ตลาดรับสร้างบ้านปี 68 แข่งเดือด ชี้ช่องบุกต่างจังหวัด
สถานการณ์ "ตลาดรับสร้างบ้าน" ในปี 2568 ภาพรวมมีสัญญาณค่อนข้างดี ด้วยแรงหนุนจากการลดอัตราดอกเบี้ย ผู้บริโภคกลับมามีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจมากขึ้นจากนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวส่งผลให้ผู้ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยเริ่มกลับมาตัดสินใจสั่งสร้างบ้านใหม่เพิ่มขึ้นหากเทียบกับปี 2567 ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้ง เศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน
อีกทั้งค่าครองชีพสูงจากต้นทุนสินค้าที่ปรับตัวขึ้น กระทบกับรายได้ของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังวางแผนสร้างบ้านชะลอการตัดสินใจ ซึ่งสะท้อนตัวเลขคาดการณ์มูลค่ารวมยอดเซ็นสัญญาสั่งสร้างบ้านของบริษัทรับสร้างบ้าน ในช่วงสิ้นปี 2567 แตะระดับ 11,000 ล้านบาท จากเป้าหมายในช่วงต้นปีวางไว้ที่ 12,000 ล้านบาท
สร้างบ้าน 5-20 ล้านคึก
"โอฬาร จันทร์ภู่" นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) ยอมรับว่าแม้ภาพรวมตลาดยังรอจังหวะฟื้นตัวของกำลังซื้อ แต่ในเซ็กเมนต์บ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท และบ้านระดับราคา 20 ล้านบาท กลับได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้ที่กำลังวางแผนสร้างบ้าน นับจากยอดสั่งสร้างบ้านภายในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2024 ในเดือนกันยายน 2567
นอกจากนี้ ดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงส่งผลต่อการตัดสินใจสร้างบ้าน รวมถึงการรุกทำตลาดและรับคำสั่งสร้างบ้านในต่างจังหวัดมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯเน้นเจาะตลาดกรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นหลัก จึงเป็นโอกาสใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในปี 2568
แต่ถึงกระนั้น ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวยังคงเป็นสิ่งที่สมาคมฯจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งปัญหาการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อในระดับกลางถึงล่าง อาจประสบปัญหาการจัดการหนี้สิน ทำให้ยกเลิกหรือชะลอการสร้างบ้านออกไป
ขณะที่การแข่งขันในตลาดรับสร้างบ้านมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในปี 2568 ทั้งจากบริษัทรับสร้างบ้านด้วยกันเอง และจากบริษัทผู้รับเหมาอาคารสูง เช่น โครงการคอนโดมิเนียม ที่หันมารับงานรับสร้างบ้านกันมากขึ้น
“บริษัทผู้รับเหมาอาคารสูงมีการปรับตัวด้วยการหันมารับงานก่อสร้างบ้านที่พักอาศัยในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้มีความกังวลทั้งต่อสถานการณ์การแข่งขันด้านราคาที่อาจส่งผลต่อคุณภาพบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว”
นอกจากนี้ ประเด็นค่าแรงที่เพิ่มขึ้นและแรงงานหายาก รวมถึงต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้ต้นทุนสร้างบ้านเพิ่มขึ้น นำไปสู่การชะลอตัดสินใจสั่งสร้างบ้านของผู้บริโภค
"ปี 2568 ยังมีความหวังจะได้เห็นสัญญาณที่ดีขึ้น หรืออาจจะเห็นตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงแรงจูงใจจากการลดหย่อนภาษีสร้างบ้าน สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน มูลค่า 1 ล้านบาท สามารถหักลดหย่อนภาษี 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยเป็นบ้านสั่งสร้างที่มีการเซ็นสัญญา และเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ 9 เมษายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2568 อีกทั้ง การปรับกลยุทธ์ของบริษัทรับสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการบ้านแนวคิดใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบสมาร์ทโฮม บ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Homes) และบ้านประหยัดพลังงาน"