ผ่า SMR ชวนหาคำตอบ เกิด -ไม่เกิด? กับ 'สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ'

14 มีนาคม 2568

หาคำตอบเรื่อง SMR เกิดไม่เกิด ขึ้นอยู่กับอะไร? กับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานนิวเคลียร์ 'สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ' กับหน้าที่การออกใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบการฯในอนาคต

SMR ไม่ใช่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก

ในวงสนทนาเล็กๆ เกี่ยวกับ SMR ที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านกับ โพสต์ทูเดย์พยายามเสาะแสวงหาความเข้าใจเกี่ยวกับ “เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบมอดูลขนาดเล็ก” (Small Modular Reactors)” กับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานนิวเคลียร์ 2 ท่านคือ ดร.ไชยยศ สุนทราภา หัวหน้ากลุ่มอนุญาตทางนิวเคลียร์ / วิศวกรนิวเคลียร์ ชำนาญการพิเศษ และ ดร.ปานทิพย์ อัมพรรัตน์ วิศวกรนิวเคลียร์ชำนาญการพิเศษ กองอนุญาตทางนิวเคลียร์และรังสี ที่กรุณามาให้ความรู้ความเข้าใจ พร้อมกับเห็นเส้นทางความเป็นมาเกี่ยวกับสำนักงานแห่งนี้และพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศไทย ที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังเป็นเรื่องน่ากลัวเหมือนผู้ร้ายบนเวทีโลก

 

การจะนำพลังงานอันทรงพลัง แม้ว่าจะสะอาด ไม่เกิดก๊าซเรือนกระจก แต่ดูดุดันและดูร้ายกาจในสายตาชาวโลกไปแล้วมาใช้ในประเทศ เป็นเรื่องใหญ่และต้องผ่านขั้นตอนรายละเอียดถี่ยิบมากมายนัก กว่าจะผ่านด่านกระบวนการอันเต็มไปด้วยความซับซ้อนทั้งด้านกฎหมาย เทคโนโลยีและความปลอดภัยออกมาได้ จนอาจกล่าวได้ว่า เป็นกระบวนการเล่นแร่แปรธาตุอย่างหนึ่ง

 

ภาพ SMR โดย AI (ChatGPT) ภาพ SMR โดย AI (ChatGPT)

 

วันนี้โพสต์ทูเดย์ชวนมาหาคำตอบนี้ร่วมกันกับ ดร.ณัทกฤช อภิภูชยะกุล ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎรที่ได้มาร่วมวงสนทนา โดยตั้งต้นจาก ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ PDP2024 ที่ได้บรรจุ SMR ขนาดกำลังผลิต 300 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โรงไฟฟ้าไว้ด้วย เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของประเทศสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ไปพร้อมกับความมั่นคงทางพลังงาน

 

โพสต์ทูเดย์โฟกัสใน 2 ประเด็นหลักในที่นี้คือ เรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัย และเรื่องของตัวบทกฎหมายที่จะเป็นตัวเร่งและอนุญาตให้เกิดการใช้งาน SMR เชิงพาณิชย์ขึ้นในประเทศไทยได้จริงในอนาคต

 

เริ่มต้นจาก “สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ” ของประเทศไทยสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม   มีที่มาจากคำว่า "Atoms for Peace" (อะตอมเพื่อสันติ) คำกล่าวของ ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ (Dwight D. Eisenhower) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งกล่าวไว้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1953 ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก

 

สาระสำคัญของคำปราศรัยนี้คือการสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ เช่น การผลิตไฟฟ้าและพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ แทนการนำไปใช้เป็นอาวุธทำลายล้าง โครงการนี้นำไปสู่การก่อตั้ง ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency — IAEA) ในปี 1957 เพื่อควบคุมและส่งเสริมการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ

 

ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อทำให้สิ่งประดิษฐ์อันมหัศจรรย์ของมนุษย์ ไม่กลายเป็นเครื่องมือแห่งความตาย แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนการดำรงชีวิตของมนุษยชาติแทน

 

แต่มาถึงวันนี้ พลังงานนิวเคลียร์หรือปรมาณูก็ยังเป็นสิ่งเอื้อมถึงได้ยากอยู่ดี กระทั่งเกิดคำใหม่ขึ้นอีกคำ คือคำว่า Small Modular Reactors หรือ SMR ที่จะเข้ามาช่วยให้พลังงานนี้เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ปลอดภัยขึ้น หรืออาจคุ้มค่ามากขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำไปใช้ในสเกลใด

 

ดร.ชัยยศ สุนทราภา หัวหน้ากลุ่มอนุญาตทางนิวเคลียร์ / วิศวกรนิวเคลียร์ ชำนาญการพิเศษ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ดร.ชัยยศ สุนทราภา หัวหน้ากลุ่มอนุญาตทางนิวเคลียร์ / วิศวกรนิวเคลียร์ ชำนาญการพิเศษ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

 

ดร.ไชยยศ เล่าว่า แม้ SMR จะเกิดขึ้นมานานหลายปีในประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งสหรัฐอเมริกา (มี NuScale) ฝรั่งเศส (มี NUWARD) และรัสเซีย (มี RITM-200) แต่ทั้งหมดทั้งมวลของ SMR เหล่านั้นล้วนยังอยู่ในกระดาษทั้งสิ้น แปลว่า ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงและยังไม่มีการใช้งานในเชิงพาณิชย์

 

มีเพียงจีนประเทศเดียวในตอนนี้ที่เห็นภาพ SMR ได้ชัดเจนกว่าใคร และได้มีการติดตั้งเพื่อเปิดใช้งานในเชิงพาณิชย์แล้วที่เกาะไหหลำ เป็น SMR โมเดล ACP100 หรือที่รู้จักในชื่อ Linglong One พัฒนาโดยบริษัท China National Nuclear Corporation (CNNC) ซึ่งเป็น SMR เชิงพาณิชย์เครื่องแรกของโลก มีกำลังการผลิต 125 เมกะวัตต์ ซึ่งตนและ ดร.ปานทิพย์ ก็ได้เคยเดินทางไปดูงานแล้วหลายครั้ง

 

และในส่วนของประเทศไทย ถ้าจะเกิดมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกิดขึ้น หรือ มี SMR ซึ่งก็เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ประเภทหนึ่ง ก็ต้องมาขอรับใบอนุญาตจากสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) แห่งนี้ที่จะคอยกํากับดูแลให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนและสิ่งแวดล้อมรอบด้านมากที่สุด ชี้ให้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยปัจจุบันก็ได้ทำการสำรวจเทคโนโลยีต่างๆ จากทั่วโลกเพื่อเตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากรัฐไฟเขียวและมีการขออนุญาตดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์โดยผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนด้านพลังงานนิวเคลียร์ในอนาคต

 

“คือเราเป็นด่านแรกที่ต้องเรียนรู้ก่อน เพราะว่าเราต้องทำหน้าที่เหมือนตํารวจ ต้องตามทันเทคโนโลยี เพราะจะได้รู้ว่าคนร้ายเค้าจะทําอะไรผิดประมาณนั้นค่ะ แล้วถ้าเกิดมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เราก็จะช่วยอธิบายให้ได้” ดร.ปานทิพย์กล่าวถึงหน้าที่ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

 

ดร.ไชยยศ อธิบายถึงคำว่า Small Modular Reactors หรือ “เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบมอดูลขนาดเล็ก” ชัดๆ ว่า มันหมายถึง เครื่องปฎิกรณ์ฯ ที่นำชิ้นส่วน หรือ มอดูล แต่ละชิ้นมาประกอบกัน ณ สถานที่ติดตั้งหรือไซต์งาน ไม่ใช่การสร้างโครงสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และ SMR ก็ไม่ใช่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก

 

มันเหมือนกับเรายกชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบกัน นั่นคือ มอดูลาร์ ซึ่งในอนาคตการใช้พลังงานนิวเคลียร์อาจเป็นเทรนด์นี้

 

มอดูล เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เทคโนโลยี SMR ของประเทศต่างๆ / ภาพจาก สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ มอดูล เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เทคโนโลยี SMR ของประเทศต่างๆ / ภาพจาก สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

 

และสิ่งที่ต้องระวังก็คือการนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด เพราะสิ่งที่ทำให้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แตกต่างกับโรงไฟฟ้าอื่นๆ ก็คือการปล่อยรังสี หรือการรั่วไหลของรังสี ที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว เพราะรังสีไม่มีรูป ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีเสียง แต่สามารถที่จะทําร้ายเราได้ เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในปัจจุบันจึงต้องออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายหรือรั่วไหลของรังสี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

 

เทคโนโลยี SMR เกิดขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้ ด้วยหลักการสำคัญก็คือ การป้องกันการหลอมละลายของเชื้อเพลิง

 

ชัดๆ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบมอดูลขนาดเล็ก (Small- Modular Reactor (SMR)) ก็คือ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีกำลังไม่เกิน 300 เมกะวัตต์ (MWe) มีลักษณะเป็นมอดูลที่ทำการผลิตและประกอบเบ็ดเสร็จจากโรงงานผู้ผลิต สามารถขนย้ายโดยรถบรรทุกหรือรถไฟ เพื่อนำไปติดตั้งในที่ที่ต้องการได้อย่างสะดวก เช่น ติดตั้งที่พื้นที่ห่างไกล บนเกาะ หรือเป็นแบบเรือลอยน้ำ ส่วนประกอบหลักคล้ายกับแบบดั้งเดิม หรือมีจำนวนชิ้นที่ลดลง (Simplify) ตามแต่ละการออกแบบ

 

4 หลักการพัฒนา SMR และเทคโนโลยีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รุ่นใหม่

1. ความปลอดภัย:  การออกแบบ SMR ต้องออกแบบให้มีความปลอดภัยในตัวเอง (Passive Safety) และอีกสิ่งที่มีความสำคัญ คือ ระบบที่ทำให้เชื้อเพลิงไม่มีวันหลอมละลาย (TRISO Fuel) เพราะการหลอมละลายของเชื้อเพลิงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์

 

2. ประสิทธิภาพ: ด้วยการออกแบบระบบใหม่ของเทคโนโลยี SMR จะสามารถเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องปฏิกรณ์ได้สูงถึง 800 ถึง 1200 องศาเซลเซียส การให้ความร้อนที่สูงนั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพกำลังการผลิตไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น

 

3. ราคาที่ถูกกว่าแบบดั้งเดิม: ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าการสร้างโรงไฟฟ้าแบบ SMR มีต้นทุนที่ต่ำกว่าแบบดั้งเดิม เนื่องจากมีขนาดเล็กกว่าและชิ้นส่วนที่น้อยกว่า ทำให้ใช้พื้นที่สำหรับตั้งโรงไฟฟ้าเล็กลง (จากราว 1,620 ไร่ ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ปกติเหลือเพียงราว 86 ไร่) รวมถึงประหยัดเวลาในการก่อสร้าง

 

4. ลดการเกิดกากกัมมันตรังสีหรือ Nuclear Waste: เตาปฎิกรณ์ SMR มีชิ้นส่วนประกอบที่เล็กลง ทำให้กากกัมมันตรังสีหลังจากเลิกการใช้งานมีจำนวนน้อยลง และการที่ SMR สามารถใช้เชื้อเพลิงแบบผสม หรือ fast reactor ได้ ทำให้ลดปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้แล้วได้อีก

 

“เรียกว่า ควบคุมได้ง่ายและเคลื่อนย้ายได้ง่ายด้วย และก่อนที่จะพัฒนาอะไรขึ้นมาสักอย่าง มันต้องมียุทธศาสตร์ของการพัฒนาเหมือนกับการจะพัฒนารถไฟฟ้า ทําไมคุณถึงต้องพัฒนารถไฟฟ้า เพราะน้ำมันมันแพง แล้วก็เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ คือมีกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อที่จะนำเอากลยุทธ์เหล่านี้มาเสริมกันเพื่อที่จะนําไปสู่การพัฒนา” ดร.ปานทิพย์กล่าวถึงเทคโนโลยี SMR โดยสรุป

 

เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้ก๊าซเป็นตัวระบายความร้อน หรือ HTGR แบบต่างๆ ทั่วโลก เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้ก๊าซเป็นตัวระบายความร้อน หรือ HTGR แบบต่างๆ ทั่วโลก

 

แปลว่าโอกาสที่จะเกิด SMR มีมากกว่าโอกาสที่จะเกิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่?

ดร.ไชยยศ ตอบว่า ณ ปัจจุบัน เรื่องนี้ยังเป็นคําถามของนโยบาย ถามว่ามันจะเกิดขึ้นได้ยากกว่าไหม มันก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของของรัฐเองว่า รัฐอยากจะเอาตัวใหญ่ (หมายถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ปกติ) หรือว่าตัว SMR

 

ส่วนในเรื่องของราคา ในทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่า Economy of Scale หากจะเปรียบ SMR เทียบกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ ก็เหมือนโค้กกระป๋องกับโค้กลิตร หากถามว่าอันไหนถูกกว่ากัน ซื้อโค้กลิตรถูกกว่าโค้กระป๋องอยู่แล้ว แต่โค้กกระป๋องมันพกพาสะดวก ถ้าอยากได้หลายแพ็คก็ซื้อมา SMR ก็เหมือนกัน คุณอยากได้ไฟขนาดเยอะขึ้นก็เอามอดูลมาต่อกันไปเรื่อยๆ มันก็เป็นอีกราคาหนึ่ง

 

“ส่วนอีกเรื่องก็คือเรื่องความปลอดภัย เปรียบเทียบกันง่ายๆ คือ รถไฟฟ้าปัจจุบันกับรถเมื่อ 50 ปีที่แล้ว อันไหนปลอดภัยกว่ากันก็ต้องบอกว่า เทคโนโลยีใหม่ก็ต้องปลอดภัยกว่า แถมไม่มีคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย อันนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ มันจึงถูกพัฒนามาให้มีขนาดเล็กลง” ดร.ปานทิพย์ กล่าวสรุปเรื่องความปลอดภัย

 

รอบหน้ามาคุยต่อในเรื่องของอุปสรรคต่างๆ นานาที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่เป็นตัวฉุดรั้งให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่เกิดขึ้นสักทีในประเทศไทย และถึงแม้หากไฟเขียวแล้วก็ต้องใช้เวลานานอีกนับ 10 ปี กว่าที่จะเกิด SMR ขึ้นมาได้ ด้วยกระบวนการหรือขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่กระบวนการขออนุญาตดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (ใช้เวลาราว 3 ปี) ไปจนถึงเรื่องของความพร้อมของประเทศในอาเซียนด้านเทคโนโลยี SMR ใครจะไปก่อนใคร..ใครจะนำใครในเรื่องนี้?

 

แต่เชื่อว่าอีกไม่นานโลกคงได้เห็นเทคโนโลยีนี้มากขึ้น ในประเทศอื่นๆ เพราะตอนนี้จีนเขานำไปแล้ว แบบไม่รอใคร จนอาจกล่าวได้ว่า จีนเป็นแรงกระตุ้นหลักของโลกในเวลานี้ด้าน SMR แม้จะดูอลังการเกินกว่าคำว่า SMR ไปสักหน่อยก็ตาม

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

 

Thailand Web Stat