กรุงเทพฯ จับมือธนาคารโลก รับมือวิกฤตความร้อนเมืองทวีความรุนแรง

26 มีนาคม 2568

กรุงเทพมหานคร ร่วมมือ ธนาคารโลก รับมือปัญหาวิกฤตเกาะความร้อนในเมืองที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น และหากไม่มีมาตรการรับมือจะยิ่งส่งผลต่อชีวิต และเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

กรุงเทพฯ พร้อมปรับตัวรับมือคลื่นความร้อนที่ทวีความรุนแรง

ท่ามกลางอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุงเทพฯ กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพของประชาชน เศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน รายงานฉบับใหม่จากธนาคารโลกและกรุงเทพมหานครชี้ว่า หากไม่มีการดำเนินมาตรการรับมือที่เพียงพอ อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเพียง 1 องศาเซลเซียส อาจนำไปสู่การเสียชีวิตจากความร้อนกว่า 2,300 ราย การสูญเสียค่าจ้างแรงงานกว่า 44,000 ล้านบาท และค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นราว 17,000 ล้านบาทต่อปี

 

ปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมือง ปัญหาที่รอการแก้ไข

กรุงเทพฯ กำลังเผชิญกับปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมือง (Urban Heat Island - UHI) ซึ่งเกิดจากการพัฒนาเมืองอย่างหนาแน่น ทำให้พื้นผิวของเมืองดูดซับความร้อนและปล่อยความร้อนสะสมออกมาในตอนกลางคืน ส่งผลให้เมืองร้อนยาวนานขึ้น กระทบต่อสุขภาพของประชาชน ประสิทธิภาพการทำงาน และโครงสร้างพื้นฐานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปโดยไม่มีการแก้ไข ภายในปี พ.ศ. 2593 อุณหภูมิที่สูงขึ้นอาจทำให้การทำงานกลางแจ้งเป็นไปได้ยากลำบาก ประชากรกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และผู้สูงอายุเกิน 65 ปี รวมกว่า 1.88 ล้านคน จะเผชิญความเสี่ยงด้านสุขภาพที่รุนแรงขึ้น

 

กรุงเทพฯ เดินหน้ารับมือ จากแผนงานสู่การปฏิบัติจริง

เพื่อรับมือกับวิกฤตความร้อนที่กำลังปะทุ กรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เร่งดำเนินมาตรการสำคัญ ได้แก่:

ศูนย์ทำความเย็น (Cooling Shelters): จัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยในที่สาธารณะ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงคลื่นความร้อน

ขยายพื้นที่สีเขียว: เพิ่มสวนสาธารณะและต้นไม้ใหญ่เพื่อลดความร้อนสะสม

ระบบเตือนภัยความร้อน: พัฒนาเทคโนโลยีแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนรับมือได้ทันท่วงที

แนวทางเสริมความแกร่งเมือง: ก้าวข้ามวิกฤตสู่อนาคตที่ยั่งยืน

 

รายงานฉบับนี้ยังนำเสนอแนวทางเชิงยุทธศาสตร์เพิ่มเติมที่กรุงเทพฯ สามารถนำไปปรับใช้ได้ เช่น:

เพิ่มขีดความสามารถระบบเตือนภัย: พัฒนาให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กองทุนรับมือความร้อน: จัดตั้งกองทุนสนับสนุนการแก้ปัญหาความร้อนอย่างต่อเนื่อง

ปรับปรุงข้อบังคับอาคาร: ส่งเสริมการออกแบบอาคารให้ระบายความร้อนได้ดี ลดการใช้พลังงาน

แผนที่ความร้อน: พัฒนาแผนที่ความร้อนเชิงลึก เพื่อระบุพื้นที่เสี่ยงและบริหารทรัพยากรได้ตรงจุด

 

“ความร้อนในเมืองไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน”

 

เมลินดา กูด ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทยและเมียนมา กล่าว “รายงานฉบับนี้นำเสนอแนวทางปฏิบัติทให้แก่ผู้นำและภาคธุรกิจเพื่อช่วยให้กรุงเทพฯ สามารถปรับตัวต่อความร้อน ปกป้องประชาชนที่เปราะบางที่สุด รักษาอาชีพในอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อความร้อน และเสริมความแกร่งทางเศรษฐกิจในระยะยาว”

 

ความร่วมมือคือกุญแจสำคัญ ปกป้องคนเปราะบาง สร้างกรุงเทพฯ ที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เน้นย้ำว่า "การเติบโตของกรุงเทพฯ ต้องมาพร้อมมาตรการรับมือความร้อนที่ชัดเจนและเด็ดขาด" 

 

 "ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะจากรายงานฉบับนี้จะเป็นแนวทางที่ดีในการดำเนินงานเพื่อปกป้องประชาชนที่เปราะบางที่สุด ตลอดจนสร้างมหานครที่น่าอยู่และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับคนรุ่นหลัง"

 

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้กำหนดนโยบาย ภาคธุรกิจ ไปจนถึงชุมชนท้องถิ่น จะเป็นพลังสำคัญในการพลิกโฉมกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นมหานครที่ไม่เพียงแค่ปรับตัวได้ แต่ยังเติบโตได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

 

Thailand Web Stat