อาหาร การใช้ชีวิต และวัฒนธรรม: ไขความลับอายุยืนจาก 5 Blue Zone ทั่วโลก
ไขรหัสลับยืดอายุ ด้วยเคล็ดลับสุขภาพดีจากพื้นที่ "Blue Zone" สถานที่ที่ประชากรมีอายุยืนยาวเฉลี่ยเกิน 90 ปี และบนโลกใบนี้มีเพียง 5 แห่งเท่านั้น!
หลังกรมอนามัย สนับสนุนให้สร้างเมืองสุขภาพดีด้วย Healthy City Model ซึ่งจะประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ คือ กินดี อยู่ดี อารมณ์ดี สติปัญญาดี สังคมดี สิ่งแวดล้อมดี ระบบบริการสุขภาพดี เพื่อผลักดันนโยบายส่งเสริมการเกิด รวมทั้งพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ โดยมีต้นแบบจาก Blue Zone ซึ่งบนโลกใบนี้มีพื้นที่ Blue Zone เพียง 5 แห่งเท่านั้น! เราลองมาดูกันดีกว่าว่า Blue Zone คืออะไร? แล้วมีประเทศไหนบ้างเป็นพื้นที่ Blue Zone
Blue Zone คืออะไร?
Blue Zone เปรียบเสมือนดินแดนแห่งความอายุยืน ซึ่งเป็นพื้นที่เพียง 5 แห่งบนโลกที่ผู้คนมีอายุยืนยาวกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉลี่ยแล้ว ประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ Blue Zone จะมีอายุยืนยาวกว่า 90 ปี และบางคนอาจมีอายุยืนยาวถึง 100 ปีหรือมากกว่านั้น
ประเทศไหนบ้าง เป็นพื้นที่ Blue Zone ?
1.เกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น
โอกินาวา เป็นเกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงและเกษตรกรรม โดยผู้สูงอายุที่เกาะโอกินาวา แม้จะมีอายุเกิน 90 ปี แต่ยังสามารถทำงานและกิจกรรมต่างๆได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่ออายุเพิ่มขึ้นการทำงานของสมองและร่างกายในประชากรส่วนใหญ่จะลดลงกว่า 50% แต่ชาวโอกินาวานั้น ยังสามารถทำงานได้มากกว่า 85%
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบประชากรที่มีอายุ 90 ปีที่อาศัยอยู่ในโอกินาวากับประชากรที่อาศัยอยู่ในซีกโลกตะวันตก ชาวโอกินาวามีอัตราการเป็นโรคหัวใจ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงภาวะกระดูกพรุนที่น้อยกว่า
เคล็ดลับยืดอายุของชาวโอกินาวาคือ กินอาหารในแต่ละมื้อให้รู้สึกอิ่มเพียง 80% โดยเน้นไปที่ผัก ปลาและอาหารทะเล กินอาหารที่ทํามาจากถั่วเหลืองเป็นประจํา เช่น เต้าหู้ มิโซะ ซอสถั่วเหลือง เต้าเจี้ยว ถั่วหมัก รวมถึงดื่มน้ำมากกว่า 2 ลิตรต่อวัน
2.เกาะอิคาเรีย ประเทศกรีซ
เกาะขนาดเล็กที่อยู่ในประเทศกรีซสถานที่อันสงบ มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเต็มไปด้วยคุณภาพชีวิตของประชากรที่ถือว่ายอดเยี่ยมติดมาตรฐานโลก กลุ่มคนที่มีอัตราการเสียชีวิตในวัยกลางคนต่ำมาก และอายุยืนกว่าคนอเมริกันถึง 8 ปี และมีอัตราการเกิดภาวะสมองเสื่อมต่ำที่สุดในโลก
ในแต่ละมื้อชาวอิคาเรียนจะรับประทานพืชจำพวกฟัก และพืชใบเขียวที่ปลูกเองตามบ้าน ทั้งยังดื่มนมแพะมากกว่าดื่มนมวัว ดื่มชาและไวน์สูตรลับเฉพาะของอิคาเรียน ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ขณะที่ผู้สูงอายุชอบกินน้ำผึ้งท้องถิ่น โดยจะกินเต็มช้อนในตอนเช้าและก่อนมื้อเย็น นอกจากนี้ ยังมีการออกกำลังกายเป็นประจำด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การเดิน รวมถึงในตอนกลางวันจะมีเวลานอนพักผ่อนเป็นเวลา 1 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน
3.คาบสมุทรนิโคยา ประเทศคอสตาริกา
คาบสมุทรนิโคยา ประเทศคอสตาริกา เป็นหนึ่งในสถานที่ที่พบว่ามีคนอายุยืนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีอัตราการเสียชีวิตวัยกลางคนต่ำที่สุด โดยปัจจัยหลักของคนที่อาศัยในพื้นที่นี้คือการดื่มน้ำในปริมาณมาก ซึ่งน้ำในพื้นที่นี้มีปริมาณแคลเซียมที่สูงที่สุด ยิ่งดื่ม ยิ่งลดอัตราการเจ็บป่วยที่มีความเชื่อมโยงถึงกระดูก อีกทั้งยังนิยมรับประทานข้าวโพดและถั่ว ทานอาหารมื้อเย็นน้อยๆ ไม่ทานอาหารแปรรูป ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการกินที่ได้รับมาจากชนเผ่าท้องถิ่นสมัยโบราณ
นอกจากนี้ ชาวนิโคยายังนิยมทำทุกกิจกรรมที่เรียกเหงื่อ ไปจนถึงวัยค่อนคน โดยถือคติในการดำรงชีวิตแบบ Plan de vida หรือ เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทำให้กลุ่มผู้สูงวัยยังคงกระตือรือร้นทำสิ่งต่างๆอยู่เสมอ
4.โลมาลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ชาวเมืองโลมาลินดา มีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากชาวโอกินาวาและซาร์ดิเนีย ด้วยลักษณะทางภูมิประเทศที่ไม่ได้เป็นเกาะ ผู้คนในโลมาลินดาจึงมีวิถีชีวิตแบบชาวเมืองทุกอย่าง ต้องดํารงชีวิตอยู่ท่ามกลางมลภาวะของสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้ดีกว่าคนทั่วไป มีการใช้เครื่องอํานวยความสะดวก เครื่องมือสื่อสาร ใช้คอมพิวเตอร์เหมือนคนในเมืองใหญ่ทุกประการ
อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองโลมาลินดากินเนื้อวัวและหมูน้อยมาก โดยเฉลี่ยประมาณเดือนละไม่เกิน 2 ครั้งหรือไม่กินเลย รวมถึงไม่นิยมกินอาหารรสเค็มและรสหวาน เน้นอาหารจากพืช โปรตีนจากถั่ว เน้นการกินถั่วเปลือกแข็ง เช่น วอลนัท อัลมอนด์ ทุกวันวันละ 1 กํามือ
ซึ่งจากการศึกษาพบว่าคนที่อาศัยอยู่ในเมืองโลมาลินดา นอกจากจะมีอายุยืนแล้ว ยังเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงโรคมะเร็งและโรคเบาหวานน้อยกว่าคนทั่วไปถึง 50%
5.ซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี
ซาร์ดิเนียเป็นเกาะขนาดใหญ่ตั้งอยู่แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้นิยมทานอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน หากจะกินเนื้อสัตว์ต้องเลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่มีขา หรือถ้าหากมีขา ก็ต้องเลือกที่จํานวนขาน้อยที่สุด เช่น สัตว์ปีก เนื่องจากมีความเชื่อว่าการกินเนื้อสัตว์จําพวกเนื้อวัว หรือเนื้อหมู จะทําให้สารพิษเข้าสู่ร่างกายและก็ตรงกับความจริงที่ว่าในเนื้อปลานั้นมีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าเนื้อหมู และเนื้อวัว
การทานอาหารแต่ละครั้ง จะใช้เวลาในแต่ละมื้ออย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้การกินแต่ละครั้งเกิดความสุขไม่ต้องเร่งรีบ จนเกิดความเครียด
ชาวซาร์ดิเนีย ยังนิยมปรุงอาหารด้วยน้ำมันมะกอก และน้ำมันจากถั่วเปลือกแข็ง ซึ่งมีวิตามินอีสูง และเป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัวมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
นอกจากนี้ เคล็ดลับอายุยืนของคนท้องถิ่นยังมาจากการดื่มไวน์ที่ชื่อ “Cannonau” ซึ่งเป็นไวน์ที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากกว่าไวน์อื่นๆ โดยนิยมดื่มพร้อมอาหารมื้อเย็น สำหรับผู้ชายจะดื่มปริมาณไม่เกิน 2 แก้ว/วัน ส่วนผู้หญิงไม่เกิน 1 แก้ว/วัน
อาจกล่าวได้ว่าประชากรในกลุ่ม Blue Zone ทานอาหารปรุงแต่งหรือแปรรูปในปริมาณที่น้อยมากๆ นิยมดื่มน้ำเปล่า ใช้วัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติปรุงอาหาร และได้น้ำตาลจากความหวานในผัก ผลไม้ อย่างไรก็ตาม
ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร สาขาวิชาโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความเห็นว่า เคล็ดลับอายุยืนของประชากรในกลุ่ม Blue zone ไม่ได้มาจาก อาหารเท่านั้น แต่ยังมาพร้อม อารมณ์ และออกกำลังกาย ซึ่งภูมิประเทศ 5 แห่งนี้ เอื้ออำนวยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเดินและขยับตัวได้ตลอดทั้งวัน การออกกำลังจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องฝืนแต่อย่างใด
วิถีชีวิตของประชากรกลุ่ม Blue Zone ช่วยให้เราได้เห็นมุมที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ โดยเฉพาในเรื่องอาหาร แต่หากภาครัฐต้องการผลักดันให้ไทยเป็นหนึ่งในพื้นที่ Blue zone ที่ประชากรมีอายุยืนยาว ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการปรับพื้นที่ผังเมืองให้เอื้อต่อการเดินเหินจนการออกกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรคนไทย คงเป็นหนึ่งในปัจจัยใหญ่ช่วยยืดอายุขัยในบริบทบ้านเมืองเราเช่นกัน