อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์จ่ายปันผลหุ้นละ 0.25 บาททำสถิติโตสุดงวดครึ่งปีแรก
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) จ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.25 บาท เก็บกำไรสุทธิ 338 ล้านบาทสร้างสถิติเติบโตสูงสุดงวดครึ่งปีแรก เผยครึ่งปีหลังเล็งเปิด Little Walk สาขาที่ 4 มั่นใจรายได้เติบโตตามเป้าหมาย
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บมจ. อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการไตรมาส 2/2566 (เมษายน-มิถุนายน 2566) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 163.7 ล้านบาท เติบโต 0.9% YoY โดยมีรายได้รวม 2,215.7 ล้านบาท เติบโต 2.1% YoY
โดยเป็นรายได้จากการขายเติบโต 1.1% YoY มาจากช่องทางหน้าร้านค้าปลีกของบริษัทฯ เป็นหลัก โดยเฉพาะสาขาที่ให้บริการโลเคชั่นที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งยังมีรายได้จากการให้เช่าและบริการเติบโต 12% YoY จากสาขาเดิมที่เปิดให้บริการและการเปิดสาขาใหม่ Little Walk ลาดกระบัง เมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา เติบโตได้ตามเป้าหมาย
ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ ILM ทำสถิติกำไรสูงสุดในงวดครึ่งปีแรกที่ 338 ล้านบาท เติบโต 4.6% YoY และมีรายได้รวม 4,428.2 ล้านบาท เติบโต 2.5% YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากช่องทางหน้าร้านค้า เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าหันมาซื้อสินค้าที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์มากขึ้น ขณะเดียวกันช่องทางออนไลน์ก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมาจากการเติบโตของรายได้จากการให้เช่าและบริการจากการเปิดสาขาใหม่ รวมถึงความสามารถในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ กำไรขั้นต้นและอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 จึงได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงาน 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งมากกว่าการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดเดียวกันของปีก่อนในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 24 สิงหาคม 2566 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 กันยายนนี้
สำหรับแผนธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทวางแผนปรับโฉม อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาพัทยา และการเปิดตัว Little Walk สาขากรุงเทพกรีฑา ในช่วงปลายไตรมาส 3/2566 ตลอดจนการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งได้ดำเนินการทดลองใช้ EV Truck เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความคุ้มค่า รวมถึงการตอกย้ำการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด Green Planet ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ ESG ของบริษัท
ด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง มองว่ามีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ ILM ประเมินว่ายอดขายหน้าร้านค้าปลีกของบริษัทฯ จะยังคงเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยว การเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งการเติบโตของรายได้จากพื้นที่เช่าตามแผนการเปิดสาขาแห่งใหม่ มั่นใจว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเติบโตและผลักดันผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 เติบโตตามเป้าหมาย