คอนโดหัวหินทะลัก

03 เมษายน 2556

ไนท์แฟรงค์ เผยคอนโดต่ำกว่า 2 ล้านบาท ทะลักตลาดหัวหิน-ชะอำ เสี่ยงโอเวอร์ซัพพลาย

ไนท์แฟรงค์ เผยคอนโดต่ำกว่า 2 ล้านบาท ทะลักตลาดหัวหิน-ชะอำ เสี่ยงโอเวอร์ซัพพลาย

นายแฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในหัวหิน–ชะอำ มีการขยายตัวที่สูงมาก โดยในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา สิ้นสุด ณ ปลายปี 2555 มีห้องชุดเปิดขายสะสมมากถึง 1.8 หมื่นยูนิต เพิ่มขึ้นจากปลายปี 2554 มากถึง 32.5% และในจำนวนดังกล่าวมากกว่า 50% เป็นห้องชุดที่มีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ พบว่าบริเวณรอยต่อหัวหิน-ชะอำ เริ่มมีห้องชุดราคาต่อยูนิตต่ำกว่า 2 ล้านบาท เปิดขายจำนวนมากจนน่าจับตามอง และยังมีแนวโน้มว่าในปีนี้จะมีห้องชุดราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทเข้าสู่ตลาดอีกมาก เฉพาะในไตรมาสแรกของปีนี้มีโครงการที่เตรียมเปิดตัวอย่างน้อย 5 โครงการ เป็นของกลุ่มแอล.พี.เอ็น.ฯ 1 โครงการ กลุ่มแสนสิริ 3 โครงการ และผู้ประกอบการท้องถิ่นอีก 1 โครงการ ยังไม่นับรวมโครงการเฟสใหม่ๆ ของกลุ่มทุนจากประเทศจีน ที่ได้เข้ามาเปิดตัวโครงการมิราเคิล หัวหิน ไปเมื่อปีที่แล้ว

สำหรับอุปทานที่จะเข้าสู่ตลาดหัวหิน-ชะอำ ในปีนี้ประเมินว่าไม่ควรเกิน 2,000-3,000 ยูนิต เพราะอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายได้ อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นอุปทานใหม่มีแนวโน้มจะใกล้เคียงกับปี 2555 ที่มีการเปิดตัวใหม่ประมาณ 4,700 หน่วย ขณะที่ในปี 2554 มีอุปทานห้องชุดใหม่ทะลักเข้าสู่หัวหิน-ชะอำ มากถึง 7,000 ยูนิต จากผู้ประกอบการ 2 รายหลัก คือ โครงการดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน ของกลุ่มบ้านราชประสงค์ และโครงการ เอ.ดี. รีสอร์ท หัวหิน ของกลุ่ม เอ.ดี. เฮ้าส์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจากส่วนกลาง

ขณะที่ในปี 2555 ที่มีห้องชุดเปิดขายใหม่ 4,700 ยูนิต ประมาณ 60-70% เป็นโครงการของกลุ่มแสนสิริ ที่จากเดิมจะเน้นทำตลาดคอนโดมิเนียมตากอากาศระดับไฮเอนด์ แต่ในปีที่ผ่านมาเริ่มขยายลงมาทำตลาดบ้านพักตากอากาศแบบบัดเจ็ต คอนโด เพื่อให้ทำตลาดได้กว้างขึ้น โดยมีขนาดห้องที่เล็กลง แต่ราคาต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ไม่ได้ถูกลง เพื่อให้ราคาขายต่อยูนิตลดลงมาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท ไม่เน้นติดริมทะเล แต่เห็นวิวทะเล

ด้านนายประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน กล่าวว่า การที่แนวโน้มห้องชุดในหัวหิน-ชะอำ มีขนาดเล็กลง ล่าสุดโครงการโบ๊ทเฮ้าส์ได้ปรับขนาดห้องชุด 2 ห้องนอนของเฟส “เดอะ เลจเจ้นท์” จาก 66 ตร.ม. เหลือ 55.5 ตร.ม. จำนวน 45 ยูนิต ราคาขายต่อ ตร.ม. ประมาณ 9.5 หมื่นบาท ทำให้ราคาขายต่อยูนิตเหลือ 5.3 ล้านบาท ลดลงจากขนาดเดิมเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งการลดขนาดห้องครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 จากก่อนหน้านี้เคยปรับลดขนาดห้องชุด 1 ห้องนอน จาก 60 ตร.ม. เหลือ 46 ตร.ม. เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป โดยโครงการในเฟสดังกล่าวปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 60%

Thailand Web Stat