เปิดบ้าน พลภัทร จันทร์วิเมลือง สไตล์โมเดิร์นสุดแสนร่มรื่น
เปิดบ้าน “พลภัทร จันทร์วิเมลือง” หรือ “ภัทร” อดีต CEO วุฒิศักดิ์ คลินิก สไตล์โมเดิร์นสุดแสนร่มรื่น บนพื้นที่ 400ตารางวา สถานที่แห่งความสุขนานัปการ
โดย...อาร์ต ภาพ : กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
มีเสียงร่ำลือมานานว่าบ้านของ “พลภัทร จันทร์วิเมลือง” หรือ “ภัทร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก นั้น แสนจะร่มรื่น สวยงาม น่าอยู่เป็นที่สุด “เพราะบ้านสวย...รอไม่ได้” เราจึงต้องไปเยี่ยมเยือนเพื่อเป็นเกียรติสักครั้งในชีวิต เมื่อเดินทางมาถึงซอยนาคนิวาส 48 ในย่านลาดพร้าว ทันทีที่ประตูรั้วบ้านบานใหญ่เปิดออก ก็เผยให้เห็นบริเวณสวนสวยซึ่งมีต้นไม้นานาพรรณสีเขียวขจี ที่ให้ความร่มรื่นจนลืมความร้อนของอากาศในวันนี้ไปเลย “บ้านหลังนี้สร้างมาได้ 10 ปีแล้วครับ มีพื้นที่ทั้งหมด 400 ตารางวา คือก่อนหน้านี้ผมเคยพักอยู่คอนโดมิเนียมมาก่อน แต่ใจมันก็เรียกร้องอยากมีพื้นที่สวนไว้เดินเล่น ผมเป็นคนชอบบ้านที่อยู่ท่ามกลางแมกไม้สีเขียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตัดสินใจหาซื้อที่ดินบริเวณนี้ไว้ก่อน 200 ตารางวา หลังจากนั้นก็ซื้อเพิ่มอีก 200 ตารางวา ใจจริงแล้วผมอยากได้สวนที่ใหญ่กว่านี้นะ แต่คงขยายเพิ่มไม่ได้แล้วล่ะ (หัวเราะ) เพราะได้ใช้พื้นที่ที่เหลือต่อเติมเป็น “บ้านหนังสือ” ซึ่งทำเป็นห้องสมุดธรรมะให้คนในชุมชนนี้ได้มาใช้บริการอ่านหนังสือฟรี โดยต่อยอดมาจาก “บ้านหนังสือ” สาขาแรกแถวชินเขต ที่คุณหมอวุฒิศักดิ์ หุ้นส่วนของผมได้ริเริ่มทำไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเป็นการคืนสิ่งดีๆ ให้กับสังคมและคนในชุมชนครับ” ด้วยพื้นที่อันกว้างขวางทำให้เราอยากรู้ว่าบ้านหลังนี้มีสมาชิกทั้งหมดกี่คนกันนะ
“บ้านหลังนี้ผมจะอยู่ประจำ แต่บางช่วงอาจจะมีญาติๆ เข้ามาพักด้วยบ้าง คือครอบครัวผมอยู่ที่ จ.ขอนแก่น แต่ถ้ามีแขกใครไปมาก็สามารถมาพักที่นี่ได้ ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีหลานซึ่งมาเรียนที่กรุงเทพฯ มาพักอยู่ด้วยหลายปี พอเรียนจบเขาก็เพิ่งย้ายกลับต่างจังหวัดไปเมื่อไม่นานนี้เอง” ภัทรบอกว่า ที่จริงแล้วเขาเป็นสถาปนิก แต่ก็ไม่ได้เป็นคนออกแบบบ้านหลังนี้เอง แต่เป็นคนเสนอไอเดียว่าต้องการบ้านสไตล์ไหน ซึ่งโจทย์ของเขาก็คือ ต้องการบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ดูอบอุ่น เน้นความเรียบง่าย อยู่ได้นาน ซึ่งการตกแต่งภายในขอเป็นแบบผสมผสานทั้งไทยและอังกฤษ
“การตกแต่งของบ้านหลังนี้จะดูหลากสไตล์จนหาคำจำกัดความยากเหมือนกันครับ (หัวเราะ) จะเรียกว่าสไตล์คอนเทมโพรารีก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าตกแต่งตามใจผู้อยู่ละกันครับ ถ้ามองแล้วเห็นว่าสวยก็โอเคแล้ว” บ้านมักบ่งบอกตัวตนของเจ้าของบ้านว่าเป็นอย่างไร มุมโปรดก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนได้ดีเช่นกัน
“ผมเป็นคนที่หลากหลายอารมณ์ (ยิ้ม) บางอารมณ์ที่อยากอยู่เงียบๆ มุมโปรดของผมก็คือแถวๆ บ่อปลาคาร์ฟ ผมชอบเลี้ยงปลามาตั้งแต่เด็กแล้ว เช่น ปลาหางนกยูง ปลากัด ปลาอโรวาน่า ส่วนหมากับแมวนี่ก็ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ นะ แต่ที่บ้านจะไม่ให้เลี้ยง เพราะเป็นตึกแถวซึ่งเปิดเป็นร้านค้า จึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลสัตว์เลี้ยงสักเท่าไหร่ อีกอย่างเวลามีลูกค้าเข้ามาแล้วมันจะดูไม่สะอาดเรียบร้อย” ดังนั้น พอได้มีบ้านของตัวเองและพื้นที่เอื้ออำนวย ภัทรจึงเลี้ยงน้องหมาหลากหลายพันธุ์ไว้ถึง 16 ตัว เร็วๆ นี้สมาชิกตัวที่ 17 กำลังจะมา ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นภูมิแพ้ขนสุนัข แต่เขาก็รักที่จะเลี้ยงน้องหมาต่อไป โดยจัดให้มีห้องของน้องหมาแยกเป็นสัดส่วนไปเลย 1 ห้องใหญ่ พร้อมทั้งติดตั้งพัดลมดูดอากาศและมุ้งลวดเสร็จสรรพ “มุมโปรดอีกมุมของผมคือ บริเวณโซฟาในห้องรับแขก ซึ่งสามารถมองผ่านกระจกออกไปแล้วเห็นสวนเขียวๆ ที่มองแล้วสบายตา ผมมักจะมานั่งๆ นอนๆ ดูทีวี ดูสวนเพลินๆ แล้วก็งีบหลับไปเลย มุมนี้ผมจะใช้บ่อยที่สุดครับ” เมื่อถามถึงนิยามคำว่าบ้าน ภัทรตอบด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขว่า บ้านคือสถานที่พักพิงที่แสนอบอุ่นในยามที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน จากปัญหาต่างๆ รอบๆ ตัว บ้านเป็นสถานที่ซึ่งเมื่อกลับมาแล้วจะรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่
สรุปได้ว่าบ้านเป็นสถานที่แห่งความสุขนานัปการนั่นเอง