posttoday

กองทุนบัตรทองปี 68 เพิ่ม 5 รายการใหม่ บริการสุขภาพคนข้ามเพศ รวมอยู่ด้วย!

04 กรกฎาคม 2567

บอร์ดสปสช. มีมติเห็นชอบข้อเสนอหลักเกณฑ์บริหาร 'กองทุนบัตรทองปี 2568' กว่า 1.67 แสนล้าน พบมีรายการใหม่ที่เห็นชอบ 5 รายการ ตั้งแต่บริการสายด่วนวัยรุ่น ศูนย์ให้คำปรึกษาจิตเวช บริการมิตรภาพบำบัด บริการคัดกรองวัณโรคระยะแฝง และบริการสุขภาพสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 - นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช) เป็นประธานการประชุม บอร์ด สปสช. ครั้งที่ 7/2567 โดยมีวาระพิจารณา (ร่าง) หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2568 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • งบประมาณบัตรทองเพิ่มขึ้นกว่า 15 ล้านบาท

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้รับจัดสรรงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ปีงบประมาณ 2568 จากรัฐบาลจำนวน 235,842.80 ล้านบาท หรืออัตราเหมาจ่ายจำนวน 3,844.55 บาทต่อประชากร ในจำนวนนี้เป็นเงินเดือนบุคลากรภาครัฐจำนวน 68,089.63 ล้านบาท และเป็นงบประมาณที่ สปสช. นำมาบริหารจัดการจำนวน 167,753.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 จำนวน 15,014.93 ล้านบาท

  • มีรายการใหม่ต่อเนื่องจากปี 67 รวม 12 รายการ และรายการใหม่เพิ่มในปี 68 รวม 5 รายการ

สำหรับปีงบประมาณ 2568 มีรายการใหม่ต่อเนื่องจากปี 2567 ที่ต้องมีงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 12 รายการ รวมเป็นงบประมาณจำนวน 2,145.23 ล้านบาท อาทิ บริการที่สถานชีวาภิบาล การรักษาภาวะมีบุตรยาก การตรวจวินิจฉัยโรคหยุดหายใจขณะหลับ บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ และยาในบัญชี จ.2 เป็นต้น

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์รายการใหม่ของปี 2567 และตามนโยบายรัฐบาล 11 รายการ อาทิ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีด้วยปัสสาวะ บริการสิทธิประโยชน์ผู้ต้องขับเพิ่มเติม วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV เป็นต้น  

และมีบริการสิทธิประโยชน์ใหม่ของปี 2568 ที่บอร์ด สปสช. เห็นชอบในวันนี้อีกจำนวน 5 รายการ ได้แก่ บริการมิตรภาพบำบัด บริการสายด่วนวัยรุ่น/สายด่วนท้องไม่พร้อม ศูนย์ให้คำปรึกษาจิตเวช บริการสุขภาพสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ และบริการคัดกรองวัณโรคระยะแฝง latent TB

  • ปรับระบบการจ่ายเงินและการบริหารจัดการ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2568 ยังได้ปรับปรุงการบริหารจัดการ อาทิ บริการผู้ป่วยนอก โดยกันงบประมาณจากอัตราเหมาจ่ายรายหัวบริการเพื่อจ่ายสำหรับนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่” บริการกรณีเฉพาะในส่วนบริการปฐมภูมิไปที่ไหนก็ได้ ปรับระบบการจ่ายจากเดิมจ่ายตามรายการบริการ (Fee schedule) เป็นการจ่ายที่เหมาะสม เช่น แบบ pervisit และการปรับการจ่ายบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (UCEP) ภาครัฐ จากจ่ายตามรายการบริการเป็นจัดสรรแบบ Grant รายปี เพื่อพัฒนาระบบบริการวิกฤตฉุกเฉินให้มีคุณภาพและจ่ายตั้งแต่ต้นปี ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ สปสช. กำหนด 

นอกจากนี้ยังมีบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยขยายขอบเขตบริการจากเดิมครอบคลุมแค่บริการฟื้นฟู เป็นครอบคลุมบริการรักษาและป้องกันได้ด้วยงบท้องถิ่น รวมถึงปรับการจ่ายค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพฯ โดยเพิ่มการจ่ายตามรายการบริการจาก 22 รายการ เป็น 28 รายการ  เช่น ค่าฉีดวัคซีนพื้นฐาน (EPI) อัตรา 20 บาท เป็นต้น

  • เพิ่มงบบริการแพทย์แผนไทยขึ้นอีกหัวละกว่า 11 บาท

​​​​​​​บอร์ด สปสช. ยังได้เห็นชอบให้ปรับเพิ่มเติมงบบริการแพทย์แผนไทยจาก 20.37 บาทต่อประชากร เป็น 31.90 บาทต่อประชากร โดยขอให้ดำเนินการแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติมที่ระหว่างนี้อยู่ในการพิจารณาของทางสภาผู้แทนราษฎร์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการใช้ยาสมุนไพรของประเทศ