posttoday

MIT Sloan ปักธงในไทย! แห่งที่ 2 นอกสหรัฐฯ หวังดันเครือข่ายเศรษฐกิจในอาเซียน

29 สิงหาคม 2567

สำนักงานด้านการบริหารธุรกิจระดับโลก เอ็มไอที สโลน (MIT Sloan School of Management) ปักธงในไทย! เตรียมเปิดสำนักงานนานาชาติแห่งที่ 2 ในกรุงเทพฯ ตุลาคมนี้ เล็งเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายศิษย์เก่าเอ็มไอทีต่อทุกภาคส่วนในภูมิภาค และขับเคลื่อนนวัตกรรมเศรษฐกิจในอาเซียน

สำนักงานบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน (MIT Sloan School of Management) เตรียมเปิดตัวสำนักงานด้านการบริหารธุรกิจนานาชาติ ภายใต้ชื่อ “สำนักงานบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (MIT Sloan Office for Southeast Asian Nations – MSAO)” เป็นแห่งที่ 2 นอกประเทศสหรัฐอเมริกา ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในเดือนตุลาคม 2567 นี้ เพื่อส่งเสริมโอกาสในการขยายขอบเขตการศึกษา การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และการประชุมสุดยอดอาเซียนในอนาคต

 

นางจอร์เจีย เปรากิส รักษาการคณบดี จอห์น ซี. เฮด ที่ 3 แห่งสำนักงานบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน กล่าวว่า “การขยายขอบเขตการดำเนินงานของสำนักงานธุรกิจเอ็มไอที สโลน มายังภูมิภาคอาเซียนในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพด้านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติให้กับนักศึกษาในปัจจุบัน แต่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายขอบเขตการศึกษาในหัวข้ออื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ด้านสภาพภูมิอากาศ ปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาแนวคิดผู้ประกอบการ และการศึกษารูปแบบการทำงานแห่งอนาคต ซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างทั้งในระดับประเทศและระดับโลก”

โดย สำนักงานบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน ในกรุงเทพฯ จะทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์ในการขยายขอบเขตการดำเนินงานของสถาบันทั่วภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตและความแข็งแกร่งของเครือข่ายศิษย์เก่าเอ็มไอทีที่ดีเยี่ยม มีศักยภาพและโอกาสสำหรับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย บริษัทชั้นนำ และหน่วยงานรัฐบาล เพื่อร่วมกันจัดสัมมนา และการประชุมประจำปีในภูมิภาค นอกเหนือจากโครงการวิจัยที่ได้ดำเนินการในปัจจุบันที่มุ่งเน้นในหัวข้อความพร้อมรับมือต่อการขยายตัวของเมือง (urbanization and resiliency) ความท้าทายด้านสถานการณ์น้ำต่อภาคเกษตรกรรม (water and agricultural challenges) และความพร้อมของวัคซีนและการติดตามผล (vaccine availability and tracking)

 

ด้าน นางแคธริน ฮอว์กส์ รองคณบดีอาวุโสฝ่ายพันธมิตรระหว่างองค์กรแห่งสำนักงานบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอ็มไอที มีศิษย์เก่ากว่า 1,900 คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจำนวนนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เมื่อพิจารณาจากความสนใจของคณาจารย์และนักศึกษาที่มีต่อโอกาสในการวิจัยและความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยการก่อตั้งในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยผนึกกำลังของสมาชิกเอ็มไอที สโลน และภูมิภาคอาเซียนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกผ่านงานวิจัยที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงแผนงานพัฒนาโปรแกรมการศึกษา การวิจัย และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”

 

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โครงการ MIT Sloan Action Learning ได้เปิดให้นักศึกษาจำนวนกว่า 700 คน ได้มีโอกาสเข้าร่วมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ในหลากหลายหัวข้อ อาทิ ฟินเทค เศรษฐกิจสูงวัย (aging and the economy) และอีกมากมาย ผ่าน 200 โครงการครอบคลุม 5 ระดับหลักสูตรการศึกษา ซึ่งจัดขึ้นโดย 96 บริษัทในประเทศกัมพูชา มาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

 

“การเปิดสำนักงานนานาชาติแห่งที่ 2 นอกประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อจากสำนักงาน เอ็มไอที สโลน ที่เมืองซันติอาโก ประเทศชิลี โดยเราหวังว่าการเปิดตัวในครั้งนี้ จะช่วยก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้บริหารและผู้ประกอบการชั้นนำในภูมิภาค พร้อมเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายศิษย์เก่าและพันธมิตรที่จะขยายการเติบโตต่อไป” นายเดวิด คาโพดิลูโป ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายโปรแกรมระดับโลกของสำนักงานบริหารธุรกิจ เอ็มไอที สโลน กล่าวเสริม

 

สำนักงานบริหารธุรกิจ เอ็มไอที สโลน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (MSAO) เป็นสำนักงานที่จัดว่าอยู่ในระดับท็อปของโลกด้าน MBA โดยมีการเปิดเผยว่าสำนักงานจะช่วยเสริมศักยภาพและร่วมกำหนดกรอบการทำงาน รวมถึงปรับรูปแบบความเป็นผู้นำให้กับผู้ประกอบการในภูมิภาค ผ่านการต่อยอดกิจกรรมต่างๆ ในโครงการ Global Programs ซึ่งรวมถึง MIT Regional Entrepreneurship Acceleration Program  ที่มุ่งเสริมการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในภูมิภาค ผ่านการนำเสนอผลงานวิจัยและแนวทางจากคณาจารย์ชื่อดังระดับโลก

Innovation Dynamic Education and Action for Sustainability โครงการฝึกอบรมผู้นำเพื่อพัฒนาทักษะด้านการจัดการความยั่งยืน และ Visiting Fellows โครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาและศิษย์เก่าของสถาบันได้กำหนดรูปแบบการศึกษาจากสถาบันวิจัยชั้นนำของโลกด้วยตนเอง เพื่อนำไปพัฒนาทักษะที่จำเป็นในเวลาอันรวดเร็ว

 

MSAO มีเป้าหมายที่จะดำเนินงานร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างใกล้ชิด ยกตัวอย่างเช่น Asia School of Business ณ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางประเทศมาเลเซีย โดยมีการนำเสนอหลักสูตรปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจ (MBA) ปริญญาโทบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหาร (EMBA) และปริญญาโทด้านการธนาคารกลาง (Master’s degree in Central Banking programs) ให้กับเหล่าผู้เรียน

 

สำหรับประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ ถือเป็นหนึ่งในองค์กรที่ร่วมสนับสนุน พร้อมร่วมงานกับเอ็มไอที สโลนในภูมิภาคนี้มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดย นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และศิษย์เก่าเอ็มไอที รุ่น SM ’83 และ SM ’84 กล่าวว่า “สำนักงานบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน มีความโดดเด่นในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านคณาจารย์และหลักสูตรระดับโลก ผมมองว่าการเปิดตัว MSAO ในครั้งนี้จะช่วยผสานพลังความร่วมมือที่มีอยู่ พร้อมทั้งเปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นได้”

นอกจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมให้การสนับสนุนในครั้งนี้แล้ว สำนักงานบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (MSAO) ยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กรชั้นนำของประเทศไทยหลายแห่งในการสมทบทุนก่อตั้งสถาบัน ได้แก่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด เป็นต้น