เปิดมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยว และ วิธีป้องกัน 'ฝีดาษลิง' สายพันธุ์ร้าย!
กรมควบคุมโรคออกมาตรการตัดกรอง ผู้เดินทางจากทวีปแอฟฟริกากลางและแอฟริกาตะวันออก เพิ่มเติม หลังองค์การอนามัยโลกแจ้งเตือนยกระดับความรุนแรงของ 'ฝีดาษลิงสายพันธุ์ 1b' ย้ำไทยยังไม่พบผู้ป่วยสายพันธุ์ดังกล่าว พร้อมแนะวิธีป้องกัน
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าจากสถานการณ์การระบาดของโรคฝีดาษวานรในทวีปแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันออก เช่น ประเทศสาธารณรัฐบุรุนดี สาธารณรัฐเคนยา สาธารณรัฐรวันดา สาธารณรัฐยูกันดา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก พบอัตราการป่วยด้วยโรคฝีดาษวานร สายพันธุ์ Mpox clade 1b สูงขึ้น ในปี 2565 - 2567 ผู้ป่วยสะสม 14,250 ราย เสียชีวิต 456 ราย
ขณะที่ประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร 140 ราย และเป็นสายพันธุ์ Mpox clade 2 ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์กับในทวีปแอฟริกา แต่อย่างไร มีมาตรการในการเฝ้าระวังสายพันธุ์ต่างๆในประเทศไทยอยู่แล้ว
- เปิดมาตรการตรวจคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ระบาด
จากสถานการณ์ดังกล่าว ได้มอบหมายกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค เพิ่มมาตรการและเข้มงวดการตรวจคัดกรองสุขภาพสำหรับผู้เดินทางจากพื้นที่ระบาด ได้แก่
- ตรวจสอบการลงทะเบียน Health Declaration เพื่อการควบคุมโรค ซึ่งต้องมีที่อยู่ การเดินทางและสถานที่ติดต่อระหว่างอยู่ในประเทศไทย
- ประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (Health Beware Monitor) 4 ภาษา ได้แก่ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน บริเวณด่านคัดกรอง รวมทั้ง QR code สำหรับการรายงานอาการเจ็บป่วยของตนเอง
- วัดอุณหภูมิร่างกาย
- หากพบผู้เดินทางมีผื่น หรืออาการเข้าได้กับ โรคฝีดาษวานร จะทำการแยกไว้ในห้องแยกโรคทันที และเก็บตัวอย่างจากผื่น และจากคอหอย ส่งตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ด้วยวิธี RT-PCR ณ ห้องปฏิบัติการของด่านควบคุมโรคฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสามารถรอผลตรวจในห้องแยก 70 นาที
- หากผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบ เป็นโรคฝีดาษวานร จะส่งรับการรักษา ณ สถาบันบำราศนราดูร
- กรณีพบผู้เดินทางมีผื่น ชัดเจนที่ด่าน หรือสนามบิน ให้พามาตรวจสอบอาการ ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อฯ ได้ทันที
- ยันยังไม่พบฝีดาษลิงสายพันธุ์มฤตยู 1b ที่ระบาดในแอฟริกา พร้อมแนะวิธีการป้องกัน
นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรคร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการเฝ้าระวังสายพันธุ์ของเชื้อฝีดาษวานร ในประเทศไทยด้วยการสุ่มตรวจมาโดยตลอด ยังไม่พบสายพันธุ์ clade1b ที่มีการระบาดอยู่ในทวีปแอฟริกา
สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกา ควรต้องติดตามว่าประเทศเหล่านั้นมีการระบาดหรือไม่ และควรระมัดระวังการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคล หมั่นสังเกตอาการตนเอง ถ้ามีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง หรือเริ่มสังเกตเห็นมีผื่นขึ้นตาม ร่างกายเป็นตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนอง ควรไปพบแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยรักษาตั้งแต่ต้น
กรมควบคุมโรค มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ โรคฝีดาษ วานร รวมถึงโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำอื่นๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ๆ อาจมีโอกาสพบผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศติดโรคหรือเจ็บป่วยได้ จึงขอเน้นย้ำการป้องกันโรคฝีดาษวานร ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หรือคนพลุกพล่าน หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดบุคคล และขอให้มีการทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวจุดสัมผัสร่วมสม่ำเสมอ
- หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
- หากผู้ที่มีอาการสงสัย สามารถขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง หากมีข้อสงสัย ให้ติดต่อสายด่วน 1422 กรมควบคุมโรค