posttoday

TACT จับมือพันธมิตรระดับโลก พัฒนาระบบ Clouds และ Data Center ในประเทศไทย

17 กรกฎาคม 2567

THAI AI CLOUD TECH CO., LTD. (TACT) ลงนามบันทึกความร่วมมือ "Thailand Clouds and Data Center Projects” และ "Thailand AI Super Computing Data Center Project" กับบริษัทพันธมิตรยักษ์ใหญ่ระดับโลก โดยใช้ระบบเครือข่ายสัญญาณ Broadband ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 TACT ได้ประกาศการลงทุนในโครงการ Thailand Clouds and Data Center และโครงการ Thailand AI Super Computing Data Center ที่กรุงเทพฯ โดยร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีระดับโลก และได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือหลายฉบับกับพันธมิตรในกลุ่ม เพื่อนำความเชี่ยวชาญและโซลูชั่นต่าง ๆ มาพัฒนาโครงการเหล่านี้  ซึ่งเป็นการลงทุนใหญ่ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบ Clouds และ Data Center ในประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาโครงการปัญญาประดิษฐ์ของไทยหรือ AI ให้อยู่ในระดับโลก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิดิจิทัลเพื่อเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยี ทางด้าน Clouds, Data Center และ AI ของประเทศไทยให้เป็นผู้นำในอาเซียน

 

สำหรับ Thailand Clouds and Data Center Projects มีการร่วมมือกันกับพันธมิตรได้แก่

- TACT, NT และ Alibaba Cloud (Thailand) Limited

- TACT, NT และ Tencent (Thailand) Co., Ltd.

- TACT, NT และ ZTE (Thailand) Company Limited

- TACT, NT และ Digital China Technology International (Sin) Pte Ltd.

สำหรับ Thailand AI Super Computing Data Center Project มีการร่วมมือกันกับพันธมิตรได้แก่

- TACT, NT และ ZTE (Thailand) Company Limited

- TACT, NT และ Digital China Technology International (Sin) Pte Ltd.

- TACT, NT และ Sensetime International PTE. Ltd.

TACT จับมือพันธมิตรระดับโลก พัฒนาระบบ Clouds และ Data Center ในประเทศไทย

ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการผสมผสานข้อได้เปรียบทางเทคนิคของทุกฝ่ายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาด้าน Clouds, Data Center และโซลูชั่น AI ในประเทศไทย และสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมทางดิจิทัลและนวัตกรรมทางเทคในโลยีในประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลในระบบ Clouds และ Data Center ที่ปลอดภัยสูง เชื่อถือได้ โดยให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพแก่ภาครัฐ และภาคเอกชน

การพัฒนาระบบ Clouds, Data Center และระบบ AI จะพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงพัฒนาต่อยอดขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาสมัยใหม่ ซึ่งมีความสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรยังสามารถเสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ และส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งจะนำผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม มาสู่ประเทศไทยมากขึ้น