GISTDA เตือน กทม.-5จังหวัดPM2.5 กระทบสุขภาพ พบจุดความร้อน กระจายหลายพื้นที่
วันที่21เม.ย. เพจเฟซบุ๊ค GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) โพสต์ข้อความระบุว่า PM2.5 เช้านี้พบ 5 จังหวัด เหนือ- อีสาน ค่าฝุ่นมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ส่วน กทม. ส่วนใหญ่คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น เช็คฝุ่น
เมื่อเวลา 8.00 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2567 พบ 5 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ #แม่ฮ่องสอน 87.6 ไมโครกรัม #เชียงใหม่ 81.9 ไมโครกรัม #พะเยา 81.8 ไมโครกรัม #บึงกาฬ 81.4 ไมโครกรัม #น่าน 77.5 ไมโครกรัม ส่วนอีก 50 จังหวัดโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครเช้าวันนี้ส่วนใหญ่มีค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม
แอปพลิเคชั่น เช็คฝุ่น ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน เช็คฝุ่น มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบราย ชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน เช็คฝุ่น โดยดาวน์โหลดใช้งานแอปพลิเคชัน เพียงท่านพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ทั้งในระบบ IOS และ Android ก็สามารถใช้งานได้เลยทันทีครับ
ขณะเดียวกันในเฟซบุ๊คของ GISTDA ยังระบุอีกว่า จุดความร้อนของไทยวานนี้ 762 จุด พบมากสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 239 จุด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 762 จุด ข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่าจุดความร้อนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พบในป่าอนุรักษ์ 239 จุด ตามด้วยพื้นที่เกษตร 196 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 168 จุด ชุมชนและพื้นที่อื่นๆ 77 จุด เขต สปก. 73 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากที่สุด คือ #เชียงใหม่ 49 จุด
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านยังพบจุดความร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยสูงสุดวานนี้อยู่ที่ประเทศพม่า 1,669 จุด ลาว 1,515 กัมพูชา 801 จุด ไทย 762 จุด เวียดนาม 264 จุด และมาเลเชีย 15 จุด
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรง GISTDA ยังคงติดตาม วิเคราะห์ และรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่
ท่านสามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th สรุปสถิติจุดความร้อน (Hotspot) จากข้อมูลดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS ในพื้นที่ประเทศไทย ได้ที่ https://fire.gistda.or.th/dashboard.html ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน เช็คฝุ่น ควบคู่ด้วย