ส่องโครงการบ้านหรู กลุ่มเซ็กเมนต์ที่อยู่อาศัยที่เติบโตอย่างมาก

“บ้านหรู” ระดับราคาเกิน 100 ล้านบาท ไม่เพียงแค่ใหญ่โตโออ่า และการตกแต่งที่สวยงาม แต่บ้านหรู คือ บ้านที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างมีระดับ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว รวมถึงสภาพแวดล้อม ทัศนียภาพบริเวณโครงการ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกบนมาตรฐานสากลระดับสูงภายในบ้านหรูพร้อมอยู่ เพราะเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนความเป็นอยู่ในชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้นั่นเอง

บ้านหรูยังเหมาะกับเทรนด์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว เพราะบ้านหรูถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสำหรับการเก็บสะสมเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่า เป็นมรดกตกทอดไว้ให้ลูกหลานในอนาคตได้ ปัจจุบัน “บ้านหรู 100 ล้าน” เป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่อยู่อาศัยที่เติบโตอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และมีความมั่นคงทางการเงินสูง มาดูว่าบ้านหรู 100 ล้าน ของผู้ประกอบการค่ายไหน ที่หันมาเล่นบ้านหรูกันบ้าง 

เริ่มกันที่ เจ้าแรกที่มาเปิดบ้านหรูระดับ 100 ล้านบาท ในปี 2566 นี้ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SC) กับ โครงการ 95E1 (ไนน์ตี้ไฟว์ อีสต์วัน) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Ultra Luxury ที่มีราคาเริ่มต้น 100 ลบ. ที่เกิดจากการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยการทำ Co-creation ระหว่างกลุ่มลูกค้าและผู้ออกแบบ จากนั้นจึงนำผลของงานวิจัยที่เก็บข้อมูลจากลูกค้า SC ASSET มาพัฒนารูปแบบบ้านให้เน้นความเป็น Lifestyle centric พัฒนาเป็นเรสซิเดนซ์หรู 3 ชั้น พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว และฟังก์ชั่นที่ทำขึ้นพิเศษเพื่อตอบรับ Luxury Lifestyle ของผู้อยู่อาศัย 

โครงการ 95E1 ตั้งอยู่บนถนนโยธินพัฒนา 3 ทำเลที่เป็นจุดศูนย์กลางของแหล่งไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบในย่านถ.เลียบทางด่วนเอกมัย - รามอินทรา ที่สุดแห่งทำเลศักยภาพของการอยู่อาศัยระดับ Ultra Luxury ด้วยการคมนาคมที่สะดวก ห่างจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนพิเศษฉลองรัช (ด่านโยธินพัฒนา) เพียง 3 นาที พร้อมเชื่อมต่อเข้าใจกลาง CBD ของกรุงเทพมหานครอย่างทองหล่อ แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่มีระดับของคนเมือง ทำเลเลียบทางด่วน เอกมัย - รามอินทราเป็นส่วนต่อขยายของเมืองที่มีศักยภาพในการที่จะพัฒนาต่อไปเป็น CBD แห่งใหม่ของฝั่งตะวันออก 

ต่อกันที่ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (S) มีแผนขยายฐานลูกค้าโดยเจาะตลาดหลากหลายเซกเมนต์ โดยตั้งเป้าเปิดโครงการอีก 5 โครงการ มูลค่ารวมโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวระดับราคา 15-30 ล้านบาท และระดับราคา 30-50 ล้านบาท Cluster Home ระดับราคาตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป พร้อม Flagship Cluster Home Project ซึ่งมีระดับราคาเริ่มต้นสูงถึง 550 ล้านบาทต่อหลัง 

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา “สิงห์ เอสเตท” ได้มีการพัฒนาโครงการบ้านหรู ในชื่อโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นระดับSuper Luxury บนแปลงที่ดินขนาดใหญ่ของย่านพัฒนาการ ใกล้ทองหล่อเพียง 5 กิโลเมตร รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชีวิตคนเมืองครบครัน มอบสังคมส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยจำนวนบ้านในโครงการเพียง 28 หลัง บนพื้นที่ 23 ไร่ ในราคา 65 – 180 ล้านบาท โครงการถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “True Legacy Lives Now” 

สำหรับบ้านศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส ถูกออกแบบบน 3 ปรัชญาหลักของการสร้างบ้านแบบสิงห์ เอสเตท ได้แก่ Quality Living, Healthy Living และ Sustainable Living ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าของบ้านที่เปรียบเสมือนสมบัติล้ำค่า เป็นศูนย์รวมแห่งความทรงจำอันทรงคุณค่าเพื่อการส่งต่อคุณค่านั้นจากรุ่นสู่รุ่น โดย ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส ได้รับการออกแบบเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modernism Tropical Architecture นำเสนอฟังก์ชั่นบ้าน 3 แบบ Residence I ขนาด 820 ตร.ม. Residence II ขนาด 682 ตร.ม. และ Residence III ขนาด 551 ตร.ม.
 
ในส่วนของ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC นอกจากจะมีการพัฒนาโครงการอภิมหาโปรเจคอย่าง เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่ง ณ ปัจจุบันมูลค่ารวมโครงการ 22,000 ล้านบาท ซึ่งภายในโครงการได้มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท คือ โครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า พัฒนาภายใต้แนวคิดใหม่ในการออกแบบบ้าน ที่หลายวิลล่าถูกเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้ครอบครัวขยายที่ประกอบไปด้วยสมาชิกหลายเจเนอเรชั่นสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวของตัวเอง

สำหรับโครงการ มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวที่ออกแบบโดย Foster + Partners โดยแต่ละวิลล่ามีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 1,000 – 1,700 ตารางเมตร ตั้งกระจายตัวอยู่บนที่ดินพื้นที่ 26 ไร่ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการมิกซ์ยูส ขนาด 398 ไร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมี วิลล่าขนาดใหญ่พิเศษของโครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,700 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 310 ล้านบาท ส่วนวิลล่าขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,200 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 220 ล้านบาท ในขณะที่บ้านขนาดกลางเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,000 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 185 ล้านบาท

ทางด้าน บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CI) ได้พัฒนาโครงการ “บ้านอิสสระ บางนา” เป็นโครงการบ้านเดี่ยว ระดับ Super Luxury โดยถ่ายทอดแนวคิดผ่านความเป็น Modern Tropical House ที่ทำให้เกิดความรู้สึกอยู่สบายน่าพักอาศัย มีความ เรียบง่ายตามวิถีของคนยุคใหม่ ยึดหลักการของธรรมชาติและประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบอิสระที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น การออกแบบที่เน้นพื้นที่ใช้สอยที่มากเพียงพอ พร้อมทั้งให้ฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ครบครัน 

มีแบบบ้านให้เลือก 4-6 ห้องนอน แบบ 2 ชั้น และ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 250-697 ตารางเมตร บนที่ดินขนาด 100-238 ตารางวา โดยโครงการ “บ้านอิสสระ บางนา” ตั้งอยู่บนพื้นที่ ประมาณ  24  ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.8 บนพื้นที่ดินขนาด 100 - 238 ตารางวา มีจำนวน 44 แปลง บ้านพื้นที่ใช้สอย 250-697 ตารางเมตร พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อม Lifestyle Concierge Service การบริการที่ช่วยสร้างไลฟ์สไตล์ความเป็นส่วนตัว แบบเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ลูกบ้านภายในโครงการ โดยมีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 71 – 175 ล้านบาท 

ปิดท้ายกันที่ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) (AP) อีกหนึ่งเจ้าตลาดบ้านเดี่ยว ประกาศเดินหน้าขยายพอร์ตเพิ่มแชร์ตลาดบ้านหรู พร้อมรุกเข้าบุกดีมานด์ตลาดบ้านเดี่ยวใน 2 เซกเมนต์ คือ บ้านเดี่ยวระดับ Luxury ราคา 20 - 50 ล้านบาท ผ่านการสานต่อความสำเร็จของแบรนด์ THE CITY บ้านเดี่ยวหรูดีไซน์โมเดิร์น หัวหอกสำคัญที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับบนมาอย่างต่อเนื่อง และบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ราคา 50 - 100 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง

ซึ่งได้เปิดตัว THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ 580 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา สะท้อนกลิ่นอายสถาปัตยกรรมอังกฤษ NEW ENGLISH LUXURY CLASSIC เพียง 10 นาที ถึงรพ. ศิริราช ใกล้ทางพิเศษศรีรัชและ MRT สถานีไฟฉาย เริ่ม 30 - 45 ล้านบาท พร้อมการออกแบบ ฟังก์ชันและดีไซน์บ้านที่นำมาจากความต้องการของลูกค้าครอบครัวระดับบน บนแบรนด์คอนเซ็ปต์ “Where Function Meets Luxury” ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดผ่านจุดขายหลักที่แตกต่างจากบ้านเดี่ยวหรูทั่วไปในตลาด 

ได้แก่ Customized Design ออกแบบสถาปัตยกรรมบ้านใหม่ยกเซ็ตรวม 14 โมเดล รองรับไลฟ์สไตล์และรสนิยมที่เฉพาะของลูกค้าแต่ละทำเล Inclusive Living Design ใส่ใจทุกรายละเอียดทั้งมิติสเปซฟังก์ชันและสุนทรียศาสตร์ในบ้าน พร้อมรองรับทุกการใช้ชีวิตร่วมกันของสมาชิกครอบครัวขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วยสมาชิกในครอบครัวหลากหลายช่วงวัย โดยเฉพาะผู้สูงวัยและเด็กเล็ก และ The Ultimate Privacy เน้นการพัฒนาโครงการที่ส่งมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนบ้านในแต่ละโครงการเพียง 58 ยูนิตเท่านั้น

และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ ”บ้านหรู” ซึ่งเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้จะมีโครงการที่อยู่อาศัยที่อาจจะมีระดับราคาสูงกว่า 500 ล้านบาท มาสร้างความฮือฮาให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอน