สมาคมโรงแรมไทย เสนอ แก้ กม.คอนโดศูนย์เหรียญ ตัดวงจรธุรกิจสีเทา
สมาคมโรงแรมไทย จี้รัฐแก้กฎหมายคอนโดศูนย์เหรียญ ตัดวงจรธุรกิจสีเทา ชี้ช่องโหว่ทำประเทศเสียรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท
สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ออกโรงเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ไขกฎหมายควบคุมคอนโดมิเนียมที่ปล่อยเช่ารายวัน หรือที่เรียกว่า "คอนโดศูนย์เหรียญ"
โดยเสนอให้ปรับปรุงกระบวนการจับกุม จากเดิมที่ต้องมีการ "ล่อซื้อพร้อมใบเสร็จ" เป็น "ประกาศโฆษณาก็จับได้" ชี้ช่องโหว่กฎหมายปัจจุบันสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมโรงแรมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศกว่า 10,000 ล้านบาท
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาการนำห้องพักในคอนโดมิเนียมมาปล่อยเช่ารายวันอย่างผิดกฎหมายและไม่เสียภาษีกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ เนื่องจากเป็นการแย่งชิงลูกค้าโดยตรง
ทีเอชเอได้หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และสมาคมอาคารชุดไทย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยกำลังเร่งปราบปรามโรงแรมเถื่อนและคอนโดศูนย์เหรียญผ่านการลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารชุดต่างๆ แต่พบอุปสรรคสำคัญคือ
ขั้นตอนการจับกุมและตัดสินความผิดที่ต้องมีองค์ประกอบครบถ้วน ทั้งการซื้อขายจริงและการมีใบเสร็จรับเงิน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการล่อซื้อและส่วนใหญ่สามารถจับกุมได้เพียงห้องเดียวต่อการเข้าตรวจสอบแต่ละครั้ง แม้ว่าในโครงการนั้นอาจมีการปล่อยเช่าผิดกฎหมายอยู่หลายห้องก็ตาม
เสนอปรับแนวทางจับกุม เน้นปราบปรามต่อเนื่อง
ในการประชุมร่วมกับภาครัฐ ทีเอชเอได้เสนอให้ปรับปรุงแนวทางการตรวจสอบใหม่ โดยเสนอว่าหากมีการโฆษณาเปิดให้จองห้องพักรายวัน ถือว่ามีความผิดได้ทันที เพื่อให้การจับกุมเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการปราบปรามและจับกุมอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทีเอชเอยังเห็นว่าบทลงโทษปัจจุบันยังไม่รุนแรงเพียงพอ โดยเมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลและมีการรอลงอาญา จะมีโทษปรับเพียงประมาณ 20,000 บาท ซึ่งถือว่าต่ำมากจนผู้กระทำผิดสามารถกลับมากระทำผิดซ้ำได้อีก จึงเสนอให้มีการปรับปรุงบทลงโทษให้หนักขึ้น
พร้อมกันนี้ ทีเอชเอเสนอให้มีการตรวจสอบไปยังตัวแทนผู้ทำหน้าที่ส่งมอบกุญแจให้เช่า ซึ่งเป็นผู้รับฝากห้องพักและนำมาปล่อยเช่าให้กับลูกค้า เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น
"ควรปรับกฎหมายให้จับกุมได้ง่ายขึ้น หากมีผู้ประกาศให้เช่าห้องพักรายวันสามารถจับได้แล้ว ไม่ต้องรอใบเสร็จ เพราะผู้ปล่อยเช่ามักมีการโฆษณาและรีวิวต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่ามีการปล่อยเช่ามานานแล้ว"
"ปัจจุบันกว่าจะครบองค์ประกอบและจับได้ ภาครัฐต้องเข้าไปล่อซื้อ จ่ายเงินจองก่อน และส่วนใหญ่จองเพียงห้องเดียว ทั้งที่โครงการอาจปล่อยให้เช่าหลายห้อง การแก้ไขกฎกระทรวงจะทำให้ทุกคนเกรงกลัวและไม่กล้าทำผิดอีก" - นายเทียนประสิทธิ์
ชี้มูลค่าความเสียหายหมื่นล้าน รัฐสูญเสียรายได้
จากการตรวจสอบที่ผ่านมา ทีเอชเอประเมินว่าปัญหาห้องพักผิดกฎหมายที่นำมาปล่อยเช่าในประเทศไทยมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 10,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้ที่นำห้องพักมาปล่อยเช่าเหล่านี้ไม่ได้จดทะเบียนประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องและไม่มีการเสียภาษีเข้าระบบให้แก่ประเทศ
อย่างไรก็ตาม แนวทางการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวคาดว่าจะต้องให้คณะกรรมการส่งเสริมและกำกับธุรกิจโรงแรม ของกระทรวงมหาดไทยเข้ามาดำเนินการ
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอเสนอจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้ โดยทีเอชเอเชื่อมั่นว่าหากภาครัฐให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง ปัญหานี้จะสามารถคลี่คลายได้
"จากการประเมินผลกระทบเบื้องต้น วงจรนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากการนำห้องพักในโครงการอาคารชุดต่างๆ ประมาณ 1 หมื่นห้องทั่วประเทศมาปล่อยเช่ารายวัน"
"ทำให้รวมแล้วมีการปล่อยเช่าวันละ 30 ล้านบาท และภาครัฐไม่ได้มีการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมจากกลุ่มผู้ให้เช่ารายนี้เลย"
- นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าวทิ้งท้าย