สุวรรณภูมิขยาย SAT-1 รองรับ 60 ล้านคน ลดแออัด สู่สนามบินชั้นนำ
SAT-1 สุวรรณภูมิ พร้อมใช้งานเต็มที่แล้ว โปรเจกต์ใหญ่ต่อไปของ AOT คือเทอร์มินัลแห่งใหม่ คาดเริ่มสร้างได้ในปี 2570
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ AOT นำโดย นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) เผยความพร้อมใช้งานของอาคาร SAT-1 หรืออาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 สุวรรณภูมิว่าตอนนี้พร้อมใช้งานเต็มที่ทั้ง 28 เกท รองรับเที่ยวบินอินเตอร์เนชั่นแนลได้ 150 ไฟล์ทต่อวัน จากไฟล์ททั้งหมดของสุวรรณภูมิ 650 ไฟล์ทต่อวัน คิดเป็น 30% ช่วยแบ่งเบาความแออัดจากเทอร์มินัลหลักได้ระดับหนึ่ง เมื่อรวมกันแล้วจะรองรับผู้โดยสารได้ 65 ล้านคนต่อปี
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ได้พาคณะสื่อมวลชนไทย ลงพื้นที่อาคาร S1 (แซท วัน) และรันเวย์ที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคาร S1 และรันเวย์ที่ 3 ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ เวลา 17.00 น.
นายกีรติ กล่าวว่า แม้ว่าอาคาร S1 (แซท วัน) จะเปิดใช้งานครั้งแรกในวันที่ 28 กันยายน 2566 และรันเวย์ที่ 3 จะเปิดใช้งานในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
ขณะนี้ทั้งอาคาร S1 และรันเวย์ที่ 3 ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยตัวอาคาร S1 ได้เปิดใช้งานครบทั้ง 28 Gate แล้ว รองรับเที่ยวบินได้ 150 ไฟท์ต่อวัน ส่วนรันเวย์ที่ 3 ซึ่งมีความยาว 4 กิโลเมตร ได้ช่วยเพิ่มศักยภาพให้สนามบินสุวรรณภูมิ รองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นจาก 64 เที่ยวบินต่อชั่วโมงเป็น 96 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากเที่ยวบินทั้งหมดของสนามบินสุวรรณภูมิ วันละกว่า 600 เที่ยวบิน
ทั้งนี้การเปิดรันเวย์ที่ 3 จะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิ สามารถรองรับการเดินทางได้ถึง 64 ล้านคนต่อเที่ยวต่อปี ในปี 2568 นี้
นอกจากนี้ยังแก้ปัญหาการบินวนเพื่อลงจอดให้หมดไปอีกด้วย โดยอาคาร S1 มีขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินได้สูงสุดถึงวันละ 300-350 เที่ยวบินต่อวัน โดยจะเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่
ขณะที่แผนการก่อสร้างสนามบินด้านทิศใต้ของสนามบินสุวรรณภูมิ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2570 ใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในปี 2576 รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 70 ล้านคนต่อเที่ยวต่อปีซึ่ง
เมื่อถึงเวลานั้นจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารได้มากที่สุดถึง 150 ล้านคนต่อเที่ยวต่อปี สำหรับปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิอยู่อันดับท็อป 30 ของโลกในแง่ขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร
ย้อนดูสุวรรณภูมิตั้งแต่ Day 1 ปี 2549
สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นสนามบินนานาชาติที่คนไทยภาคภูมิใจ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2549
และเป็นประตูหลักต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลก ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนความสามารถเดิมที่รองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปีไม่เพียงพอ โครงการพัฒนาระยะที่ 2
จึงเริ่มขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเป็น 60 ล้านคนต่อปี และแก้ปัญหาความแออัดของผู้โดยสารและเที่ยวบิน
หนึ่งในโครงการสำคัญคือ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ออกแบบให้สอดคล้องกับอาคารผู้โดยสารหลัก ใช้ระบบ Modular ที่ก่อสร้างเร็ว ดูแลง่าย และเน้นความยั่งยืน
เช่น ใช้แสงธรรมชาติ ลดการใช้ไฟ ติดอุปกรณ์กันความร้อน และรีไซเคิลน้ำเสีย อาคารนี้มี 28 หลุมจอด รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ Code F (เช่น A380, B747-8) ได้ 8 หลุม และ Code E (เช่น B747, A340) ได้ 20 หลุม
อาคาร SAT-1 มีพื้นที่ 216,000 ตารางเมตร สูง 4 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น
- ชั้น B2 สถานีรถไฟฟ้าอัตโนมัติ (APM Station)
- ชั้น B1 ห้องระบบอาคาร
- ชั้น G ระบบลำเลียงกระเป๋าและสำนักงาน
- ชั้น 2 พื้นที่ผู้โดยสารขาเข้าและต่อเครื่อง
- ชั้น 3 พื้นที่ผู้โดยสารขาออก มีโซนรอขึ้นเครื่องแบบ Open Gate และร้านค้า
- ชั้น 4 ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
อาคารเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลักด้วยอุโมงค์ใต้ดินยาว 1 กิโลเมตร มีรถไฟฟ้า APM ไร้คนขับ 4 ช่อง ระบบลำเลียงกระเป๋า 2 ช่อง และถนนบริการ 2 ช่อง การเดินทางจากอาคารหลักไป SAT-1 ใช้เวลา 3.5 นาที รถไฟฟ้ารองรับได้ 179 คนต่อขบวน การตกแต่งภายในผสมผสานความเป็นไทย เช่น ช้างคชสารที่ชั้น 3, สุวรรณบุษบก และรัตนบุษบกประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยและปางเปิดโลก ชั้น 3 มีสวนสัตว์หิมพานต์ เช่น กินนร กินรี ส่วนชั้น 2 เป็นสวนสัญจรพร้อมศิลปะไทย เช่น หุ่นละครเล็ก หัวโขน ห้องน้ำออกแบบตามเอกลักษณ์ 4 ภาค ใช้สุขภัณฑ์อัตโนมัติประหยัดน้ำ
ปัจจุบัน อาคาร SAT-1 สร้างเสร็จกว่า 98% งานลานจอด ทางขับ ถนน และระบบสาธารณูปโภคพร้อมใช้งาน เหลือระบบรถไฟฟ้า APM และลำเลียงกระเป๋าที่อยู่ระหว่างทดสอบ คาดเปิดใช้เต็มรูปแบบในปี 2566
โครงการระยะที่ 2 ยังรวมถึง
- อาคารสำนักงานสายการบิน (4 ชั้น พื้นที่ 35,000 ตร.ม.)
- อาคารจอดรถทิศตะวันออก (5 ชั้น จอดได้ 1,000 คัน)
- ระบบลำเลียงกระเป๋าขาออก (180 ใบ/นาที)
- ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา สถานีไฟฟ้าและสูบน้ำ
- ส่วนขยายอาคารทิศตะวันออก (60,000 ตร.ม.)
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมเป็นประตูสู่ไทย สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือน ช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวและการบิน พัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน AOT มุ่งให้บริการที่มีประสิทธิภาพ รองรับวิถีใหม่ เน้นความสะดวก ปลอดภัย และเมื่อ SAT-1 เปิดเต็มรูปแบบ จะยกระดับสุวรรณภูมิสู่สนามบินชั้นนำระดับโลก