posttoday

CryBaby อาร์ตทอยสัญชาติไทยตัวเดียว ในวงล้อมของอาร์ตทอยจีนใน POP MART

05 กรกฎาคม 2567

มูลค่าตลาด ART TOY ในไทยพุ่งแรงเป็นแค่น้องพี่จีน โดยมี POP MART บริษัทสัญชาติจีนได้ส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด ส่วนอาร์ตทอยส่วนใหญ่ก็เป็นผลงานของศิลปินจีน เท่ากับว่าเม็ดเงินจะเด้งกลับไปยังจีน ส่วนไทยมีแค่ CryBaby คาแรคเตอร์สัญชาติไทยตัวเดียวที่ได้ประโยชน์จากกระแสนี้!

หากพูดถึงในตลาด ART TOY ต้องบอกว่ามาแรงมากโดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบัน POP MART ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีนและดำเนินธุรกิจขายของเล่นและของสะสมที่ใหญ่เป็นเบอร์ต้นในเอเชียสามารถทำรายได้ในปี 2566 ที่ผ่านมา จากธุรกิจในฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และต่างประเทศสูงถึง 1,066 ล้านหยวน ซึ่งเป็นการทะลุ 1,000 ล้านหยวนเป็นครั้งแรก ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 134.9 เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

POP MART เข้ามาเปิดร้านในไทยและมีข่าวมาว่าน่าจะเปิดสาขาที่ 6 เร็วๆ นี้ หนึ่งในนั้นคือสาขาที่เรียกว่าใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้จากที่เคยคาดว่าประเทศไทยจะมียอดขายอยู่ในอันดับ 4 เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ POP MART ทำการตลาด กลับกลายเป็นว่าไทยขึ้นสูงเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออก(เป็นรองแค่จีน) และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

อย่างไรก็ตามสินค้าที่นำมาขายใน POP MART จะเป็นสินค้าที่ถูกออกแบบด้วยชาวต่างชาติโดยเฉพาะศิลปินชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าจะสามารถขายและทำเงินในประเทศไทยได้มาก ไม่ว่าจะเป็น 'Molly' ผลงานของ Kenny Wong ศิลปินชาวฮ่องกง  คาแรกเตอร์ 'Dimoo' ออกแบบโดย Ayan Deng ศิลปินและนักออกแบบของเล่นชาวจีน 'Skullpanda' เป็นอาร์ตทอยลออกแบบโดย Xiongmao ศิลปินชาวจีน โดยเฉพาะ 'Labubu' ซึ่งกลายเป็นคาแรกเตอร์ที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยและเป็นอันดับ 1 ของโลกเมื่อเทียบกับยอดการขาย Labubu ในประเทศอื่น ซึ่งเป็นฝีมือของชาวฮ่องกงชื่อ Kasing Lung

 

Labubu

 

โดยมีการเปิดเผยจากทาง POP MART ว่าคนไทย คลั่งลาบูบู้มากที่สุด ทุกครั้งที่มีการวางจำหน่ายก็จะขายหมดภายใน 1 วัน และจากจำนวนสาขาของ POP MART ทั่วโลกกว่า 30 ประเทศ ไทยขายลาบูบู้ดีเป็นที่ 1 จนทำให้ POP MART สาขาที่บางนามาในธีม Labubu โดยเฉพาะ! ซึ่งความนิยมของ Labubu จุดติดจากการทำการตลาดผ่าน Celebrity ชื่อดัง รวมไปถึงกระแสที่ ‘ลิซ่า’ ศิลปินสัญชาติไทย ห้อยเจ้า Labubu โดยปี 2566 Labubu สร้างรายได้ 367,871,000 ล้านหยวน หรือคิดเป็น 5.8% ของรายได้ Pop Mart ทั้งหมด แค่คาแรคเตอร์เดียว

ไม่นับการที่ รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวถึงขั้นรับลูกพามาสคอต Labubu เที่ยวไทยเพื่อจัดทำคลิปวิดิโอประชาสัมพันธ์ประเทศเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวตามรอย Labubu ในประเทศไทย! เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

CryBaby อาร์ตทอยสัญชาติไทยตัวเดียว ในวงล้อมของอาร์ตทอยจีนใน POP MART

 

เมื่อหันมามอง CryBaby อาร์ตทอยสัญชาติไทย จากฝีมือของ คุณมด-นิสา ศรีคำดี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คุณมอลลี่” เป็น ART TOY ที่คนไทยพัฒนา และเป็นคาแรกเตอร์เดียวที่สามารถเข้าไปอยู่ใน POP MART ได้ โดยติดอันดับ 2 คาแรกเตอร์ที่ได้รับความสนใจในประเทศไทยสูงสุดที่ร้อยละ 30.14 รองจาก Lababu ซึ่งได้รับความนิยมอยู่ที่ร้อยละ 51.7 และสามารถทำราคาได้ต่อตัวตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักล้านบาท

 

CryBaby อาร์ตทอยสัญชาติไทย

 

นอกจากการขายใน POP MART ทั้งออนไลน์และออฟไลน์แล้ว CryBaby ก็ยังวางขายใน Lazada และ Shopee ด้วย CryBaby ไม่ได้รับความนิยมแค่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ได้รับความนิยมจากต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนไม่ต่างจาก Labubu เลย ..

โดยทางด้าน POP MART เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีโอกาสที่จะเห็นผลงานของศิลปินไทยคนอื่นๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพงานที่จะ “ผลักดัน” ตัวของศิลปินเอง เพราะหากดูจะพบว่า ลาบูบู้ กับ Cry baby ยอดขายดีสูสีกันเลยทีเดียว

 

CryBaby อาร์ตทอยสัญชาติไทยตัวเดียว ในวงล้อมของอาร์ตทอยจีนใน POP MART

 

ล่าสุดทางด้านกระทรวงวัฒนธรรมซึ่งผลักดันและส่งเสริมประเด็นซอฟต์พาวเวอร์ตามนโยบายของรัฐบาล มีความเคลื่อนไหว โดยจับมือกับศิลปินคนไทยคนแรกที่ได้ร่วมงานกับ Pop Mart เจ้าของคาแร็กเตอร์ CryBaby เพื่อที่จะหารือและผลักดันการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของคนไทยมากขึ้น .. พูดง่ายๆ คือมาหารือและเปิดอบรมกันว่าจะทำอย่างไรที่จะมีศิลปินอย่าง CryBaby คนที่สองและคนถัดไป

แม้ศิลปินไทยจะต้องเจอกับกำแพงเรื่อง ‘คุณภาพงานที่จะผลักดันตัวของศิลปินเอง’ จากกลุ่มธุรกิจแต่แท้ที่จริงแล้วประเทศไทยมีศิลปินที่โด่งดังในการสร้างคาแรคเตอร์อยู่อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น “Chalotte"  เด็กสาวผมขาว ตาสีฟ้า , “น้องมาร์ดี” เด็กน้อย 3 ตาหน้าบึ้ง กับชุดมาสคอตกระต่าย ,  MOTMO Studio ผู้สร้างสรรค์กองทัพสัตว์หิมพานต์สุดน่ารัก หรือ “Greenie & Elfie” โดย “Greenie” จะเป็นนางฟ้าตัวเล็กที่สดใสร่าเริง มองโลกในแง่ดี ชอบเล่นสนุก ท่องเที่ยว มาพร้อมเพื่อนคู่ใจ “Elfie” เจ้าช้างจิ๋วที่มีนิสัยซุกซน ขี้เล่น ชอบกินมันฝรั่งทอด ก็น่ารักไม่แพ้กัน

 

“Chalotte" เด็กหญิงผมขาวนัยน์ตาสีฟ้า

น้องมาร์ดี้

Greenie & Elfie”

 

 

เพราะฉะนั้นหากกระทรวงวัฒนธรรมมองเห็นว่านี่คือช่องทางการสร้างมูลค่าทาง ‘เศรษฐกิจ’ อย่างแท้จริง การมองแค่ประเด็นการพัฒนาบุคคลอาจจะยังไม่ครอบคลุมหรือไม่? คงต้องดูในส่วนของการส่งเสริมการขายทั้งตลาดในไทยและในตลาดต่างประเทศ อย่าปล่อยให้การขายผ่าน POP MART  เป็นช่องทางตลาดเดียว และเมื่อดูมูลค่าทางเศรษฐกิจที่มีการเติบโตเกือบร้อยเปอร์เซนต์ ก็ต้องบอกว่าอย่าช้า และปล่อยให้ Labubu กวาดเงินคนไทยกลับบ้านเกิดไปจนอ่วม!