เซ็นทารา ขยาย ‘โคซี่’ ปักธง ‘ลาว’ แห่งแรกใน ตปท. ต่อยอด สู่ญี่ปุ่น-เวียดนาม

14 มิถุนายน 2567

โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ โดย Centara ปักหมุดนับหนึ่งที่ ลาว แห่งแรกในต่างประเทศ มั่นใจตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ พร้อมต่อยอด สู่ญี่ปุ่น-เวียดนาม

“โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ” โรงแรมโคซี่แห่งแรกในต่างประเทศอย่างเป็นทางการ โดยโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมไลฟ์สไตล์ ใจกลางเมือง เซ็กเมนต์ราคาประหยัด หนึ่งใน 6 แบรนด์โรงแรมภายใต้เครือ 'เซ็นทารา' เชนโรงแรมดังของกลุ่ม 'จิราธิวัฒน์' เปิดให้บริการเมื่อ 25 มี.ค. 2567 ถือเป็นโรงแรมโคซี่แห่งที่ 4 และแห่งแรกในต่างประเทศทั้งยังเป็นก้าวสำคัญของเครือเซ็นทารา นับหนึ่งปักธงโรงแรมแห่งแรกใน สปป.ลาว อีกด้วย!

โรงแรมโคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ มีห้องพักให้บริการทั้งหมด 95 ห้อง ด้วยตัวเลือกห้องพัก 3 ประเภท ห้องโคซี่ (COSI) , ห้องโคซี่ พลัส (COSI Plus) และห้องโคซี่ แฟมิลี่ (COSI Family) โดยมีขนาดห้องตั้งแต่ 18 ไปจนถึง 39 ตารางเมตร ซึ่งทุกห้องมาพร้อมเตียงขนาดใหญ่,  Wi-Fi ความเร็วสูง และช่องเสียบสำหรับเชื่อมต่อ USB หลายจุดภายในห้องพัก เหมาะทั้งสำหรับนักเดินทางอิสระ กลุ่มเพื่อน และครอบครัวที่มองหาประสบการณ์การเข้าพักใหม่ๆ สไตล์โคซี่ รวมทั้งเป็นโรงแรมรักษ์โลกด้วยการออกแบบอาคารให้ประหยัดพลังงาน 

ภายในโรงแรมนี้ยังมีสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า พื้นที่ส่วนกลาง “โซเชียล ฮับ” (Social Hub) สำหรับสังสรรค์พบปะผู้ร่วมเดินทาง และคาเฟ่ 247 ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแขกผู้เข้าพักจะได้รับเครดิตประจำวันสำหรับใช้แลกอาหารและเครื่องดื่มภายในโรงแรม

เซ็นทารา ขยาย ‘โคซี่’ ปักธง ‘ลาว’ แห่งแรกใน ตปท. ต่อยอด สู่ญี่ปุ่น-เวียดนาม
 

พศิน นพสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ เล่าว่า “นอกเหนือจากการเปิดโรงแรมแบรนด์โคซี่ที่ สปป.ลาว เป็นแห่งแรกในต่างประเทศแล้ว เครือเซ็นทารายังมีแผนเปิดโรงแรมโคซี่ในญี่ปุ่นและเวียดนามเพิ่มอีกด้วย”

"ที่ผ่านมาได้ผลตอบรับดีเกินคาดจากยอดจองเข้าพักราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวและติดต่อธุรกิจที่เมืองเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลังจากที่โรงแรมได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 15% ทั้งนี้ ยอดผู้จองเข้าพักส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบ Same Day Booking และยังเป็นฐานลูกค้าจากบัตร The One Card ในเครือของ Central ที่ทำการจองและเข้าพักในวันเดียวกัน"

เซ็นทารา ขยาย ‘โคซี่’ ปักธง ‘ลาว’ แห่งแรกใน ตปท. ต่อยอด สู่ญี่ปุ่น-เวียดนาม

ก่อนหน้านี้เปิดให้บริการโรงแรมโคซี่ในไทยแล้ว 3 แห่ง ลงในเมืองท่องเที่ยวหลัก ทั้งพัทยา สมุย ที่เครือเซ็นทาราเป็นเจ้าของเอง และอีกแห่งคือ กระบี่ ที่ไปรับบริหาร

โดยเจ้าของโรงแรมแห่งนี้คือ บริษัท เอเชีย ลงทุน พัฒนา และก่อสร้าง จำกัด หรือ “AIDC” (Asia Investment, Development and Construction Sole Co., Ltd.) เป็นกลุ่มทุนของลาว ใช้งบลงทุนพัฒนาโรงแรมนี้ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 220 ล้านบาท) โดยกลุ่ม AIDC ได้ว่าจ้างเครือเซ็นทาราบริหารโรงแรมอีก 2 แห่งใหม่ใน “หลวงพระบาง” ด้วย จำนวนห้องพักประมาณ 50 ห้องต่อแห่ง มีกำหนดเปิดให้บริการในอีก 2 ปีข้างหน้า
เซ็นทารา ขยาย ‘โคซี่’ ปักธง ‘ลาว’ แห่งแรกใน ตปท. ต่อยอด สู่ญี่ปุ่น-เวียดนาม

“โรงแรมโคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ ถือเป็นโรงแรมแห่งแรกของกลุ่ม AIDC ทางเจ้าของเลือกใช้แบรนด์โคซี่จากจุดขายความเป็นโรงแรมไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่ คาแรกเตอร์ของแบรนด์คือง่ายๆ สบายๆ มีโมเดลการบริหารเน้นควบคุมต้นทุน ตอบโจทย์การลงทุนโรงแรมในเวียงจันทน์ของกลุ่ม AIDC ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาโลเกชันโซนน้ำพุใจกลางกรุง ให้กลับมาเป็นแลนด์มาร์กดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย โดยโรงแรมเรามีหน้าที่ดูแลพื้นที่ จึงวางแผนจัดอีเวนต์ เช่น งานแสดงดนตรี เพื่อดึงคนมาใช้ชีวิต สร้างความคึกคักให้กับโซนน้ำพุมากขึ้น”

เซ็นทารา ขยาย ‘โคซี่’ ปักธง ‘ลาว’ แห่งแรกใน ตปท. ต่อยอด สู่ญี่ปุ่น-เวียดนาม

ท่ามกลางการแข่งขันของเหล่า “บิ๊กบอย” (Big Boy) หรือโรงแรมใหญ่ 4-5 ดาว ขนาด 100-200 ห้องพักจากเชนโรงแรมอินเตอร์ฯ ที่เข้ามาพัฒนาเตรียมเปิดโรงแรมใหม่ในเวียงจันทน์เพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ดับเบิลทรี เรดิสัน และอวานี ที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง นอกเหนือจากที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว 3-4 แห่ง เช่น แลนด์มาร์ก และคราวน์ พลาซ่า

ประเด็นนี้ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุเสริมว่า ตลาดใหญ่ให้เขาชนไป แต่โคซี่ เข้ามาเล่นตลาดห้องพัก “ราคาประหยัด” ซึ่งมีโอกาสเจาะลูกค้าจากสถานการณ์ตลาดโรงแรมในเวียงจันทน์ยังมีแบรนด์จากเชนต่างๆ ไม่มากนัก และแม้จะมีแบรนด์ไอบิส (Ibis) ในกลุ่มราคาประหยัดเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มองว่าชนกันโดยตรงนัก ขณะเดียวกันโรงแรมไอบิสที่นี่เปิดมาแล้ว 10 ปี นักเดินทางน่าจะอยากลองเข้าพักโรงแรมใหม่ๆ บ้าง

“ปัจจุบันโรงแรมแบรนด์ 5 ดาวของเชนต่างๆ ในเวียงจันทน์ขายห้องพักราคา 120-150 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน (ราว 5,500 บาท) แต่ต้นทุนค่อนข้างสูง ต่างจากโรงแรมแบรนด์โคซี่ ที่เน้นโมเดลคุมต้นทุน ทั้งการออกแบบอาคารให้ประหยัดพลังงาน รวมถึงการออกแบบบริการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ตั้งบนโลเกชันที่ดี เตียงดี ห้องน้ำสะอาด ไวไฟแรง หนุนความสามารถทำกำไรเบื้องต้นจากการบริหารได้ดี”

นอกจากนี้ เครือเซ็นทาราเข้ารับบริหารโรงแรมใหม่ใน “สะหวันนะเขต” อีก 1 แห่ง เจ้าของเป็นอีกบริษัท ทำให้ตอนนี้เครือเซ็นทาราเข้ารับบริหารโรงแรมใน สปป.ลาว แล้ว 4 แห่ง แบ่งเป็น เปิดให้บริการแล้ว 1 แห่ง และอยู่ระหว่างพัฒนา 3 แห่ง

ประจวบกับการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยวของ “สปป.ลาว” ที่รัฐบาลประกาศให้ปี 2567 เป็น “ปีแห่งการท่องเที่ยว” โดยรัฐบาลลาวประเมินว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน 2.72 ล้านคน ส่วนปี 2568 จะเพิ่มเป็น 2.95 ล้านคน และในปี 2569 จะเพิ่มเป็น 3.17 ล้านคน และคาดหวังว่านักท่องเที่ยวจะมาลาวมากกว่าเดิม ให้เทียบเท่ากับช่วงก่อนโควิด ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนมากที่สุดถึง 4.79 ล้านคน

เซ็นทารา ขยาย ‘โคซี่’ ปักธง ‘ลาว’ แห่งแรกใน ตปท. ต่อยอด สู่ญี่ปุ่น-เวียดนาม
 

Thailand Web Stat