เปิดที่มาของ"บ้านเพื่อคนไทย" เบื้องลึกที่คนจองสิทธิ์ควรรู้

หลังจาก ครม. อนุมัติงบศึกษา 160 ล้านบาท โครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยจะเปิดชมห้องตัวอย่างใน และเปิดจองสิทธิ์ในวันนี้ 17 ม.ค. 68 และนายกรัฐมนตรี แพรทองธาร ชินวัตร จะเดินทางไปเปิดโครงการดังกล่าวที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์

วันนี้ทีมข่าว โพสต์ ทูเดย์ ได้โอกาสพูดคุยกับแหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยเบื้องหลังที่มาที่ไปโครงการ "บ้านเพื่อคนไทย" ว่าโดยข้อเท็จจริงแล้ว เริ่มต้นมาอย่างไร 

นี่คือข้อมูลเชิงลึกที่เราได้โอกาสพูดคุยกับ 1 ในมือเศรษฐกิจเบอร์ต้นของประเทศ ที่มาเล่าที่มาที่ไปตั้งแต่การเริ่มตั้งชื่อ เลือกทำเล หาสถานที่หรือแม้แต่การลงทุน ซึ่งงานนี้เป็นการนำที่ดินมาพัฒนาต่อยอด และจะเป็นการหารายได้ให้การรถไฟไทยได้มีรายได้ที่เป็นบวกด้วย

สำหรับไอเดีย "บ้านเพื่อคนไทย" แหล่งข่าวระดับสูงเล่าว่า เริ่มจาก ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดคุยกับเขา บอกว่า "ผมเห็น นักเรียน นักศึกษา ที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างจังหวัด แล้วเข้ามาศึกษาหาความรู้ในเมืองหลวง (กทม.-เมืองเชียงใหม่) เขาต้องมาหาที่อยู่อาศัย หลายคนต้องเช่าอาศัย บางรายอยู่กับญาติพี่น้อง ครอบครัว ย้ายมาอาศัย หาที่พักราคาแพง ทำไมเราไม่หาที่อยู่อาศัยให้คนเหล่านี้ในราคาที่สู้ได้ ไม่แพง ที่สำคัญ ทำเลที่ตั้ง ก็ควรอยู่ในจุดที่เดินทางไปมาสะดวก ในการไปเรียนศึกษา นั่นคืออยู่ในจุดใกล้เคียงรถไฟฟ้า และคุณทักษิณยังมองว่า ที่อยู่อาศัยแบบนี้จะเป็นตัวต่อยอด เมื่อจบการศึกษาใช้ชีวิตทำงาน ก็ได้ผ่อนอาศัยระยะยาว 

ตรงนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มที่มือเศรษฐกิจระดับประเทศได้สนับสนุนแนวคิดนี้ โดยบอกว่าเอาที่ดินของการรถไฟที่มีอยู่ประมาณ 4 หมื่นไร่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเมื่อกางแผนที่ เปิด Google Map แล้วมีพื้นที่ใช้ได้ไม่ถึงครึ่งจากที่บอก แต่ก็เหลือเฟือเพียงพอที่จะสร้าง "บ้านเพื่อคนไทย"
 

ที่มาชื่อ"บ้านเพื่อคนไทย"

อันดับแรกคือการตั้งชื่อโครงการดังกล่าวก่อน ว่าควรจะใช้ชื่อว่าอะไร มีคนเสนอว่า "บ้านเพื่อประชาชน"ดีไหม แต่ก็แซวๆขึ้นมาอย่าเอาบ้านเพื่อไทยแล้ว สุดท้ายคุณทักษิณ บอกว่างั้นเอาชื่อ "บ้านเพื่อคนไทย" ทุกคนก็สนับสนุนชื่อนี้ จบด้วยชื่อ"บ้านเพื่อคนไทย"

เปิดทำเลที่ตั้ง "บ้านเพื่อคนไทย" 

เมื่อได้ชื่อมาแล้วจากนั้นก็มาคิดกันต่อ ถึงทำเลที่ตั้งในการก่อสร้าง บ้านเพื่อคนไทย จะออกแบบที่ไหน และไม่ให้กระทบต่องบประมาณ อีกประมาณการก่อสร้างโครงการ ในปัจจุบันก็ต้องมีการศึกษา EIA ใช้เวลา เกือบ1ปี กว่าจะได้สร้าง ตรงนี้จะทำอย่างไร

ในที่สุดเมื่อเอาโจทย์เหล่านี้ไป คลี่ที่ละปม และได้ไอเดียที่จะนำร่อง จากพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ที่ถูกทิ้งร่างว่างเปล่า  หลายพื้นที่ก็อยู่ในโซนสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และยังเป็นพื้นที่มีครอบครัวพนักงานการรถไฟอาศัยอยู่เพื่อจะได้พัฒนายกระดับการอยู่อาศัยผ่านโครงการนี้ไปในคราวเดียวกัน

ซึ่งการรถไฟฯ จะมีบริษัทลูกบริหารสินทรัพย์ หรือ เอสอาร์ที แอสเสท ( SRTA ) ในการเข้ามารับผิดชอบ เปิดให้ผู้รับเหมาเข้ามาประมูลโครงการก่อสร้าง ซึ่งทั้งหมดก็จะทำให้ การรถไฟไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นในตัวเองอีกด้วย

สำหรับ 4 จุดนำร่อง

1 กรุงเทพอภิวัฒน์ (บางซื่อ กม11)

เนื้อที่ 15 ไร่ เป็นคอนโดฯ 12 ชั้น มี 3 อาคาร จำนวน 1,080 ยูนิต 

ทำเลสำคัญ 

- อยู่ในซอยวิภาวดี 11 ติด ถ.กำแพงเพชร 
- ห่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กม.
- ห่างเซ็นทรัลลาดพร้าว 500 เมตร
- ห่าง MRT พหลโยธน 500 เมตร
 

2 เชียงราก จ.ปทุมธานี

เนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ เป็นอาคารชุด 1,795 ห้อง (ราคา 1.34 ล้านบาท)

ทำเลสำคัญ 

- ใกล้ ถ.เลียบคลองเปรมประชากร
- ห่างสถานีรถไฟฟ้าเชียงราก 4.4 กม.
- ห่าง ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต 4.4 กม.
- ห่าง ม. กรุงเทพ 9 กม.

3 พื้นที่ธนบุรี

เนื้อที่ 23 ไร่ อาคารชุด 2,100 ห้อง 

ทำเลสำคัญ 

- ใกล้ รพ.ศิริราช 
- อยู่ตรงข้ามตลาดศาลาน้ำร้อน
- ติดแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีส้ม ประมาณ 800 เมตร (กำลังจะสร้างในอนาคต)

4 จ.เชียงใหม่ 

เนื้อที่กว่า 7 ไร่ อาคารชุด 720 ยูนิต ราคา 1.5 ล้านบาท

ทำเลสำคัญ 

- ติดสถานีรถไฟเชียงใหม่
- อยู่บน ถนน เจริญเมือง
- ห่างจาก รร.ปริ๊นส์ฯ 2.5 กม.
- ห่างจาก ม.เชียงใหม่ 7.5 กม.
- ห่าวจาก ถนน ซุเปอร์ไฮเวย์ 1.30 กม.

ฉะนั้น 4 จุด ที่เปิดให้จองสิทธิ์นั้น ล้วนเป็นพื้นที่การรถไฟ รวมถึงที่เชียงใหม่ด้วย

เปิดราคาบ้าน"เพื่อคนไทย" ราคาแพงสุด 1.5 ล้าน

บ้านเพื่อคนไทย จะประเดิมในพื้นที่ทำเลทอง รฟท เป็นคอนโดมิเนียม 3 ตึก จำนวน 1,080 ยูนิต  ห้องใหญ่สุดพื้นที่ 30 ตารางเมตร ราคาแพงสุดคือ 1.5 ล้านบาท

สำหรับคุณสมบัติของผู้ซื้อสิทธิบ้านเพื่อคนไทย

1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย

2.เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน

3  เป็นผู้ที่มีรายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาท/เดือน

4. ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยทุกประเภท

5.ไม่เคยได้สิทธิ ในโครงการบ้านเพื่อคนไทย

และวันนี้ (17 ม.ค.68) เป็นวันแรกของการจองสิทธิ์ หลายคนอาจทราบ 4 จุดสำคัญไปแล้ว และเมื่อลงลึกว่า ทำเลที่ตั้งจริงๆแล้วมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

เรื่องนี้แหล่งข่าวระดับสูงเสริมว่า หนึ่งในนั้นคือ พื้นที่ 45 ไร่ รฟท. (บริเวณสวนรถไฟทางฝั่งเชื่อมต่อ ถ.วิภาวดี และกำแพงเพชร) โดยจะประเดิมทำคอนโด 12 ชั้น 1,080 ยูนิต ( 3 อาคาร) เฟสแรก อยู่ในพื้นที่ 3-5ไร่ของ จำนวน 45 ไร่ดังกล่าว

อาคารคอนโดที่จะสร้างขึ้นหลังทราบจำนวนการจองสิทธิ์นั้น จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และเป็นบ้าน Smart Home ภายใต้พิ้นที่ ห้องกว้าง 30 ตรม.พูดง่ายๆหากจองได้และทำสัญญาผ่านแล้ว คุณมาแต่ตัวที่เหลือโครงมีให้เกือบครบไม่ว่าจะเป็น แอร์ 2 ตัว, ตู้เสื้อผ้า,เตียงนอน ตู้เย็น โทรทัศน์ 40 นิ้ว และไฮไลท์ก็คือ สุขภัณฑ์ใช้ระบบไฟฟ้า และมีระบบความปลอดภัยผ่านระบบเอไอ

ทุกอย่างต้องจับฉลากเพื่อความเท่าเทียม

สำหรับผู้จองสิทธิ์บ้านเพื่อคนไทย เมื่อผ่านกระบวนการจองสิทธิ์เข้าเงื่อนไขกันแล้ว ก็จะต้องผ่านกระบวนการจับสลากทุกคน เพื่อความเท่าเทียม !

ต่อให้คุณได้สิทธิ์จองคนแรก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้เลือกบ้าน เลือกทำเล หรือเลือกห้องสวยๆวิวดีๆก่อน แต่ผู้ที่จองผ่านทุกคนจะต้องไปทำการจับสลากเพื่อเลือกห้อง ซึ่งสถานที่ที่จะจัดการจับสลากก็คือที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกคน

สัญญายาว 99 ปี 

ทราบกันไปแล้วว่าพื้นที่ของบ้านเพื่อคนไทยยืนอยู่บนพื้นที่ของการรถไฟฯ สำหรับสัญญาของการซื้อขายนี้ยาว 99 ปี และเอกสารสัญญาคือ "ทรัพย์อิงสิทธิ์" นั่นหมายความว่าห้อง หรือบ้านเพื่อคนไทยสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับทายาทได้ หากเจ้าของเกิดเสียชีวิตหลังการซื้อขายแล้ว

ขั้นตอนการจองบ้านเพื่อคนไทย

• ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th
• กรอกหมายเลขบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์
• ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
• ผู้ผ่านการตรวจสอบจะเข้าสู่กระบวนการจับสลาก
• ผู้ได้รับสิทธิต้องแจ้งความประสงค์ในเวลาที่กำหนด

เปิดจองวันนี้ 17 ธ.ค. 68 ผ่าน www.บ้านเพื่อคนไทย.th