บีแลนด์พร้อมลุยหนักธุรกิจอสังหา
บีแลนด์พร้อมรุกหนักอสังหาฯ ปีหน้าเล็งผุด 2 โครงการใหม่ ตั้งเป้า 5 ปี สัดส่วนขายบ้านเพิ่มเป็น 50%
บีแลนด์พร้อมรุกหนักอสังหาฯ ปีหน้าเล็งผุด 2 โครงการใหม่ ตั้งเป้า 5 ปี สัดส่วนขายบ้านเพิ่มเป็น 50%
นายปีเตอร์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกแลนด์ หรือบีแลนด์ เปิดเผยว่า นับจากนี้บริษัทพร้อมบุกหนักในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น หลังจากที่ทดลองทำตลาดคอนโดมิเนียมดับเบิ้ล เลค เมืองทองธานี เฟส 1 เมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว ทำให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น จึงพร้อมที่จะเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องแล้ว โดยในปีหน้าจะมีโครงการอย่างน้อย 2 แห่ง ย่านเมืองทองธานีและศรีนครินทร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ
สำหรับการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีเป้าหมายที่จะให้ธุรกิจดังกล่าวมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50% ของรายได้ทั้งหมด เพื่อกระจายความเสี่ยงจากปัจจุบันถือว่าเพิ่งเริ่มต้น โดยปีนี้จะเป็นปีแรกที่มียอดรับรู้รายได้จากการโอนโครงการดับเบิ้ล เลค เมืองทองธานี เฟส 1 ประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้เช่าพื้นที่จัดแสดงสินค้า พื้นที่ค้าปลีก โรงแรม และอาคารสำนักงานในปีนี้มีมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท
ด้านแผนพัฒนาโครงการใหม่ในส่วนของที่อยู่อาศัยย่านเมืองทองธานีคาดว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม โดยปัจจุบันกลุ่ม|บีแลนด์ยังมีที่ดินเปล่าพร้อมพัฒนามากถึง 500 ไร่ โดยปีหน้าจะเปิดแผนพัฒนาที่ชัดเจนว่าจะแบ่งส่วนใดบ้างเป็นโซนที่อยู่อาศัยและโซนเชิงพาณิชย์ ทั้งเพิ่มพื้นที่จัดแสดงสินค้าและพื้นที่ค้าปลีก ส่วนย่านศรีนครินทร์คาดว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ซึ่งเดิมกลุ่มบีแลนด์มีที่ดินกว่า 3,000 ไร่ เมื่อไม่นานนี้ได้แบ่งขายให้กับกลุ่มแสนสิริประมาณ 300 ไร่ ซึ่งการที่มีรายใหญ่อย่างกลุ่มแสนสิริเข้ามาร่วมพัฒนาที่ดินย่านนี้ จะยิ่งเพิ่มศักยภาพให้กับที่ดินส่วนที่เหลือของกลุ่มบีแลนด์ด้วย
สำหรับในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ บริษัทได้นำคอนโดมิเนียมดับเบิ้ล เลค เมืองทองธานี อีก 2 เฟสสุดท้ายมาเปิดตัว โดยเป็นอาคารเฟส 2 จำนวน 149 ยูนิต และเฟส 3 จำนวน 149 ยูนิต รวม 298 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 750 ล้านบาท พื้นที่ 20.43-68.54 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.3-1.99 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อทำระบบป้องกันน้ำท่วมตั้งเป้าจะปิดการขายทั้งสองเฟสภายใน 1 ปี
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนียมทำเลเมืองทองธานีมีกลุ่มผู้จัดแสดงสินค้าที่จัดประจำซื้อห้องชุดย่านนี้เก็บไว้ประมาณ 10-20% โดยปีนี้นอกจากจะมีกลุ่มผู้จัดแสดงสินค้าที่สนใจซื้อห้องชุดเพิ่ม ยังมีปัจจัยบวกจากธนาคารกสิกรไทยขยายพื้นที่สำนักงาน ซึ่งจะทำให้มีคนที่เข้ามาทำงานในย่านนี้เพิ่มอีก 4,000-5,000 คน