สงครามราคาเดือด ! NETA V-II / NETA V หั่นราคาสูงสุด 120,000 บาท
NETA V-II ปรับลดราคาจำหน่าย 110,000 - 120,000 บาท เหลือเริ่มต้นเพียง 429,000 บาท ส่วน NETA V รุ่นแรกเหลือเพียง 409,000 บาท ตัวท็อปสุดเหลือแค่ 459,000 บาท ตอกย้ำสงครามราคา EV ที่แข่งเดือดมาตั้งแต่ต้นปี 67
หลังจากที่ NETA ประกาศเปิดตัว เอสยูวีไฟฟ้า NETA X เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 67 ก็มีการปรับลดราคาจำหน่ายของ NETA V-II และ NETA V ต่อทันที
NETA V-II Lite ราคา 429,000 บาท (ราคาปกติ 549,000 บาท)
NETA V-II Smart ราคา 459,000 บาท (ราคาปกติ 569,000 บาท)
NETA V ราคา 409,000 บาท (ราคาปกติ 499,000 บาท)
NETA V-II ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ที่ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 382 กม. ต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)
ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12 นิ้ว ติดตั้งระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และกุญแจสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go พร้อมขับขี่ได้ทันทีที่เปิดประตูรถ รวมถึงมีฟังก์ชันจ่ายไฟ V2L (Vehicle to Load) กำลังไฟสูงสุด 3,300 วัตต์
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานของ NETA V-II ทั้ง 2 รุ่นย่อย ได้แก่ ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Vehicle Hold, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมการทรงตัว ESC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
รุ่น SMART ถูกเพิ่มเติมระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS รวม 8 ระบบ ได้แก่ ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ รวมไปถึงระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
เปิดสงครามราคา EV เดือดตั้งแต่ต้นปี 67
การลดราคาของ NETA ทำให้ตลาดยานยนต์ EV ยังคงแข่งกันอย่างดุเดือดต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ รถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย BYD ที่เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังจากประเทศจีนได้ประกาศลดราคาถล่มทลายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ATTO 3 ทุกรุ่น โดยการลดราคานี้มีตั้งแต่ 90,000 บาท ไปจนถึง 340,000 บาท
ขณะเดียวกัน ในจีนก็เกิดสงครามราคานี้มาจตั้งแต่ช่วงต้นปี แบรนด์รถ EV อย่าง Changanqiyuan หรือ SAIC-GM-Wuling หรือแม้แต่ NETA Automobile ก็ทยอย ปรับลดราคาไปก่อนหน้านี้แล้ว จากที่สังเกตุพบว่า การปรับลดราคาครั้งนี้มุ่งเน้นรถยนต์ EV เป็นหลัก ซึ่งมีการลดราคาตั้งแต่ร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 15 หรือคิดเป็นมูลค่าหลักพันจนถึงหมื่นหยวน ปรับลดสูงสุดอยู่ที่ 4.7 หมื่นหยวน
นายหวางตู ผู้ช่วยประธานสมาคมผู้จำหน่ายรถยนต์แห่งชาติจีนกล่าวว่า ประเภทรถยนต์ที่ลดราคาครั้งนี้คือรถยนต์ EV เป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทผลิตรถยนต์ EV ของประเทศมีความแข็งแกร่ง มีการพัฒนาเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และมีกำลังการผลิตสูง รวมทั้งมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง เช่น ราคาลิเธียมคาร์บอเนตจากราคา 6 แสนหยวนต่อตันเมื่อ 2 ปีก่อน ล่าสุดราคาลดลงเหลือน้อยกว่า 1 แสนหยวนต่อตัน กล่าวได้ว่ารถยนต์ EV ในขณะนี้มีความพร้อมแข่งขันกับรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง(รถยนต์สันดาป) โดยตรงผ่านการลดราคา และนี่คือเหตุผลหลักต่อการลดราคาในครั้งนี้
ปัจจุบันบริษัทรถยนต์ EV หลายแห่งกำลังปรับลดราคาและใช้สโลแกนว่า“รถยนต์ไฟฟ้าถูกกว่ารถยนต์เบนซิน”เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ EV จากมุมมองการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนโดยรวม ตลาดรถยนต์ในประเทศได้เข้าสู่ขั้นตอนที่รถยนต์ EV กำลังเร่งการทดแทนรถยนต์เชื้อเพลิงอย่างรวดเร็ว