ส่องโควิด-19ระบาดในไทยหลังนายกฯเศรษฐาลาป่วยติดเชื้อ
ส่องโควิด-19ระบาดในไทย หลังนายกฯเศรษฐาลาป่วยติดเชื้อ สธ.เผยรอบสัปดาห์พบ นอนโรงพยาบาล 2,881 ราย เฉลี่ย 412 รายต่อวัน เสียชีวิตสะสม 144 ราย ขณะศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ชี้โควิด KP.2 กำลังแทนที่ JN.1ไม่รุนแรงแต่ติดเชื้อง่ายขึ้น
กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลาป่วยเนื่องจากติดโควิด-19 มีอาการป่วย อ่อนเพลียเล็กน้อยโดยติดเชื้อมาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14มิ.ย.67 แพทย์วินิจฉัยว่า น่าจะติดเชื้อโควิดมาสักระยะและให้พักรักษาตัวดูอาการ คาดว่าวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2567 จะกลับมาปฏิบัติราชการได้ตามปกติ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยแนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น โดยสถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19 รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มกลับมาพบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นซึ่งคาดว่าจะพบผู้ป่วยสูงในช่วงฤดูฝน แนะนำประชาชนหมั่นสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการผิดปกติทางระบบทางเดินหายใจควรตรวจ ATK เบื้องต้นด้วยตนเอง เนื่องจากปัจจุบันอาการไม่รุนแรง คล้ายไข้หวัด หากชะล่าใจอาจแพร่เชื้อสู่กลุ่มเสี่ยง 608 ได้ง่าย
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 9-15 มิถุนายน 2567 พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 2,881 ราย (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 119 ราย) เป็นผู้ป่วยอาการรุนแรงปอดอักเสบ 748 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 339 ราย เสียชีวิต 7 ราย
สำหรับประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีอาการ สามารถป้องกันตนเองได้ ดังนี้
หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัด หรือกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
สวมหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคลุกคลีกับผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ
หากมีอาการป่วยแต่ผลตรวจ ATK ยังไม่ติดเชื้อ ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใกล้ชิดกลุ่มเด็กเล็กหรือกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้สูงอายุและเด็กเล็กในครอบครัวซึ่งอาจทำให้มีอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้
ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan https://www.facebook.com/photo/?fbid=25952057804410158&set=a.192552250787400
ระบุว่า โควิด-19 สายพันธุ์ KP.2 กำลังเพิ่มขึ้นและจะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์ JN.1 ซึ่งสายพันธุ์ JN.1 อยู่ในประเทศไทยค่อนข้างยาวตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเป็นต้นมา ขณะนี้ถ้าดูการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ KP.2 กำลังจะเข้ามาแทนที่ JN.1
สำหรับสายพันธุ์ KP.2 เป็นลูกของ JN.1 หรือมีชื่อเล่นว่า FLi RT ซึ่งศัพท์คำนี้เมื่อ 30-40 ปีก่อนเราจะได้ยินบ่อยมากคำว่า "เฟลิร์ท" สมัยก่อนจำได้ว่า ผู้หญิงที่นุ่งกระโปรงสั้น หรือใส่สายเดี่ยว ก็จะเรียกว่า เธอ เฟลิร์ท ความรุนแรงของสายพันธุ์ใหม่นี้ ไม่ได้ก่อโรคที่ทำให้โรครุนแรงขึ้นแต่อย่างใด แต่จะทำให้ติดง่ายขึ้น และหลบหลีกภูมิต้านทานเดิมได้ดีขึ้น
สำหรับวัคซีนที่มีอยู่เป็นสายพันธุ์ XBB.1.5 องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เปลี่ยนวัคซีนเป็นสายพันธุ์ JN.1 บริษัทวัคซีนยังไม่ทันที่จะทำตามได้ ไวรัสก็เปลี่ยนสายพันธุ์เป็น KP.2 แล้ว
วัคซีนที่มีอยู่สายพันธุ์ XBB.1.5 เมื่อเชื้อเป็น JN.1 ประสิทธิภาพก็ลดลงมากพอสมควร และยิ่งเปลี่ยนเป็น KP.2 ก็จะลดลงอีก ถ้าจะใช้วัคซีนในปัจจุบันให้ได้ดี สายพันธุ์ของวัคซีนจะต้องเป็น KP.2 ดังนั้นในการพัฒนาวัคซีนให้ทันสายพันธุ์ หรือตรงตามสายพันธุ์จึงเป็นการยากในการที่จะตามให้ทัน
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจข้อมูลสถานการณ์โรคโควิด-19 และโรคติดต่ออื่นๆ ปัจจุบันกรมควบคุมโรคมีระบบเฝ้าระวัง Digital Disease Surveillance (DDS) ซึ่งเป็นข้อมูลสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและติดตามได้ที่หน้าเว็บไซต์กรมควบคุมโรค หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422