posttoday

อังกฤษขนคอนโดขายไทย

01 มีนาคม 2559

กลุ่มทุนอังกฤษหอบโครงการคอนโดหรูขายเศรษฐี-นักลงทุนไทย

กลุ่มทุนอังกฤษหอบโครงการคอนโดหรูขายเศรษฐี-นักลงทุนไทย

นายแอนดริว ฮอว์กิ้นส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาโครงการห้องพักอาศัย บริษัท ซาวิลส์ ลอนดอน เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าชาวเอเชีย โดยเฉพาะในฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ รวมถึงไทย ที่มีกลุ่มเศรษฐีหรือนักลงทุนมีทรัพย์สินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างแดนมากขึ้น โดยเฉพาะที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เนื่องจากราคาอสังหาฯ มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องหากถือลงทุนในระยะยาว

ทั้งนี้ กรุงลอนดอนถือเป็นทำเลทองสำหรับนักลงทุนในโครงการที่พักอาศัย เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางการเงิน มีประชากรอยู่อาศัยเพียง 7,500 ครัวเรือน มีบ้านเลขที่จดทะเบียน 2.7 หมื่นหลังในปัจจุบัน เป็นแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศสูงถึง 21% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 27% ในทศวรรษหน้า ซึ่งเกิดจากราคาซื้อขายบ้านพักอาศัยที่เพิ่มสูงขึ้น สร้างผลตอบแทนรายปี 10-12% ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา มากกว่าการดำเนินธุรกิจอื่น 

“เหตุผลที่เศรษฐีไทยสนใจเข้ามาซื้ออสังหาฯ ในอังกฤษเนื่องจากมองเห็นโอกาสการลงทุนระยะยาว จากการที่คนไทยนิยมส่งบุตรหลานไปเรียนต่อที่อังกฤษ โดยคนไทยจะซื้ออสังหาฯ ในลอนดอนเฉลี่ยเดือนละ 1 ยูนิต อีกทั้งการที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากไทยจะยกเลิกการคุ้มครองเงินฝากเกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป กลางปีนี้ เชื่อว่าจะทำให้มีเศรษฐีคนไทยโยกเงินไปลงทุนในอสังหาฯ มากขึ้น” นายฮอว์กิ้นส์ กล่าว

ขณะที่ปัจจุบันการพัฒนาโครงการใหม่ในอังกฤษเกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากกฎหมายอังกฤษจะคุมเข้มเรื่องการก่อสร้างโครงการ สำหรับโครงการบาร์ท สแควร์ ที่บริษัทนำมาเสนอขายให้กับนักลงทุนและเศรษฐีของไทยนั้นเป็นโครงการเก่าที่นำมาปรับปรุงใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า ถือเป็นโครงการที่พักอาศัยเกิดขึ้นในย่านของการทำธุรกรรมทางการเงินในลอนดอน

สำหรับโครงการดังกล่าวก่อสร้างเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน ร้านค้า และคอนโดมิเนียมพักอาศัยจำนวน 235 ยูนิต มีอาคารรวม 10 หลัง ตั้งอยู่ระหว่างมหาวิหารเซนต์พอลและตลาดสมิธฟิลด์ เป็นย่านที่คับคั่งด้วยกลุ่มคนวัยทำงาน ปัจจุบันได้มีผู้ซื้อห้องชุดในโครงการบาร์ท สแควร์ไปแล้ว 98 ยูนิต จำนวนดังกล่าวเป็นลูกค้าในเอเชียและตะวันออกกลางสูงถึง 35% ล่าสุดได้นำโครงการเฉพาะส่วนพักอาศัยจำนวน 20 ยูนิต ราคาขาย 1,500 ปอนด์/ตารางฟุต หรือ 8 แสนบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) มาเปิดขายในประเทศไทยในราคา 40 ล้านบาท สำหรับขนาด 1 ห้องนอน 50 ตร.ม. จนถึงห้องชุดรูปบบเพนต์เฮาส์ราคากว่า 100 ล้านบาท ขณะนี้มีกลุ่มเศรษฐีไทยและกลุ่มนักลงทุนจองซื้อแล้ว 3 ยูนิต

ด้าน น.ส.ณปภัช วนิชรัตน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายต่างประเทศ บริษัท ซาวิลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า หากกลุ่มนักลงทุนซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่าห้องชุดราคา 40 ล้านบาท จะได้ผลตอบแทนการลงทุนที่ 3% โดยมีค่าเช่าอยู่ที่ 3 หมื่นบาท หรือ 600 ปอนด์/สัปดาห์ และคาดว่าหากถือครองไป 5 ปี จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากราคาปัจจุบันได้ 20% และหากถือครองถึง 10 ปี แล้วปล่อยขายสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากเดิมได้ถึง 50% โดยผู้ที่ซื้อสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้เทียบเท่ากับคนอังกฤษที่ถือครองได้ 999 ปี

ก่อนหน้านี้ บริษัท ฮาริสัน ได้นำโครงการเดอะ เชอร์วูด ลอนดอน เข้ามาทำตลาดในไทย เพื่อจับกลุ่มนักลงทุนและผู้ปกครองที่ส่งลูกไปเรียนที่อังกฤษ โดยขายเป็นสิทธิการเช่า 145 ปี มีจำนวนห้องชุด 48 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 39-170 ตร.ม. ราคาขาย 1.26-3.6 ล้านปอนด์ (ราว 64.78-185.08 ล้านบาท) ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเสร็จปลายปี 2559

Thailand Web Stat