posttoday

เอสพีเจ แลนด์ ผุด Lavista Prestige Village Ekkamai 10 คาดปิดการขายสิ้นปีนี้

17 มกราคม 2566

เอสพีเจ แลนด์ เล็งปี 66 อสังหาริมทรัพย์ จ่อฟื้นตัว ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวร์รี่ เชื่อมีการแข่งขันสูง ด้านที่ดินทำเลเอกมัยพุ่งสูงกว่า 500,000-600,000 บาท ต่อตร.ม. ล่าสุดเปิดตัวโครงการ Lavista Prestige Village Ekkamai 10 มูลค่า 500 ล้านบาท คาดปิดการขายปีนี้

นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวร์รี่ในปี 2566 โดยมองว่า จะเริ่มเห็นการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาในตลาด โดยทำเลที่จะมีการพัฒนากันมากที่สุดจะอยู่ในทำเลนอกเมือง ขณะที่การแข่งขันจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น อย่างไรก็ตามในปีนี้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้นเทียบกับจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากสถานการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การตัดสินใจลดลง ทั้งนี้จึงเชื่อว่าในปีนี้ผู้บริโคจะมีการซื้ออสังหาริมทรัพย์มากยิ่งขึ้น

 

ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 นี้ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 120 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าการพัฒนาโครงการใหม่อย่างน้อยปีละ 2 โครงการ โดยโครงการแรกที่ได้พัฒนาชื่อโครงการ Lavista Prestige Village Ekkamai 10 มูลค่าโครงการอยู่ที่ 500 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 10 มีขนาด 4 ชั้น เป็นบ้านเดี่ยว 7 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 429.97- 546.61 ตารางเมตร ซึ่งทุกหลังได้รับการตกแต่งภายในพร้อมสำหรับการเข้าพักอาศัย ด้วยราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปีนี้
 

 

สำหรับโครงการ Lavista Prestige Village Ekkamai 10 ได้มีการพัฒนาภายในย่านพักอาศัยที่กลางสุขุมวิท พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบ ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติ โดยเป็นทำเลที่เชื่อมต่อ 3 ถนนหลัก ได้แก่ สุขุมวิท 55 สุขุมวิท 63 และสุขุมวิท 71 ใกล้ 3 ทางขึ้นทางด่วนและสถานีรถไฟฟ้า

 

สำหรับทำเลเอกมัย นับเป็นอีกหนึ่งที่มความน่าสนใจ ซึ่งในส่วนของระดับราคาที่ดินทำเลเอกมัย ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 300,000-400,000 บาท ต่อตารางวา และในปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 500,000-600,000 บาท ต่อตารางวา โดยผู้ประกอบการที่จะเข้าพัฒนาโครงการในทำเลดังกล่าว จึงจะมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับลักชัวร์รี่ โดยในส่วนของการพัฒนาของบริษัทเอง ก็จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลักชัวร์รี่เป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง

 

“เราได้มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 20 ปี จึงมีความเชี่ยวชาญและเข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเซกเมนต์ระดับลักชัวรีได้เป็นอย่างดี บริษัทจึงได้ให้ความสำคัญในทุก ๆ องค์ประกอบ ด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด กับจำนวนยูนิตไม่มาก และที่สำคัญตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่สะดวกสบายทุกการเดินทาง เหมาะลูกค้าตลาดบนเฉพาะกลุ่ม และนับเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของธุรกิจการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีได้อย่างแท้จริง”นายสุริยน กล่าวทิ้งท้าย