กทม. เดินหน้าลดฝุ่น PM2.5 ด้วยน้ำแข็งแห้ง 300 ตัน ร่วมมือทุกภาคส่วน
กทม. ร่วมมือกรมฝนหลวงฯ รับมอบน้ำแข็งแห้ง 300 ตัน สนับสนุนปฏิบัติการลดฝุ่น PM2.5 ในเมืองหลวง ด้วยเทคโนโลยีสร้างช่องให้อากาศกระจาย ฝุ่นคลี่คลาย อากาศดีขึ้น
กรุงเทพมหานครได้รับมอบน้ำแข็งแห้งจำนวน 300 ตัน จากบริษัท บีไอจี จำกัด เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการลดฝุ่น PM2.5 โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะนำไปใช้ในภารกิจสร้างช่องให้อากาศกระจายตัว ฝุ่นที่กักอยู่ภายในเขตเมืองหลวงจะถูกคลี่คลาย ช่วยให้อากาศดีขึ้นตามลำดับ
การดำเนินงานครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน ทั้งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขวิกฤตฝุ่นที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ทีมงานยังเน้นย้ำว่าประชาชนทุกคนมีส่วนสำคัญในการลดฝุ่น PM2.5 ด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น หลีกเลี่ยงการเผาขยะ หมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์ และเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อช่วยสร้างอากาศที่ดีอย่างยั่งยืนในกรุงเทพฯ
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวขอบคุณบริษัท บีไอจี จำกัด ที่ได้มอบน้ำแข็งแห้ง ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดการกับฝุ่น PM2.5 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือทั้งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่ช่วยจัดการฝุ่น และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ที่อนุญาตให้พื้นที่ในการเดินอากาศในเขตกรุงเทพฯชั้นใน เพราะการดำเนินการต่างๆ กทม. คงทำคนเดียวไม่สำเร็จ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อจัดการวิกฤตฝุ่นในครั้งนี้
เนื่องจากปัญหาฝุ่นนอกจากจะกระทบด้านสุขภาพโดยตรงของทุกคนแล้ว ยังกระทบด้านการท่องเที่ยว เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม หากการจัดการในครั้งนี้ ทำให้ภาพรวมของกาศดีขึ้น ก็อาจจะต้องดำเนินการต่อไป แต่ก็ดีใจที่ได้เห็นนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่จากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ช่วยกันคิดค้นวิธีการต่างๆที่จะช่วยจัดการฝุ่นในครั้งนี้ พร้อมเน้นย้ำว่า วิธีการนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้อากาศในพื้นที่กรุงเทพชั้นในดีขึ้น แต่ประชาชนทุกคนก็ยังคงต้องปฏิบัติตัวเพื่อลดการเกิดฝุ่น PM2.5 เช่นเคย อาทิ ลดการเผา หมั่นนำรถตรวจเช็คสภาพให้สมบูรณ์ เพื่อลดการปล่อยควันพิษ และการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เป็นต้น
ด้านนายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้รับการอนุญาตจากบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ในการขึ้นบินเพื่อทำภารกิจนี้ เนื่องจากจำเป็นจะต้องจัดการการเดินอากาศกับทางสนามบินดอนเมือง ในการเลี่ยงการบินในช่วงเวลาปฏิบัติภารกิจ ในส่วนของตารางการขึ้นบินจะเป็นช่วง 10.00 น. และช่วงบ่ายเวลา 15.00 น. โดยประมาณ เพื่อจัดการกับฝุ่น PM2.5 ให้มีอัตราการลดลง และคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับประชาชน
ทั้งนี้ทางด้านนายเถลิงศักดิ์ ผาทอง ผู้อำนวยการใหญ่บริการเดินอากาศส่วนภูมิภาค บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวแสดงความยินดีในการให้ความร่วมมือกับภารกิจนี้ โดยจะเปิดให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขึ้นบินในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในได้จนถึงช่วงเมษายน 2568 เพื่อลดการสะสมปริมาณฝุ่นในช่วงอากาศปิด