6 แพลตฟอร์มการบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะสู่ความยั่งยืนที่ต้องมีและต้องมา

เมืองอัจฉริยะคือเมืองที่ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการเมืองโดยมีคนเป็นศูนย์กลาง ปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์มที่ใช้ในการบริหารจัดการด้านต่างๆซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนนำไปสู่ ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงาน ความยั่งยืนและเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีของเมือง ปลายทางสำคัญที่จะทำให้รู้ว่าเทคโนโลยีที่เหมาะสมนำไปสู่เมืองที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนได้อย่างไร

 

หากอ้างอิงข้อมูลจาก IMD Smart City Index 2024 ที่สำรวจ 142 เมืองทั่วโลก  เพื่อจัดอันดับเมือง Smart City โดยสำรวจใน 5 มิติสำคัญ ได้แก่ Health & Safety, Mobility, Activities, Opportunities และ Governance พบว่ากรุงเทพฯ ตกจากอันดับ 78 ในปี 2563 มาอยู่ที่อันดับ 88 ในปี 2566 และในปี 2567 ขยับกลับขึ้นมาเพียงเล็กน้อย อยู่ที่อันดับ 84  ในขณะที่ในระดับเอเชียอยู่ในอันดับที่ 22  ซึ่งหากเทียบกับสิงคโปร์เพื่อนบ้านพบว่า สิงคโปร์อยู่ที่อันดับ 5 ของโลก และอันดับ 1 ในเอเชีย

 

ซูริคยังคงครองตำแหน่งเมืองอัจฉริยะที่สุดในโลกอีกครั้งเป็นปีที่ห้าติดต่อกัน โดยมีออสโลและแคนเบอร์ราตามมาเป็นอันดับสองและสามตามลำดับ ส่วนเจนีวาได้ปรับอันดับขึ้นมาเป็นอันดับที่สี่ และโลซานน์อยู่ในอันดับที่เจ็ด 

 

แพลตฟอร์มบริการจัดการเมืองอัจฉริยะที่น่าสนใจกำลังมาในเวลานี้มีอะไรบ้างไปดูกัน!

 

1. METTRIQ (เมททริก) แพลตฟอร์มการบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะแบบครบวงจรแพลตฟอร์มแรกของไทยที่พัฒนาโดย Metthier (บริษัท แมทเธียร์ จำกัด)

 

การพัฒนา METTRIQ (เมททริก) แพลตฟอร์มการบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะแบบครบวงจรแพลตฟอร์มแรกของไทยจะช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยจนถึงรายใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG เข้าถึงแพลตฟอร์มเปิดที่ทันสมัยในการบริหารจัดการอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและยั่งยืน

 

METTRIQ (Metthier Reformative IQ) เป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นมาจากเทคโนโลยี AI และ IoT เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลและแสดงผลในรูปแบบ Digital Twin และ 3D Visualization เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาการบริหารจัดการอาคารอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

METTRIQ ถือเป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะครบวงจรแพลตฟอร์มแรกในประเทศไทยที่รวม 12 ฟีเจอร์ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ได้แก่ ระบบ CCTV, ระบบควบคุมการเข้า-ออกอัตโนมัติ (Access Control), ระบบบริหารจัดการผู้มาติดต่อ (Visitor Management), การตรวจจับโลหะ (Metal Detector), การตรวจวัดคุณภาพอากาศ (Air Quality), ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ (Lighting System), ระบบปรับสภาวะอากาศ อุณหภูมิ ความชื้น และการหมุนเวียนของอากาศภายในอาคาร (HVAC System), ระบบแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm), ระบบควบคุมบันไดเลื่อนและลิฟท์ (Escalator & Lift), ระบบระบายอากาศ (Air Flow System), ระบบควบคุมการใช้ไฟฟ้า (Electricity), และระบบการบริหารจัดการน้ำ (Water System) นอกจากนี้ ยังมีผู้ช่วย AI คอยแนะนำวิธีใช้พลังงานอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ให้แก่ผู้ใช้อีกด้วย

 

 

นอกเหนือจาก METTRIQ ของไทยที่เป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะที่คุณสนใจแล้ว ยังมีอีกหลายแพลตฟอร์มที่มีความน่าสนใจและเป็นที่นิยมในปี 2024 ดังนี้

 

2.Siemens Building X (เยอรมนี)

• ระบบที่ใช้ AI และเป็นแพลตฟอร์มเปิด

• ช่วยในการบริหารจัดการพลังงานและการใช้งานพื้นที่

• สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน

 

3. Honeywell Digital Prime (สหรัฐอเมริกา)

• แพลตฟอร์มดิจิทัลที่สร้างแบบจำลองเสมือนของอาคารจริง

• ช่วยในการติดตามและบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงในระบบต่างๆ

• เพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

 

 

4. Schneider EcoStruxure Platform (ฝรั่งเศส)

• พัฒนาโดย Schneider Electric

• ระบบที่เชื่อมต่อทุกส่วนขององค์กร

• ตั้งแต่เซ็นเซอร์ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลบนคลาวด์

• ช่วยในการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

 

5. Johnson Controls OpenBlue (สหรัฐอเมริกา)

• พัฒนาโดย Johnson Controls

• แพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์

• เกี่ยวกับทรัพย์สิน บุคคล และกระบวนการต่างๆ

• ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและสนับสนุนความยั่งยืน

 

6. Sensgreen Smart Building Platform (ตุรกี)

• พัฒนาโดย Sensgreen

• โดดเด่นในการผสานรวมกับโครงสร้างพื้นฐาน IoT

• ใช้ AI ในการวิเคราะห์พลังงานและคุณภาพอากาศภายในอาคาร

• ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้อาคาร

 

แพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยให้การบริหารจัดการอาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ความปลอดภัย และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้ใช้อาคาร