posttoday

สปสช.โต้จ่ายคืน รพ.มากกว่าประกันขั้นต่ำมาหลายปี ย้ำให้ดูขาดทุนต้องเผยงบ!

06 สิงหาคม 2567

เลขาธิการสปสช.โต้เครือข่ายโรงพยาบาลฯ จ่ายมากกว่าประกันอัตราขั้นต่ำทุกปียกเว้นสองปีล่าสุด ซึ่งกำลังหางบมาเพิ่มเติม ชี้เงินจากหน่วยนวัตกรรมไม่ได้มากหากจะให้เกลี่ยมา ส่วนเรื่องโรงพยาบาลขาดทุน หากให้ดูก็ต้องเผยงบว่าเอาไปจ่ายอะไรด้วย แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครให้ดู

เมื่อวานนี้ (5 สิงหาคม 2567 ) โพสต์ทูเดย์ ได้เสนอข่าวประเด็น คณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายโรงพยาบาล กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (ยูฮอสเนส) และชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีการจัดสรรงบประมาณเหมาจ่ายเพื่อบริการประชาชน 

โดยมีประเด็นที่น่าสนใจคือ มีการระบุถึงการจ่ายเงินซึ่งไม่สมดุลกับรายจ่ายจากทางสปสช. โดยมีการขอให้ประกันอัตราจ่ายขั้นต่ำที่ 8,350 บาท/adjRW เนื่องจากก็เป็นอัตราที่ไม่สมจริงกับรายจ่าย อย่างรพ.รัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 หมื่นบาท  ส่วนต้นทุนโรงเรียนแพทย์อยู่ที่ 2.5 -3 หมื่นบาท จนมีโรงพยาบาลบางแห่งขาดสภาพคล่องไปแล้วกว่า 24 แห่ง

นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามถึงงบ 30 บาทรักษาทุกที่ เพราะในปี 2566 ตั้งงบฯ 504 ล้านบาท แต่ใช้ไป 994 ล้านบาท ส่วนปี 2567 รัฐให้งบ 74 ล้านบาท แต่มีการใช้ไปแล้วถึง 4,568 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทะลุ 6 พันล้านบาท จึงถามว่ารัฐมีวิธีการรับมืออย่างไร 

รวมไปถึงเรียกร้องให้มีการเกลี่ยงบจากส่วนอื่นมาชดเชย นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามถึงงบประมาณที่ใช้ในหน่วยนวัตกรรม ว่าสามารถนำมาจ่ายให้กับส่วนนี้ที่ยังไม่ได้จ่ายก่อนหรือไม่? ( อ่านเพิ่มเติม : ร้อง สปสช. ค่ารักษา 30บาทรักษาทุกที่ครึ่งปีนี้ 4 พันล้าน แต่จ่ายจริง 74 ล้าน )

 

  • งบปลายปิดเป็นสิ่งที่กำหนดตามกฎหมาย ชี้ปีก่อนๆ ก็จ่ายคืนมากกว่าที่กำหนด

เมื่อวานหลังจบการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 8/2567 นพ.จเด็จ  ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า

 

งบประมาณของสำนักงานหลักประกันแห่งชาติถูกกำหนดให้เป็น งบปลายปิด คือ มีเงินเท่าไหร่จ่ายตามนั้น ซึ่งทางสำนักงานกำลังดูตัวเลขอยู่ โดยปีนี้คาดว่าจะไม่เหลือ จึงทำให้ถูกมองว่าอาจจะไม่เพียงพอ ทางรัฐมนตรีเมื่อทราบก็มีการให้นโยบายว่า หากปริมาณงานเยอะก็จะหางบประมาณเพิ่มเติมเข้ามา

" แต่ถ้าดูย้อนหลังไปหลายๆ ปี จะพบว่าเราคืนเงินให้เกินกว่า 8,350 บาททุกปี อย่างปี 2565 เราคืนไปหมื่นกว่าบาทต่อหน่วย เพราะฉะนั้นเราก็กำลังดูเหมือนกันว่าที่ให้ไปแล้วเกิน จะขอคืนอย่างไรให้เอากลับมาใช้ก่อน เพราะถ้ามองย้อนหลังไปมันเกินทุกปี มีแต่ 2 ปีนี้ ( ปี 2566-2567 ) ที่ขาด 

เพราะฉะนั้นเวลาเรามองงบประมาณด้วยกติกาปลายปิด เมื่อเหลือก็คืน เมื่อขาดก็แบ่งกัน เราจะทำอย่างไร ถ้าบอกว่าต่อไปนี้เราจะไม่ปลายปิดแล้ว หมายความว่า ถ้าต่อไปนี้เงินเหลือ สปสช.ก็ไม่สามารถขอเงินคืนได้หรือเปล่า อันนี้ต้องมองอนาคต ว่าถ้าเหลือแล้วไม่คืน จะมาเรียกร้องกันอีกรึเปล่า มันเป็นระบบตามกฎหมายที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลยตามอารมณ์ " เลขาธิการสปสช.ระบุ

 

  • หน่วยนวัตกรรมจำเป็น วอนอยากให้นึกถึงมิติของประชาชน

นพ.จเด็จกล่าวอีกว่า จากประเด็นที่มีการพูดถึงการแบ่งงบให้กับหน่วยนวัตกรรมมากไปหรือไม่ จะบอกว่าคนที่ไม่ไปหน่วยนวัตกรรมก็ต้องไปหน่วยสาธารณสุขอยู่แล้ว ทั้งหมดที่เอามาใช้ เพื่อมาแบ่งเบาความแออัดของศูนย์บริการ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจนทั้งนั้น เพราะเดิมถ้าไม่มีร้านยานวัตกรรมให้ ก็ซื้อยากินเอง แต่วันนี้เมื่อมีหน่วยนี้เข้ามา พวกเขาก็เข้ามาใช้บริการได้บ้าง อยากให้มองมิติของประชาชนด้วย

ส่วนเรื่องงบประมาณ งบหน่วยนวัตกรรมไม่ได้มากมาย เป็นหน่วยเล็กๆ ตามนโยบายของท่าน ผู้ว่าฯกทม. ที่เสมือนเส้นเลือดฝอย หากมีเยอะ คนตัวเล็กๆ ก็จะใช้บริการจากเส้นเลือดฝอยเหล่านี้ก่อน ไม่ใช่ทุกคนต้องวิ่งเข้าเส้นเลือดใหญ่ อย่างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ หากไม่ใช้ระบบนี้เราก็ไม่สามารถให้บริการกับพวกเขาได้  ส่วนงบประมาณเดี๋ยวมาดูอีกทีว่าถ้าใช้น้อยจริง เราก็เกลี่ยมาใช้ส่วนอื่นได้

 

  • หากโรงพยาบาลไหนอยากให้ดูเรื่องขาดทุน ก็ต้องให้ดูว่าเอาไปจ่ายอะไรบ้างด้วย แต่ที่ผ่านมาไม่มีที่ไหนให้ดู!

ส่วนในกรณีที่มีรายงานข่าวระบุว่ามีโรงพยาบาลที่เสี่ยงต่อภาวะขาดทุนกว่า 24 แห่ง รวมไปถึงอีก 236 แห่งเสี่ยงเข้าเนื้อ เลขาธิการสปสช. ระบุว่า  ตัวเลขยังไม่ชัดเจน ท่านรัฐมนตรีฯ ยังไม่ทราบเรื่องโรงพยาบาลขาดทุน 24 แห่ง แต่ต้องไปดูกัน

"แล้วก็ต้องเรียนว่าโรงพยาบาลขาดทุนไม่ขาดทุน  หากโรงพยาบาลบอกกับทางสปสช. ด้วยก็จะดี เพราะเราก็ไม่มีข้อมูลเหมือนกัน สมมติโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งจะประสบภาวะขาดทุน เราก็ไม่ทราบ ท่านอาจจะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ก็ต้องไปดู หรือโรงพยาบาลบางแห่งที่ประสบปัญหาเนี่ย ก็เป็นสิทธิของท่านที่จะต้องบริหาร เพราะเราเป็นคนจ่ายเงินเข้าไป เราไม่ได้ดูค่าใช้จ่ายท่าน หากอยากให้เราดูก็ต้องเปิดให้ดูว่าท่านเอาไปจ่ายอะไรด้วย แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครอยากให้เราดู เพราะเราก็ไม่เคยเห็น แต่ว่าถ้าหากวันนี้อยากให้ดู เราก็ยินดีจะไปดูรายงานบัญชีอะไรก็ตาม แต่ที่ผ่านมายังไม่มี "