิจิทัลของภาครัฐ ที่มุ่งส่งเสริมการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ลดการใช้เอกสาร และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี ทั้งนี้ผู้ประกอบการสามารถยื่นแบบภาษีผ่านระบบ e-Filing หรือระบบ e-Withholding Tax หรือระบบ SVS/SWC ของกรมสรรพากร ได้ง่ายๆ จากทุกที่ทุกเวลา

บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบออนไลน์ ขั้นตอนการใช้งาน ช่องทางที่รองรับ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ได้อย่างถูกต้อง และไม่เกิดปัญหาในการดำเนินงาน ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้

แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่นิติบุคคลต้องทำ

แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับนิติบุคคล ประกอบด้วยแบบฟอร์มหลักที่ใช้ยื่นต่อกรมสรรพากร อธิบายได้ดังต่อไปนี้

1.แบบ ภ.ง.ด.1 คือ รูปแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่นายจ้างต้องยื่นต่อกรมสรรพากร เพื่อนำส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่หักจากเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส หรือผลประโยชน์อื่นๆ ของลูกจ้าง นายจ้างมีหน้าที่หักภาษีจากเงินได้ของพนักงานและนำส่งให้กรมสรรพากรทุกเดือน โดยต้องยื่นภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

2.แบบ ภ.ง.ด.1ก คือ รูปแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่นายจ้างต้องยื่นต่อกรมสรรพากรเป็นรายปี เพื่อสรุปรายการเงินได้และภาษีที่หักจากเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส และผลประโยชน์อื่นๆ ของลูกจ้างตลอดทั้งปี ซึ่งแบบ ภ.ง.ด.1ก นี้ ใช้สำหรับแจ้งข้อมูลให้กรมสรรพากรทราบว่าในปีภาษีนั้น นายจ้างได้จ่ายเงินได้ให้แก่ลูกจ้างจำนวนเท่าใด และได้หักภาษีไปแล้วเท่าใด ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลประกอบการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 ของลูกจ้างเอง โดยต้องยื่นภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป

3.แบบ ภ.ง.ด.1ก พิเศษ คือ รูปแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 58(1) ที่ใช้เพื่อแสดง รายการเงินได้พึงประเมินมาตรา 40(1)-(2) กรณีมีการตั้งฎีกาเบิกเงิน เฉพาะข้าราชการที่มีเงินได้ตามมาตรา 40(2) ต้องดำเนินการภายในเดือนมกราคมของปีถัดไป ยกเว้นในกรณีที่เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ซึ่งต้องยื่นแบบแสดงรายการภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป

4.แบบ ภ.ง.ด.2 คือ รูปแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่ใช้สำหรับการหักภาษีจากเงินได้ประเภทเงินปันผล ดอกเบี้ย หรือผลประโยชน์จากหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่นที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นหรือบุคคลที่มีสิทธิได้รับ โดยผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งกรมสรรพากรภายในเวลาที่กำหนด

5.แบบ ภ.ง.ด.2ก คือ รูปแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งใช้สำหรับการยื่นภาษีของข้าราชการและพนักงานของรัฐที่ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง หรือเงินได้อื่นๆ ที่เข้าข่ายต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยหน่วยงานที่จ่ายเงินได้จะต้องดำเนินการยื่นแบบและนำส่งภาษีให้กรมสรรพากรภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป

6.แบบ ภ.ง.ด.3 คือ รูปแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับบุคคลธรรมดาที่มีการจ่ายเงินได้ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งกรมสรรพากรภายในกำหนดเวลา โดยใช้สำหรับกรณีที่ผู้รับเงินเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เช่น ค่าจ้างทำของ ค่าเช่า ค่านายหน้า หรือค่าบริการอื่นๆ ที่ต้องหักภาษีตามอัตราที่กฎหมายกำหนด

7.แบบ ภ.ง.ด.3ก คือ รูปแบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่ผู้จ่ายเงินได้ต้องยื่นต่อกรมสรรพากร ใช้สำหรับกรณีที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย จากเงินได้ประเภทต่างๆ และต้องนำส่งภาษีที่หักไว้นั้นให้กับกรมสรรพากร โดยใช้ในกรณีที่มีการจ่ายเงินได้ให้กับผู้มีเงินได้ที่ไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

8.แบบ ภ.ง.ด.53 คือ รูปแบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับนิติบุคคลที่จ่ายเงินได้ให้แก่นิติบุคคลด้วยกัน โดยใช้สำหรับรายได้ประเภทต่างๆ เช่น ค่าจ้าง ค่าบริการ ค่านายหน้า ดอกเบี้ย และเงินปันผล ผู้จ่ายเงินต้องยื่นแบบและนำส่งภาษีที่หักไว้ให้กรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

วิธีการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย ผ่านช่องทางออนไลน์

กรมสรรพากรได้กำหนดให้การยื่นแบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยต้องดำเนินการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย ได้แก่

  1. ระบบยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing) ของกรมสรรพากร ผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยสามารถขยายเวลาการยื่นแบบออกไปอีก 8 วัน
  2. ระบบ e-Withholding Tax เป็นบริการธนาคารเป็นตัวแทนในการบริหารจัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้แก่กรมสรรพากร โดยถือว่าได้ยื่นแบบและไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตาม ม.50 ทวิ
  3. ระบบ SVS/SWC (สื่อฝากไฟล์อิเล็กทรอนิกส์) รองรับการนำส่งข้อมูลจำนวนมาก

กล่าวโดยสรุป  การยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับนิติบุคคล สามารถทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและลดภาระในการเดินทางไปยังสำนักงานสรรพากร โดยผู้ประกอบการต้องใช้ระบบ e-Filing หรือระบบ e-Withholding Tax หรือระบบ SVS/SWC ของกรมสรรพากร ซึ่งระบบเหล่านี้จะช่วยให้การจัดการภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส ลดข้อผิดพลาดในการยื่นเอกสาร และสนับสนุนการดำเนินงานของภาคธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่  Inflow Accounting

Thailand Web Stat