รถยนต์ไฟฟ้า EV โต 700% เผยยอดจดทะเบียนปี 66 เกิน 76,366 คัน
เปิดสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า EV ปี 2566 มากเกิน 76,366 คัน คิดเป็น 700% จากปี 2565 ขณะที่แนวโน้มคนไทยหันไปใช้รถพลังงานไฟฟ้ามีมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านเอกชนปรับกลยุทธ์รับมาตรการ EV 3.5 จากภาครัฐฯ
สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย Electric Vehicle Association of Thailand - EVAT สรุปสถานการณ์ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 พบว่าในปี 2566 รถยนต์ไฟฟ้า BEV มียอดจดทะเบียนจำนวน 76,366 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 9,678 คัน ขณะที่ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า BEV รวมทุกประเภท ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 มีการจดทะเบียนใหม่ทั้งสิ้น 100,219 คัน เติบโต 380% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 20,816 คัน ทั้งนี้สามารถตรวจสอบยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆได้ดังต่อไปนี้
ประเภทยานยนต์ไฟฟ้า BEV ในการจดทะเบียนใหม่ในปี 2566
รถยนต์ไฟฟ้า BEV จำนวน 76,366 คัน
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า BEV จำนวน 21,927 คัน
รถโดยสารไฟฟ้า BEV จำนวน 1,218 คัน
รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า BEV จำนวน 432 คัน
รถบรรทุกไฟฟ้า BEV จำนวน 276 คัน
ยอดจดทะเบียนสะสม ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า BEV มียอดเพิ่มขึ้นจาก 32,081 คัน ในปี 2565 เป็น 131,856 คัน ในปี 2566 เติบโต 311 % โดยยอดสะสมในกลุ่มนี้เติบโตในทุกประเภท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
รถยนต์ไฟฟ้า BEV เติบโต 552 %
ปี 2565 ยอดจดทะเบียนสะสม 13,805 คัน
ปี 2566 ยอดจดทะเบียนสะสม 90,022 คัน
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า BEV เติบโต 131 %
ปี 2565 ยอดจดทะเบียนสะสม 16,540 คัน
ปี 2566 ยอดจดทะเบียนสะสม 38,211 คัน
รถโดยสารไฟฟ้า BEVเติบโต 99 %
ปี 2565 ยอดจดทะเบียนสะสม 1,212 คัน
ปี 2565 ยอดจดทะเบียนสะสม 2,419 คัน
รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า BEV เติบโต 80 %
ปี 2565 ยอดจดทะเบียนสะสม 498 คัน
ปี 2565 ยอดจดทะเบียนสะสม 901 คัน
รถบรรทุกไฟฟ้า BEV เติบโต 1,065 %
ปี 2565 ยอดจดทะเบียนสะสม 26 คัน
ปี 2565 ยอดจดทะเบียนสะสม 303 คัน
ค่ายรถยนต์แบรนด์จีนแห่รับสิทธิมาตรการ EV 3.5
แนวโน้มตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2567 โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า BEV มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดค่ายรถยนต์จากจีนอย่าง ฉางอาน,เอสเอไอซี และ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงการรับสิทธิตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 กับกรมสรรพสามิต
ปี 66 ยอดโต 700 % ทำเอกชนเชื่อมั่นมาตรการรัฐฯ
ด้านนายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปี 2567 นี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะขยายตัวและเติบโตอย่างเห็นได้ชัด จากการที่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยเฉพาะแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนที่เล็งเห็นโอกาสในตลาดยานยนต์ไทย และเข้ามาลงทุนก่อตั้งโรงงานเพื่อเพิ่มสายการผลิตในประเทศไทย รวมถึงยกให้ประเทศไทยขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาค
"เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพิ่งเปิดตัว New GWM ORA Good Cat จากสายการผลิตภายในประเทศที่โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ที่จังหวัดระยอง และจะส่งมอบลูกค้าคนไทยภายในเดือนมกราคม 2567 ภายใต้นโยบายสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าตามมาตรการ ZEV 3.0 ของรัฐบาล ซึ่งเรายืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมตัวเลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าทั้งรถยนต์แบบแบตเตอรี่ ไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด รวมถึงยกระดับการบริการต่าง ๆ ”
นายณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับนิด้าโพลเพื่อสำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมคนไทยที่มีต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและพบว่าแนวโน้มการเปิดรับรถยนต์ไฟฟ้าของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นจากการเติบโตของยอดขายและยอดจดทะเบียนของรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2566 ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 700% จากปี 2565 ที่ผ่านมา อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ การเข้ามาของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยเฉพาะจากประเทศจีน
อนึ่ง ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างต้องร่วมมือกันในการผลักดันการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องผ่านนโยบายและสิทธิพิเศษต่าง ๆ การขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน การทำงานร่วมกันเกี่ยวกับข้อกังวลต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัยที่สามารถวิ่งได้ระยะทางมากขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ รวมถึงการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าและส่วนประกอบสำคัญอย่างเช่น แบตเตอรี่ ให้มากยิ่งขึ้น