posttoday

ธุรกิจโรงแรมแนวโน้มดีขึ้น 60% รายได้สูงใกล้เคียงก่อนโควิด คาด ปี 68 ดีขึ้น

13 กันยายน 2567

ผลสํารวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรม เดือน สิงหาคม 2567 เผยโรงแรมประมาณ 60% มีรายได้รวมสูงกว่าหรือใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด19 ส่วนที่เหลือ 40% ยังฟื้นได้ช้าเนื่องจากปรับราคาห้องพักได้ยาก เพราะลูกค้ามีความอ่อนไหวต่อราคาและเผชิญกับการแข่งขันสูง

ผลสํารวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรม เดือน สิงหาคม 2567 เผยธุรกิจโรงแรมมีทิศทางดีขึ้นสะท้อนจากอัตราการเข้าพักเดือน ส.ค.67 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และ เดือนเดียวกันปีก่อน

นอกจากนี้โรงแรมประมาณ 60% มีรายได้รวมสูงกว่าหรือใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด19 แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป โดยเป็นผลจากการปรับขึ้นราคาห้องพักและจํานวนลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่โรงแรมอีก 40% ยังฟื้นตัวได้ช้า โดยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่คาดว่าจะกลับมามีรายได้เท่ากับช่วงปกติ Q2/2568 เนื่องจากปรับราคาห้องพักได้ยาก เพราะลูกค้ามีความอ่อนไหวต่อราคาและเผชิญกับการแข่งขันสูง
 

ธุรกิจโรงแรมแนวโน้มดีขึ้น 60% รายได้สูงใกล้เคียงก่อนโควิด คาด ปี 68 ดีขึ้น

นายเทียนประสิทธิ์  นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่าธุรกิจโรงแรมมันดูโตขึ้นก็จริงและกำลังจะกลับมา แต่ก็กลับมาบางเซคเตอร์เพราะยังมีหลายปัจจัยที่จะส่งให้โรงแรมโตได้มากกว่านี้อีก

"ก็กลับมาบางเซคเตอร์ล่ะครับ แต่บางส่วนก็ยังเหมือนเดิมก็คือพวก 3 ดาวยังไม่ขยับเท่าไหร่ แต่ภาพรวมคือเดือนกันยายนมีแนวโน้มว่าจะตกเหมือนปีที่แล้ว ส่วนปีนี้น่าจะกลับมาดีขึ้นได้ช่วงเดือน พ.ย. และ ธ.ค.ครับ" นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าวกับโพสต์ทูเดย์ 

"ตอนนี้สิ่งที่กังวลที่จะมากระทบเรื่องการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรม คือเรื่องน้ำท่วมว่าจะมีมาตรการป้องกันอะไรบ้างไหม เพราะเห็นว่ากำลังไปทางอิสานแล้ว คนที่จะเดินทางมาเที่ยวก็ต้องเช็กเส้นทางและตัดสินใจ ส่วนต่างชาติถ้าเกิดข่าวมันแรงมากมากบางทีเค้าก็ไม่รู้ว่าพื้นที่ไหนปลอดภัยก็จะมีผลต่อการจองที่พัก คือการจองของคนต่างชาติเดี๋ยวนี้มันจะเป็นการจองระยะสั้น แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนเค้าอาจจะจองล่วงหน้า ซึ่งเรื่องน้ำท่วมนี่น่าจะเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุด อย่างอื่นก็ไม่เท่าไหร่ครับ" 

ฝากถึงรัฐบาลเรื่องการช่วยการท่องเที่ยว

"โรงแรมที่มันผิดกฎหมายอะมันจํานวนน่ะมันเยอะนะครับเยอะกว่าจํานวนโรงแรมที่มันถูกกฎหมายตรงเนี้ยจริงจริงแล้วอยากให้ให้ภาครัฐ

"มันรู้เหมือนแก้ปัญหานะผมก็ไม่ได้ว่าพวกเค้าแบบมันจะผิดหรืออะไรเงี้ยแต่ว่าทําไงให้เค้าเข้ามาสู่ระบบที่ถูกต้องที่มันมีมาตรฐานเพราะว่าเราจําเป็นจะต้องพัฒนามาตรฐานของที่พักให้มันทัดเทียมหลายๆ ที่เพราะอย่างทางยุโรปเนี่ยมันเริ่มมีกฎหมายที่ที่จะต้องเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวหรือบริษัทนําเที่ยวว่าจะต้องมาพักในเอ่อโรงแรมที่ทําเรื่อง sustainabilityใช่มั้ยครับครับ ซึ่งตัว standard ทั้งโลกมันมี หากผ่านก็จะได้ใบอนุญาตโรงแรม"

ธุรกิจโรงแรมแนวโน้มดีขึ้น 60% รายได้สูงใกล้เคียงก่อนโควิด คาด ปี 68 ดีขึ้น
 

"อย่างพวก 3 ดาวลงมา น่าเห็นใจพวกเขาต้องไปอยู่ในสงครามราคากับผู้ที่ไม่ควรจะต้องไปแข่งด้วย พอมาเจอโรงแรมที่ไม่มีใบประกอบที่ถูกกฎหมายและราคาของโรงแรมที่มีใบอนุญาตมันสู้ไม่ได้ พวกเขาก็จะไปไม่เป็น" 

มองทิศทางโรงแรมปี 2568 

"ผมมองว่าอาจจเท่ากับปีนี้ (2567) หรืออาจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะว่าถ้าเราดูต้นปีจนถึงช่วงปลายปีจํานวนเที่ยวบินช่วงปลายปี ก็เยอะขึ้นกว่าช่วงต้นปีครับ"

"สายการบินเรียกว่าฟื้นกลับมาเกือบจะหมดแล้ว ประกอบกับทาง ททท.และกระทรวงต่างประเทศช่วยให้เกิดเส้นทางใหม่ๆขึ้นมา ทำให้ประเทศที่ไม่เคยมาก็บินเข้าไทยมากขึ้น" 

"อุตสากรรมท่องเที่ยวมันมีช่วง  low season กับ high season เรารู้อยู่แล้วว่าเดือนไหนมันจะ low season ถ้าถามก็อยากให้ทางภาครัฐเริ่มคิดแผนว่าหากเจอช่วง low season ปีหน้าทํายังไงหรือจะกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศในประเทศของปีหน้ายังไง ไม่อยากให้ใกล้ถึงแล้วค่อยมาคิดแคมเปญอีกที" 

สำหรับข้อมูลผลสำรวจเดือน ส.ค. 67 ที่ผ่านมา 

ธุรกิจโรงแรมแนวโน้มดีขึ้น 60% รายได้สูงใกล้เคียงก่อนโควิด คาด ปี 68 ดีขึ้น

อัตราการเข้าพัก

เดือน ส.ค. อยู่ที่ 62% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและเดือนเดียวกันปีก่อน สําหรับคาดการณ์อัตราการเข้าพักเดือน ก.ย. 67 อยู่ที่ 50%

• ในภาพรวม เดือน ส.ค. 67 โรงแรมที่มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติมากกว่า 50% คิดเป็นกว่า 60% ของผู้ตอบ ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เข้าพักส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอเชียและตะวันออกลาง (ไม่รวมจีนและมาเลเซีย) จีน และยุโรปตะวันตก โดยส่วนใหญ่เข้าพักในโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป

ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน

ในเดือน ส.ค. 67 โรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาวส่วนใหญ่มีราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่น้อยกว่า 1,500 บาทขณะที่ราว 50% ของโรงแรมระดับ 4 ดาวมีราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 – 2,499 บาท สําหรับโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไปกว่า 40% มีราคาห้องพักเฉลี่ยสูงกว่า 5,000 บาท ทั้งนี้ หากพิจารณารายภูมิภาค พบว่าโรงแรมในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ส่วนใหญ่มีราคาห้องพักเฉลี่ยสูงกว่าภาคอื่น ขณะที่โรงแรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 40% มีราคาห้องพักตํ่ากว่า 1,000 บาท

ธุรกิจโรงแรมแนวโน้มดีขึ้น 60% รายได้สูงใกล้เคียงก่อนโควิด คาด ปี 68 ดีขึ้น

การจ้างงาน
เดือน ส.ค. 67 ในภาพรวมโรงแรมที่เผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานมีสัดส่วนใกล้เคียงกับเดือนก่อนโดยโรงแรมกว่า 40% ยังคงเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่กระทบเพียงคุณภาพการให้บริการ แต่ไม่กระทบความสามารถในการรองรับลูกค้า ทั้งนี้ โรงแรมในภาคกลางมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมากกว่าภาคอื่น

มาตรการช่วยเหลือที่ผู้ประกอบการต้องการจากภาครัฐ โรงแรมส่วนใหญ่ต้องการให้มี

1. มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย โดยเน้นกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยวและเที่ยวในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) กระตุ้นการท่องเที่ยวของลูกค้ากลุ่มประชุมและสัมมนามากขึ้น มีมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเพื่อเพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวในช่วง low season รวมถึงประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยให้กับลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

2. มาตรการช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่าย โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน ลดภาษีสิ่งปลูกสร้าง และมีมาตรการลดหย่อนภาษีให้กับธุรกิจโรงแรมเพิ่มเติม 

3. มาตรการด้านแรงงาน โดยมีหน่วยงานรัฐที่ช่วยจัดหาแรงงานสําหรับธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารโดยเฉพาะพนักงานที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม และพนักงาน front office นอกจากนี้ 

ผู้ประกอบการยังต้องการให้ภาครัฐช่วยจัดอบรมด้านภาษาให้กับแรงงานในธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ และจีน

4. มาตรการด้านการเงิน เช่น มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่าในการปรับปรุงที่พักแรม โดยเน้นช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลาง-เล็ก

5. มาตรการอื่น ๆ เช่น พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมให้ครอบคลุมและสะดวกในการเดินทางดูแลขยะ มลพิษทางอากาศและนํ้าในพื้นที่ท่องเที่ยว ตรวจสอบการขายห้องพักของกิจการที่ไม่ใช่โรงแรมอย่างจริงจัง ปราบปรามผู้ประกอบการต่างชาติที่เข้ามาทําธุรกิจผิดกฎหมายในไทยและส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

ประเด็นพิเศษ : คาดการณ์ช่วงเวลาที่รายได้รวมของธุรกิจโรงแรมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ(ก่อนโควิด-19)

• 60% ของธุรกิจโรงแรมมีรายได้รวมสูงกว่าหรือใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 โดยส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และตั้งอยู่ในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้

• โรงแรมที่มีรายได้สูงกว่าหรือใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 ส่วนใหญ่ (ทั้งโรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาวและโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป) มาจาก 1) การปรับราคาห้องพักให้สูงขึ้น เนื่องจากมีการปรับปรุงห้องพักและการให้บริการที่ดีขึ้น 2) มีลูกค้า/ยอดจองห้องพักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ 3) เน้นทําโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย

• ขณะที่โรงแรมอีก 40% ยังมีรายได้ตํ่ากว่าช่วงก่อนโควิด-19 และส่วนใหญ่คาดว่าจะกลับมาได้ในช่วงQ2/2568 นอกจากนี้ มีธุรกิจโรงแรม 7% ประเมินว่ารายได้จะไม่สามารถกลับสู่ระดับเดิมได้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาว
• สําหรับโรงแรมที่มีรายได้ตํ่ากว่าช่วงก่อนโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นผลจากลูกค้ามีความอ่อนไหวต่อการปรับราคา และการแข่งขันสูง จึงทําให้ปรับราคาห้องพักได้ยาก นอกจากนี้ โรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาวราว 20% ยังเผชิญกับลูกค้า/ยอดจองห้องพักที่ลดลง

สถานการณ์การท่องเที่ยวในเดือนสิงหาคม 2567 ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ผลจากกลยุทธ์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ดีความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนในการออกแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ปัจจัยที่สําคัญ นักท่องเที่ยวได้รับความเชื่อมั่นจากมาตรการยกเว้นวีซ่าและบัตร ตม.6 

ชะลอเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาชะลอการจัดเก็บ “ค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ” หรือเรียกว่า “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปีนับจากนี้ เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาโตเต็มที่ ขณะเดียวกันควรมีการ กําหนดวัตถุประสงค์ของ “กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย” อย่างชัดเจนด้วย ว่าจะนําเงินค่าเหยียบแผ่นดินที่จัดเก็บส่งเข้ากองทุนฯ ไปใช้พัฒนาด้านใดบ้าง รวมถึงพิจารณาขยายระยะเวลาดําเนิน “มาตรการยกเว้นวีซ่า” (วีซ่าฟรี) แก่ตลาดเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

สมาคมโรงแรมไทย มั่นใจว่า นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวการอํานวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่าเช่น กลุ่มผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ (MICE) และกลุ่มชาวต่างชาติที่ทํางานทางไกล (DigitalNomad) ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-madeDestinations) สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) นําคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว จะสามารถกระจายเม็ดเงินลงสู่ผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มขึ้น ทั้งนี้สิ่งสําคัญการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ สร้างระบบด้านความปลอดภัย
ความสะดวกสบายในการเดินทาง สามารถเข้าถึงจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ได้ง่ายขึ้น จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีเพิ่มความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวตลอดระยะเวลาที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย