รู้หรือไม่? ทำไม "เดนมาร์ก" เป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก
บทเรียนราคาแพงสำหรับคำว่า "คุณภาพชีวิตที่ดี"
รู้หรือไม่? ทำไมเดนมาร์กเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลก ตัวอย่างดีๆ ที่เราศึกษากันได้นานแล้ว (แต่ยังทำไม่ได้) เพราะถ้าทำได้เราอาจไม่ต้องย้ายประเทศหนีไปไหน หรืออาจไม่จำเป็นต้องส่งลูกหลานไปเรียนไกลๆ เพื่อให้ได้คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ใช้งบประมาณไปหลายล้านบาทต่อปีแลกกับระบบการศึกษาชั้นดีของประเทศพัฒนาแล้วเพื่อกลับมาทำสิ่งเดิมๆ ในระบบ “ฐานราก” ที่แก้ไขได้ยากยิ่งติดอันดับต้นๆ ของโลกทั้งการคอรัปชัน ปัญหาการศึกษาและการพัฒนาในด้านอื่นๆ
9 ตัวชี้วัดคุณภาพชีวิต
U.S. News and World Report ร่วมกับ WPP บริษัทด้านการตลาดและการสื่อสารระดับโลก และ Wharton School แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ทำการสำรวจผู้คนเกือบ 17,000 คนทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 23 พฤษภาคม 2024 ใน 89 ประเทศที่มีชื่ออยู่ในรายการสำรวจ จัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลกโดยพิจารณาจากคุณภาพชีวิตใน 9 เกณฑ์ชี้วัดคือ
ค่าครองชีพที่เหมาะสม (Affordable)
ตลาดแรงงานดี (Good job market)
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ (Economically stable)
เหมาะสำหรับการมีครอบครัว (Family-friendly)
ความเท่าเทียมกันของรายได้ (Income equality)
เสถียรภาพทางการเมือง (Politically stable)
ความปลอดภัย (Safe)
ระบบการศึกษาของรัฐบาลที่ได้รับการพัฒนาดี (Well-developed public education system)
ระบบสาธารณสุขที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี (Well-developed public health system)
จากการสำรวจในรายการทั้ง 9 ข้อนี้พบว่า เดนมาร์กเป็นประเทศอันดับ 1 ด้านคุณภาพชีวิตที่ดีสุดๆ ในปี 2567 เหนือสวีเดนที่ตกไปอยู่อันดับ 2 เป็นประเทศในแถบสแกนดิเนเวียเช่นกัน อีกประเทศคือนอร์เวย์ที่ปีนี้อยู่ในอันดับ 4 (เดนมาร์กขึ้นมาจากอันดับที่ 4 ในปี 2566)
แม้ว่าผู้คนในเดนมาร์กจะจ่ายภาษีที่สูงที่สุดในโลก — มากถึงครึ่งหนึ่งของรายได้ — แต่เรื่องนี้ชดเชยได้จากความจริงที่ว่า การรักษาพยาบาลส่วนใหญ่ในประเทศนั้นฟรี เด็กๆ ได้รับเงินอุดหนุนเป็นค่าเลี้ยงดูจากรัฐ นักศึกษามหาวิทยาลัยไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน และยังได้รับเงินช่วยเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน ส่วนผู้สูงอายุได้รับเงินบำนาญและมีบริการการดูแลจากภาครัฐ
นอกจากนี้ เดนมาร์กยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศอันดับ 1 ที่ผู้ที่ย้ายถิ่นฐานมีความพึงพอใจในด้านอาชีพการงาน โอกาสในการทำงาน ความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน และอื่นๆ มากที่สุด จากผลสำรวจ Expat Insider ในเดือนกรกฎาคม 2024 โดย InterNations ซึ่งเป็นชุมชนออนไลน์ระดับโลกสำหรับผู้ที่ย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ
รายงานระบุว่า ชาวต่างชาติในเดนมาร์กประมาณ 84% พึงพอใจกับความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 60%
มากกว่านั้นเดนมาร์กยังติดอันดับประเทศที่มีความปลอดภัยสูง
ด้วยอัตราการเกิดอาชญากรรมโดยทั่วไปต่ำ หน่วยข่าวกรองด้านเศรษฐศาสตร์ได้กำหนดให้โคเปนเฮเกนเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกในปี 2564
ไปเดนมาร์กอย่าพกเงินสด เพราะคุณจะลำบากในการใช้จ่าย
เดนมาร์กเป็นสังคมไร้เงินสดและเป็นหนึ่งในประเทศดิจิทัลมากที่สุดในยุโรป การชำระเงินด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ซึ่งโดยปกติจะผ่านทางโทรศัพท์ถือเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่ Mobile Pay (ใช้ได้เฉพาะหมายเลขโทรศัพท์ของเดนมาร์ก) เป็นแอปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย นักท่องเที่ยวมักพลาดที่พกเงินสดไปเป็นจำนวนมากก่อนจะพบว่าร้านค้า ร้านกาแฟ และแผงขายของในตลาดไม่เต็มใจที่จะรับเงินสด
ค่าโดยสารในการขนส่งสาธารณะทั้งหมด ใช้บัตรเดินทางหรือ rejsekort หากจะเดินทางข้ามประเทศโดยรถไฟ ให้มองหาส่วนลดสำหรับผู้ที่จองล่วงหน้าก่อนใครที่เรียกว่า "ตั๋วสีส้ม" ที่มีจำหน่ายในแอป DSB และเว็บไซต์ อีกทางหนึ่ง FlixBus ที่ให้บริการรถโดยสารทางไกลราคาประหยัด
ในรายงานความสุขโลกประจำปีนี้ เดนมาร์กยังติดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย จากปัจจัยหลักในเรื่องความเท่าเทียมกันและความรับผิดชอบต่อสวัสดิการสังคมของประเทศ (เดนมาร์กเป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ยอมรับการอยู่ร่วมกันระหว่างเพศเดียวกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย)
10 ประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก
เดนมาร์ก
สวีเดน
สวิตเซอร์แลนด์
นอร์เวย์
แคนาดา
ฟินแลนด์
เยอรมนี
ออสเตรเลีย
เนเธอร์แลนด์
นิวซีแลนด์
Fact:
เดนมาร์ก 1 ใน 3 ประเทศแถบถิ่นสแกนดิเนเวีย มีประชากรเกือบ 6 ล้านคน 767,000 คนอาศัยอยู่ในโคเปนเฮเกน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีมาตรฐานการครองชีพที่สูง และเป็นประเทศแรกที่ยอมรับการอยู่ร่วมกันระหว่างเพศเดียวกันอย่างถูกกฎหมาย เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง NATO สภานอร์ดิก OECD OSCE และสหประชาชาติ และยังเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เชงเกน
ระบบการเมืองของเดนมาร์กยังถูกใช้ในวิชารัฐศาสตร์เมื่ออ้างอิงถึงระบบการปกครองที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ หรือ near-perfect governance