posttoday

นายทุนรุกป่า ประชาชนรับกรรม "น้ำท่วมซ้ำซาก" กฎหมายป่าไม้คุ้มครองใคร?

26 สิงหาคม 2567

ว่าด้วยเรื่องกฎหมาย ป่าไม้ และน้ำท่วมซ้ำซาก ช่องโหว่ทางกฎหมายที่เข้มงวดกับประชาชนแต่ผ่อนปรนกับนายทุน? ภัยพิบัติจากธรรมชาติ หรือผลพวงจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาด?

ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดน้ำท่วม ทั้งจากสภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึงและสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ที่มักมีฝนตกชุก ซึ่งนอกเหนือจากสิ่งประดิษฐ์และเทคโนโลยีช่วยป้องกันอุทกภัยแล้ว ป่าไม้และระบบนิเวศธรรมชาติถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงและผลกระทบจากน้ำท่วม 

นายทุนรุกป่า ประชาชนรับกรรม \"น้ำท่วมซ้ำซาก\" กฎหมายป่าไม้คุ้มครองใคร?

ป่าไม้ช่วยลดความเสี่ยงน้ำท่วมได้อย่างไร?

  • ชะลอการไหลของน้ำ

ป่าไม้ช่วยชะลอการไหลของน้ำฝนลงสู่แม่น้ำลำธาร โดยรากของต้นไม้และพืชพรรณต่างๆ ช่วยดูดซับน้ำและกักเก็บไว้ในดิน ทำให้น้ำค่อยๆ ซึมลงสู่ชั้นใต้ดินและปล่อยออกมาอย่างช้าๆ ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลบ่าลงสู่พื้นที่ราบลุ่ม

  • ป้องกันการพังทลายของดิน

รากของต้นไม้ช่วยยึดเกาะดินไว้ ป้องกันการกัดเซาะและพังทลายของดินในช่วงที่มีฝนตกหนัก ช่วยลดปริมาณตะกอนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำ 

  • เพิ่มความสามารถในการดูดซับน้ำของดิน

ป่าไม้ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ทำให้ดินมีความสามารถในการอุ้มน้ำและดูดซับน้ำได้ดีขึ้น ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลบ่าบนผิวดิน

  • รักษาสมดุลของระบบนิเวศ

ป่าไม้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชหลากหลายชนิด ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมปริมาณน้ำในธรรมชาติ

  • ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ป่าไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมบ่อยครั้งขึ้น

นายทุนรุกป่า ประชาชนรับกรรม \"น้ำท่วมซ้ำซาก\" กฎหมายป่าไม้คุ้มครองใคร?

สถานการณ์พื้นที่ป่าไม้ในไทย 2567

ข้อมูลจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เผยว่าในช่วงปี 2566-2567 พื้นที่ป่าไม้ในประเทศไทยลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี พื้นที่ป่าไม้ของไทยหายไปกว่า 317,819 ไร่ ทำให้ปัจจุบันเหลือพื้นที่ป่าไม้เพียง 31.47% ของประเทศ หรือประมาณ 101,818,155 ไร่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพอย่างรุนแรง และแม้จะมีการฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นแต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยปริมาณที่สูญเสียไป

ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ส่งผลให้พื้นที่ป่าไม้ที่ลดลงมาจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Land Use Change) จากพื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่าไปเป็นพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ชุมชนหรือสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงสถานการณ์ไฟป่าที่มีความรุนแรงขึ้น (Forest Fire)

นายทุนรุกป่า ประชาชนรับกรรม \"น้ำท่วมซ้ำซาก\" กฎหมายป่าไม้คุ้มครองใคร?

น้ำท่วมซ้ำซาก ผลพวงจากความล้มเหลวในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองพื้นที่ป่า?

ประเทศไทยมีทรัพยากรป่าไม้ที่สำคัญต่อระบบนิเวศและความเป็นอยู่ของประชาชน กฎหมายคุ้มครองพื้นที่ป่าจึงถูกบัญญัติขึ้นเพื่อรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่านี้ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องมากมาย แต่ปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายและช่องโหว่ในระบบกฎหมายที่มีอยู่

ประเทศไทยมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองพื้นที่ป่า เช่น พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักในการบริหารจัดการป่าไม้ กำหนดเขตป่าสงวนแห่งชาติ และห้ามมิให้บุคคลใดเข้าไปกระทำการใด ๆ ในเขตป่าสงวนฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ว่าด้วยการห้ามการยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่า โดยห้ามทำไม้หวงห้ามหรือเก็บหาของป่าหวงห้ามตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ทั้งนี้กฎหมายยังกำหนดการควบคุมถึงไม้และของป่าที่ไม่หวงห้ามด้วย

นายทุนรุกป่า ประชาชนรับกรรม \"น้ำท่วมซ้ำซาก\" กฎหมายป่าไม้คุ้มครองใคร?

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องมากมาย แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดและความท้าทายในการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงช่องโหว่ในกฎหมายที่เปิดโอกาสให้เกิดการบุกรุกทำลายป่าไม้ได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ 

  • นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนบางครั้งขัดแย้งกับเป้าหมายการอนุรักษ์พื้นที่ป่า
  • หน่วยงานที่รับผิดชอบขาดแคลนบุคลากรและงบประมาณในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความซับซ้อนของกฎหมายและการทับซ้อนของอำนาจหน้าที่
  • การกำหนดแนวเขตพื้นที่ป่าในบางพื้นที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างรัฐกับที่ดินทำกินของประชาชน
  • การบังคับใช้บทลงโทษยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ โดยเฉพาะกับผู้มีอิทธิพลหรือนายทุนรายใหญ่
  • ความยากในการพิสูจน์สิทธิในการครอบครองพื้นที่ป่า
  • ขั้นตอนการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่ายังมีความยืดหยุ่น ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงข้อกำหนดทางกฎหมายได้

ปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้ในไทยอาจสะท้อนได้ถึงความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยกลุ่มนายทุนใหญ่อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายและอำนาจที่มีอยู่เพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ ทำให้เกิดวงจรของปัญหาสิ่งแวดล้อม และจากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันคงเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่า พื้นที่ป่าซับน้ำของไทยเหลือน้อยอยู่เต็มที

ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือประชาชนที่ต้องเผชิญกับภัยน้ำท่วมซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแบกรับภาระจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นทุกปี