"ชัชชาติ" ชี้ลมจากอีสานพัดฝุ่นเข้ากรุง เผยกทม. ลดจุดเผาเหลือ 83%
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยสาเหตุค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น เกิดจากอากาศปิด ลมมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะพาฝุ่นที่เกิดจากการเผาเข้าสู่กทม.โดยตรง เชื่อไม่เกิน 2 วันจากนี้จะดีขึ้น ส่วนภาพรวมในกทม. ลดจุดเผาต้นกำเนิด PM2.5 เหลือ 1 จุด ลดลง 83% จากปี 66
จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ของวันนี้ (25 ม.ค.67) ที่เข้าขั้นวิกฤติ มีถึง 68 พื้นที่ ที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานและเป็นพื้นที่สีแดง ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงภาพรวมฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครว่า เกิดจากลมที่พัดฝุ่นจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาเข้ากรุง เชื่ออีกไม่เกิน 2 วันจากนี้จะดีขึ้น
"จะเห็นว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพอากาศปิด และหากดูจริงๆ แล้วจะเห็นว่ามีจุดเผาเพิ่มขึ้น พบจุดความร้อนเผาภาคกลางและภาคตะวันออก ปี 67 เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับ ปี 66 และจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ปี 67 เพิ่มขึ้น 49%" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว
"เมื่อเทียบกับ ปี 66 ซึ่งในกรุงเทพมหานครเราสามารถควบคุมจุดเผาได้ดีเหลือเพียง 1 จุด ลดลงมากถึง 83% นี่เป็นจุดหนึ่งที่สำคัญเพราะลมมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะพาฝุ่นที่เกิดจากการเผาเข้าสู่กทม. โดยตรง หากการระบายอากาศไม่ดีจะทำให้ฝุ่นอ้อยอิ่งอยู่ในกทม. แต่ 2 วันจากนี้จะเริ่มดีขึ้น เพราะการไหลเวียนของอากาศดีขึ้น สำหรับการแก้ปัญหาการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน เรามีการแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประสานงานกันต่อไป ขณะนี้เข้าใจว่าได้ประสานไปยังเลขาของอาเซียนแล้ว เพื่อให้แจ้งปัญหานี้และต้องเป็นความมือระหว่างประเทศ"
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครขอสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 เวลา 08.00-10.00 น. (วันที่ 24 ม.ค.67)
- ตรวจวัดได้ 37.3-82.1 มคก./ลบ.ม.
- ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 50.6 มคก./ลบ.ม.
- ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงเกินมาตรฐานจำนวน 68 พื้นที่ อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 1 พื้นที่ คือ 1.เขตหนองแขม
และอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 67 พื้นที่
- ตรวจวัดได้ 37.3-82.1 มคก./ลบ.ม.
- ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 50.6 มคก./ลบ.ม.
- ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลง เกินมาตรฐานจำนวน 68 พื้นที่
ข้อแนะนำสุขภาพ:
คุณภาพอากาศระดับสีแดง: มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทุกคน : งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก
ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์