รู้จักวัคซีน Tdap เกราะป้องกันโรคไอกรน ฉีดก่อน ลดเสี่ยงติดเชื้อ

19 พฤศจิกายน 2567

ชวนทำความรู้จักกับ "วัคซีน Tdap" เกราะป้องกันโรคไอกรนสำหรับคนทุกวัย ลดความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่กระจายโรค

ปัจจุบัน โรคไอกรนกำลังกลับมาแพร่ระบาดในบางพื้นที่ ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียของระบบทางเดินหายใจ ทำให้มีภาวะไอรุนแรง ไอนานต่อเนื่อง โดยมีความรุนแรงมากในกลุ่มเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม สำหรับในเด็กโต วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ที่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรนมาแล้ว อาการติดเชื้อจะไม่รุนแรงนัก แต่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนไม่ได้อยู่ตลอดไป แพทย์จึงมีคำแนะนำให้พิจารณารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน 

รู้จักวัคซีน Tdap เกราะป้องกันโรคไอกรน ฉีดก่อน ลดเสี่ยงติดเชื้อ

วัคซีน Tdap: เกราะป้องกันโรคไอกรน

โรคไอกรนเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม ส่งผลให้เกิดอาการไอรุนแรง ต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ วัคซีนมี 2 ชนิด ได้แก่ 

  • วัคซีนไอกรนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในเด็ก เป็นวัคซีนที่เด็กควรได้รับจำนวน 5 เข็ม โดยใน 6 เดือนแรกได้รับ 3 เข็ม หลังจากนั้นมีการให้กระตุ้นในช่วงอายุ 1-2 ปี และ 4-5 ปีตามลำดับ ภูมิจะสูงเพียงพอในการป้องกันโรค วัคซีนชนิดนี้มักเป็นวัคซีนรวม ควบคู่ไปกับโรคอื่นๆ เช่น คอตีบ และบาดทะยักในเข็มเดียวกัน
  • วัคซีนไอกรนเข็มกระตุ้น Tdap สำหรับวัยรุ่น ผู้ใหญ่ และหญิงตั้งครรภ์ เป็นการให้วัคซีนไอกรนลดขนาดเพื่อกระตุ้นภูมิให้กับวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคยได้รับวัคซีนมาแล้ว เพื่อกระตุ้นภูมิเพื่อป้องกันโรคไอกรนให้สูงขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโดยเฉพาะเมื่อมีการระบาด สำหรับหญิงตั้งครรภ์ แนะนำให้ฉีดทุกการตั้งครรภ์ เพื่อส่งผ่านภูมิคุ้มกันต่อโรคไอกรนไปปกป้องทารกในระยะหลังคลอดจนถึงอายุ 6 เดือน

สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรกลับไปทบทวนประวัติฉีดวัคซีนไอกรนของเด็ก ว่าได้รับครบถ้วน 5 เข็มหรือไม่ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรค หากได้รับวัคซีนครบตามวัย เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี จะไม่มีความจำเป็นต้องได้รับวัคซีนอีก 

สำหรับวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่อาจพิจารณารับวัคซีนไอกรนเข็มกระตุ้น Tdap เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในช่วงที่มีการระบาด หากเคยได้ฉีดวัคซีน Tdap มาแล้ว แนะนำเว้นระยะอย่างน้อย 10 ปี 

โรคไอกรน รักษาอย่างไร

สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคไอกรน การรักษาจะใช้ยาปฏิชีวนะจำนวน 5 วัน เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำให้อาการทุเลาลง และตัดวงจร ลดการแพร่กระจายของเชื้อสู่คนในครอบครัว และผู้ใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อไอกรนสามารถส่งต่อเชื้อให้กับผู้สัมผัสใกล้ชิดได้ ตั้งแต่เริ่มป่วย และต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานถึง 3 สัปดาห์ ดังนั้นผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือคนในบ้านเดียวกันมีโอกาสได้รับเชื้อในช่วงเวลาดังกล่าว จึงแนะนำให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะรับประทานเพื่อฆ่าเชื้อ ก่อนจะเริ่มแสดงอาการของโรคไอกรน

 

รู้จักวัคซีน Tdap เกราะป้องกันโรคไอกรน ฉีดก่อน ลดเสี่ยงติดเชื้อ

ป้องกันตัวเองอย่างไร ไม่ให้ติดเชื้อโรคไอกรน

การรักษาสุขอนามัยและการป้องกันการรับเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียไอกรน หรือเชื้อโรคต่างๆ ที่มาในช่วงฤดูหนาวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดการรับเชื้อเข้าสู่ตนเอง การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการไอ จาม น้ำมูก เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนใกล้ชิด รวมทั้งพิจารณาใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องไปในพื้นที่แออัด 

ทั้งนี้ โรคไอกรนซึ่งเป็นโรคที่มีวัคซีนป้องกันได้ แนะนำให้รับวัคซีนให้ครบถ้วนเหมาะสมตามวัย ทั้งวัคซีนของเด็กเล็ก และวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ Tdap เป็นส่วนสำคัญในการช่วยปกป้องตัวเราเองและครอบครัวจากโรคไอกรน

Thailand Web Stat