SUBCON Thailand 2025 เปิดเวทีเชื่อมธุรกิจ เสริมอุตสาหกรรมไทย
SUBCON Thailand 2025 มุ่งเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับผู้ซื้อในอุตสาหกรรมรถยนต์และ EV เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและซัพพลายเชนระดับโลก
บีโอไอร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เตรียมจัดงาน SUBCON Thailand 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2568 ที่ศูนย์ไบเทค กรุงเทพฯ
งานนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 และจะเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อทั่วโลก เพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจและเสริมศักยภาพการผลิตในอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีขั้นสูง คาดว่าจะสร้างมูลค่าธุรกิจมากกว่า 20,000 ล้านบาท
ไฮไลท์ของการจัดงาน ยังคงชูจุดแข็งในเรื่อง กิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการชิ้นส่วนไทยและบริษัทรายใหญ่จากทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่ "xEV Sourcing Zone: OEM’s Tier 1 Supplier Zone" สำหรับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (Tier 1) ในการบรรยายนโยบายจัดซื้อ (Buyer Presentation) และจัดแสดงชิ้นส่วนที่ต้องการจัดซื้อ พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ผลิตชิ้นส่วน Tier 2 และ Tier 3 ตลอดจนผู้ซื้อจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แผ่นวงจรพิมพ์ สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกลต่าง ๆ ฉะนั้นการจัดงาน SUBCON Thailand ถือเป็นแพลตฟอร์มสำคัญระดับนานาชาติ ที่รวมผู้ซื้อชั้นนำจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต สนับสนุนให้เกิดการซื้อขาย การว่าจ้างผลิต และการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ อย่างเป็นรูปธรรม
งานในปีนี้จะเน้นกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับบริษัทรายใหญ่จากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ “xEV Sourcing Zone” สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (Tier 1 Supplier) เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ผลิตชิ้นส่วนจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกล
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษ “BOI Symposium 2025” ที่จะเชิญผู้บริหารจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลกมาร่วมเสวนาและแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทางการพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งสะท้อนความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า
งาน SUBCON Thailand 2025 จะเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับซัพพลายเชนของไทยและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME มีโอกาสขยายธุรกิจและสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าใหม่ๆ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก