"เนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค" อสังหาฯ เพื่อผู้ล่วงลับ
ธุรกิจสุสานหรือฮวงซุ้ยในประเทศไทยมีโอกาสการเติบโตเนื่องจากสุสานในเมืองไทยยังไม่มีรายใดที่มีการดูแลครบวงจร
โดย...โชคชัย สีนิลแท้
ที่ผ่านมาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ พยายามหาแนวคิดใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าที่ไม่ได้แค่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยไม่เฉพาะแค่ยุคปัจจุบันเท่านั้น แต่มองเห็นโอกาสในการพัฒนาโครงการเพื่อตอบสนองความเชื่อของคนที่ว่า ดินแดนสุขาวดีหรือดินแดนที่มีความสุขความเจริญมีไว้สำหรับผู้แสวงหาความเจริญชั่วลูกชั่วหลาน หากกระทำสิ่งที่ดีๆ ให้กับบรรพบุรุษ จึงเกิดแนวคิดการพัฒนาที่ดินที่แตกต่างขึ้นมา
อึง เบ็ง ลาย หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการต่างประเทศ บริษัท เนอร์วาน่า เอเชีย กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจบริการผู้ล่วงลับครบวงจรจากประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้เข้ามาดำเนินธุรกิจสุสานหรือฮวงซุ้ยในประเทศไทย เพราะเห็นโอกาสการเติบโตเนื่องจากสุสานในเมืองไทยยังไม่มีรายใดที่มีการดูแลครบวงจร ประกอบกับประเทศไทยจำนวนประชากรเกือบ 70 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าวมีคนไทยเชื้อสายจีนไม่ต่ำกว่า 20%
ทั้งนี้ คนจีนที่อยู่ในหลายประเทศ มีความเชื่อเหมือนกันว่าเมื่อเสียชีวิตต้องไปอยู่ในภพภูมิที่ดี รวมไปถึงความเชื่อที่ว่าการทำสุสานนั้นถือเป็นการต่อชีวิตให้ยืนยาว จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการเนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค บ้านบึง จ.ชลบุรี บนเนื้อที่ 270 ไร่ โดยมี พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ เป็นผู้ถือหุ้น และดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ บริษัท เนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค (ประเทศไทย)
สำหรับโครงการเนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค บ้านบึง ก่อสร้างขึ้นโดยยึดหลักฮวงจุ้ย ซึ่งกว่าจะได้ที่ดินแปลงนี้มาต้องใช้เวลาพิจารณาค่อนข้างนาน เพราะต้องเป็นที่ดินแปลงขนาดใหญ่ และต้องเดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ โครงการนี้ได้ผ่านการอนุญาตจัดตั้งเป็นสุสานเอกชนอย่างถูกต้องจากหน่วยงานราชการไทย เนื่องจากปัญหาใหญ่ของสุสานในไทยที่ผ่านมาอยู่กับสมาคมต่างๆ หลายแห่งประสบปัญหาขาดการดูแล และบางแห่งยังถูกเวนคืนที่ดิ
ทั้งนี้ รูปแบบของสุสานนั้นจะเป็นสไตล์จีน ที่มีตั้งแต่เน้นสไตล์เรียบง่าย หรือต้องการเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับบุคคลผู้มีชื่อเสียง โดยในโครงการเนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค บ้านบึง นั้นแบ่งพื้นที่ออก 12 โซน ออกแบบแปลงที่ดินเป็น 3 รูปแบบหลัก ประกอบด้วยแปลงคู่มาตรฐาน จำนวน 2 หลุม เนื้อที่เริ่มต้นขนาด 6x4 เมตร หรือเนื้อที่ 24 ตารางวา ในราคาเริ่มต้นกว่า 7 แสนบาท และขนาด 8 หลุม ระดับราคา 3-7 ล้านบาท จนถึงขนาดใหญ่ 32 หลุม ซึ่งใน 3 รูปแบบใหญ่ก็จะมีรูปแบบย่อยให้ลูกค้าเลือกว่าต้องการการออกแบบอย่างไร แต่จะมีการควบคุมทัศนียภาพโดยรวมในรูปแบบเดียวกัน มีการจัดสร้างทางเดินและพื้นที่กั้นระหว่างสุสาน โดยวัสดุก่อสร้างที่เป็นหินแกรนิตนั้นเป็นสินค้าคุณภาพสูงนำเข้าจากประเทศจีน
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำอาคารสถานบรรจุอัฐิ ริมทะเลสาบที่ออกแบบด้วยเหล่าทวยเทพต่างๆ โครงการนี้บริษัทใช้งบลงทุนเริ่มต้น 250 ล้านบาทรวมค่าที่ดิน เริ่มจากการพัฒนาพื้นที่และโซนเอ คาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 6-7 ปี ปัจจุบันบริษัทได้เปิดจองพื้นที่ในโซนเอ สามารถขายได้แล้ว 400-500 หลุม หรือคิดเป็นยอดขาย 30% ของเฟสแรก เนื้อที่ 60 ไร่ หรือมียอดขาย 12 ล้านบาท หลังจากพัฒนาพร้อมเปิดขายในช่วง 2 ปีที่่ผ่านมา
สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักเป็นคนที่มีอายุระหว่าง 40-60 ปี ระดับรายได้กลาง-บน ซึ่งคนในช่วงวันนี้จะมีกำลังซื้อสูง มีทั้งซื้อไว้สำหรับตนเองในอนาคตและให้กับบิดา มารดา วิธีการทำตลาดนั้นจะพาลูกค้าไปเยี่ยมชมโครงการที่พัฒนาในมาเลเซียว่ามีความคืบหน้าอย่างไร และสิ่งที่ลูกค้าต้องการเพิ่มเติม โดยเฉพาะในกลุ่มที่ซื้อหลุมขนาดใหญ่ตั้งแต่ 8 หลุมขึ้นไป เป็นต้น อย่างในมาเลเซีย บางหลุมได้มีการตกแต่งในรูปแบบที่เจ้าของชอบ เนื่องจากตนเองเป็นนักร้องก็จะใช้ดนตรีและเสียงเพลงมาประกอบในการตกแต่ง เนื่องจากมีความเชื่อว่าการทำในรูปแบบดังกล่าวจะเป็นการต่ออายุให้กับคนที่ทำด้วย
การขายที่ดินในบริเวณเริ่มต้นโซนเอนั้น จะแยกสัญญาออกเป็น 2 ส่วน คือซื้อที่ดินเพื่อทำสุสานก่อน และมีสัญญาก่อสร้างอีกสัญญา โดยทางบริษัทจะมีหนังสือรับรองว่าที่ดินบริเวณนั้นมีใครเป็นเจ้าของ ขณะที่การดูแลหลังการขายนั้นจะดูแลให้ตลอด โดยจะมีการตั้งในรูปแบบกองทุนขึ้นมาบริหารเพื่อให้สุสานนั้นคงความสวยงาม ซึ่งจะมีการเรียกเก็บเงินจำนวน 3.5 หมื่นบาทครั้งเดียวเพื่อเป็นเงินกองทุนเริ่มต้น มีคนดูแลพื้นที่ตลอดเวลาจะไม่ดูแลเฉพาะช่วงที่มีงานเช้งเม้ง ทั้งโครงการเนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค บ้านบึง ตั้งเป้าว่าจะใช้เวลาในการพัฒนารวมถึงการขายทั้งหมดนาน 10 ปี โดยในช่วง 5 ปีแรก สาธารณูปโภคในโครงการนั้นจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์
สำหรับเนอร์วาน่า เอเชีย กรุ๊ป ก่อตั้งในปี 2533 หรือเข้าสู่ปีที่ 26 โดยมีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นแห่งแรกที่เริ่มดำเนินการที่ดำเนินการในรูปแบบวันสต๊อปเซอร์วิส ทั้งสุสานและงานศพ จากจุดเริ่มต้นบนเนื้อที่ 100 ไร่ ที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ได้มีขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 2,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีใน จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย ปัจจุบันมีสุสานอยู่ 14 แห่ง ซึ่งไทยเป็นประเทศล่าสุดแห่งที่ 6 โดยในปี 2557 ได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งเป็นสิ่งที่รับประกันได้ว่าธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่นี้จะไม่มีหนีหาย
สำหรับธุรกิจดูแลผู้ล่วงลับของประเทศไทยนั้น พบว่ายังสามารถที่จะขยายและเติบโตได้อีก โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อต้องการทำให้มีขนาดใหญ่เหมือนกับในมาเลเซียที่มีการซื้อที่ดิน ขณะเดียวกันยังมองลู่ทางอาจจะขยายการลงทุนต่อไปที่ จ.เชียงใหม่ และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมไปถึงการทำสุสานเพื่อสำหรับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย