Google รีแบรนด์ Bard ใหม่เป็น Gemini จุดเริ่มต้นของอนาคตแชทบอท
Google เตรียม รีแบรนด์ Bard ใหม่เป็น Gemini แชทบอท Generative AI ของ Google ที่กูเกิ้ล เคลมว่าเหนือกว่า ChatGPT ในหลายด้าน สะท้อนการเน้นโมเดลตัวใหม่เป็นความสำคัญลำดับแรก
การเปิดตัวของ Gemini โมเดล AI ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2566 ซึ่งทางกูเกิ้ลเคลมว่าเหนือกว่า ChatGPT แทบทุกด้าน ทั้งชุดข้อมูล ความรู้ ล่าสุด Google รีแบรนด์ Bard ใหม่ให้เป็น Gemini เป็นโมเดลตัวใหม่ที่กูเกิ้ลความสำคัญลำดับแรก
ซึ่งผู้ใช้งานจะได้เข้าถึงความสามารถของ AI ผู้ช่วย ทั้งช่วยร่างเมล เขียนเรียงความ ทำตาราง ซึ่ง Google จะค่อยๆ เพิ่มความสามารถใหม่ๆ เข้ามาในอนาคต
ซุนดาร์ พิชัย CEO ของ Alphabet และ Google เผยถึงการปรับเปลี่ยนไปสู่อนาคตว่านี่คือจุดเริ่มต้น ในการก้าวสู่ยุคแห่ง Gemini
ก้าวต่อไปของยุคแห่ง Gemini
ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ เราได้ลงทุนอย่างไม่หยุดยั้งในการนำ AI ไปใช้ในการพัฒนา Google Search และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นกับความก้าวหน้าในส่วนนี้ อย่างเช่น Search Generative Experience หรือ SGE ที่คุณสามารถทดลองใช้ได้ใน Google Labs และตอนนี้ AI ก็เป็นหัวใจสำคัญของ 2 ธุรกิจของเราที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว นั่นก็คือ Google Cloud และ Google Workspace รวมถึงบริการแบบสมัครสมาชิกยอดนิยมของเราอย่าง Google One ซึ่งกำลังจะมีสมาชิกทะลุ 100 ล้านรายในเร็วๆ นี้
เทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ
ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เราได้เดินหน้าสู่ก้าวสำคัญในภารกิจของเราเพื่อทำให้ AI มีประโยชน์มากขึ้นสำหรับทุกคนด้วยการเริ่มต้นยุคของ Gemini โดยเราได้สร้างความก้าวหน้าครั้งใหม่สำหรับเกณฑ์มาตรฐานในด้านต่างๆ ซึ่งครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ ทั้งนี้ Gemini กำลังพัฒนาสู่การเป็นมากกว่าแค่โมเดล AI โดยรองรับระบบนิเวศทั้งหมด ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกใช้ทุกวัน ไปจนถึง API และแพลตฟอร์มที่ช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์และธุรกิจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
Gemini Ultra 1.0 ซึ่งเป็นโมเดลที่มีขนาดใหญ่สุด เป็นโมเดลแรกที่สามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์ในการทดสอบ MMLU (Massive Multitask Language Understanding) เพื่อวัดประสิทธิภาพด้านความรู้รอบตัวและความสามารถในการแก้ปัญหา โดยครอบคลุม 57 วิชา ซึ่งรวมถึงคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ประวัติศาสตร์ กฎหมาย การแพทย์ และจริยธรรม
วันนี้ เรากำลังจะก้าวขึ้นไปอีกขั้น โดยการนำ Gemini Ultra มาใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราและเปิดให้ใช้งานทั่วโลก
ขอแนะนำ Gemini Advanced
Bard เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะได้สัมผัสกับโมเดล AI ที่มากความสามารถที่สุดของเราโดยตรง ดังนั้นเพื่อสะท้อนถึงเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นหัวใจหลักของ Bard นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป Bard จะเปลี่ยนเป็น Gemini โดยพร้อมให้บริการใน 40 ภาษาบนเว็บ และกำลังจะเปิดตัวในแอป Gemini ใหม่บน Android และในแอป Google บนอุปกรณ์ iOS
Bard เวอร์ชันที่ใช้ Gemini Ultra จะเรียกว่า Gemini Advanced ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ที่มีความสามารถมากยิ่งขึ้นในการให้เหตุผลเชิงตรรกะ การปฏิบัติตามวิธีการ การเขียนโค้ด และการทำงานร่วมกันในเชิงสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น Gemini Advanced สามารถเป็นครูสอนพิเศษส่วนตัวที่ปรับวิธีการสอนให้เหมาะกับสไตล์การเรียนรู้ของคุณ หรือเป็นพาร์ทเนอร์เชิงสร้างสรรค์ที่ช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์ด้านคอนเทนต์หรือจัดทำแผนธุรกิจ คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในโพสต์นี้
คุณสามารถเริ่มใช้ Gemini Advanced ได้ เพียงสมัครแพ็คเกจใหม่ Google One AI Premium ที่รวบรวมฟีเจอร์ AI ที่ดีที่สุดของ Google ไว้ในที่เดียว แพ็คเกจพรีเมียมนี้ต่อยอดมาจาก Google One ซึ่งเป็นบริการยอดนิยมที่ให้พื้นที่เก็บข้อมูลที่ใหญ่ขึ้นและฟีเจอร์พิเศษสำหรับสมาชิกโดยเฉพาะ
การนำความสามารถของ Gemini ผนวกในผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติม
เรากำลังจะเปิดตัวโมเดล Gemini ในผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนและธุรกิจต่างๆ ใช้เป็นประจำทุกวัน ซึ่งรวมถึง Google Workspace และ Google Cloud
Google Workspace: ปัจจุบันมีผู้คนมากกว่า 1 ล้านคนที่ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ฟีเจอร์ “Help me write” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ผ่าน Duet AI โดย Duet AI จะกลายเป็น Gemini สำหรับ Workspace และในเร็วๆ นี้ ผู้ที่สมัครแพ็คเกจ Google One AI Premium จะสามารถใช้ Gemini ได้ใน Gmail, Google Docs, Google Sheets, Google Slides และ Google Meet
Google Cloud: สำหรับลูกค้าของ Cloud ก็เช่นกัน Duet AI จะเปลี่ยนเป็น Gemini ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า Gemini จะช่วยให้บริษัทต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์เขียนโค้ดได้เร็วขึ้น และช่วยให้องค์กรต่างๆ ปกป้องตนเองจากการโจมตีทางไซเบอร์ พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน
สิ่งใหม่ๆ รออยู่ข้างหน้า
นักพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ พวกเขายังจะมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของ Gemini ด้วย ซึ่งนักพัฒนาซอฟต์แวร์และธุรกิจต่างๆ จำนวนหลายแสนรายได้นำโมเดล Gemini ไปต่อยอดแล้ว ในวันนี้เราได้พูดถึง Gemini Advanced และความสามารถใหม่ๆ กันไปแล้ว สัปดาห์หน้าเราจะมาอัปเดตรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และลูกค้าของ Google Cloud
การอัปเดตล่าสุดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิธีที่เราปลดล็อกนวัตกรรมอย่างกล้าหาญ ตลอดจนสร้างความก้าวหน้าและนำเทคโนโลยีนี้มาใช้อย่างมีความรับผิดชอบ และเรากำลังทำการฝึกโมเดล Gemini ของเราอย่างต่อเนื่อง โปรดติดตามอัปเดตใหม่ๆ ที่เราจะนำมาแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
ปัจจุบัน Google เปิดตัว Gemini Advanced เป็นเวอร์ชั่นเสียเงิน ที่มีความสามารถเข้าใจบริบทซับซ้อนมากกว่าตัวพื้นฐาน ใช้งานได้ในแอปพลิเคชั่นมือถือใหม่ Gemini ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน และใช้งานได้ในบริการต่างๆ บน Google Workspace ผ่านแพ็กเกจใหม่ Google One AI Premium Plan ราคาเดือนละ 19.99 ดอลลาร์ หรือเดือนละ 750 บาท
แอพฯ Geminiเวอร์ชั่นข้อมูลของไทยยังโหลดใช้งานไม่ได้ ต้องรอ Google พัฒนาอีกครั้ง